สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

วัดกองดิน เป็น วัดสุดท้าย ของ จังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดกึ่งกลางของภูมิภาค 4 จังหวัดทางภาคตะวันออกคือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด โดยทางสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 4 ปราจีนบุรี ร่วมกับศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่น อำเภอแกลง และสำนักงานเทศบาลตำบล ได้ร่วมสำรวจและตั้งหมุดประวัติศาสตร์ ในสถานที่ของวัดกองดิน นับเป็นลำดับที่ 26 สุดท้ายของเขตจังหวัดระยอง ในเส้นทางสายเอกราชการเดินทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คราวยกทัพไปเพื่อตีเมือง จันทบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2310

เทศบาลตำบลกองดิน ได้บันทึกประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ไว้ว่า

“...เมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยามีข้าศึกพม่า ยกทัพมาประชิดพระนคร บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายระส่ำระสายไม่มีใครคิดที่จะต่อสู้กับข้าศึกพม่า ต่างพยายามที่จะหนีเอาตัวรอดกัน ครั้งนั้นพระยาวชิรปราการเห็นว่าพม่ามีกำลังเสริมเพิ่มขึ้น และล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ทุกด้าน เห็นทีจะเสียกรุงแก่พม่าเป็นแน่แท้... หากเราขืนชักช้า...อยู่ช่วยรบทำการป้องกันพระนคร ก็อาจจะพ่ายแพ้แก่ข้าศึกศัตรูพวกพม่าได้ จนลุถึง วันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 4 ค่ำ พุทธศักราช 2309 ปีจอ อัฐศก

สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

พระยาวชิรปราการ จึงได้ตัดสินใจรวบรวมไพร่พลราว 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพวกพม่าไปทางค่ายวัดพิชัย บ้านโพธิ์สังหาร แล้วมุ่งตรงไปยังหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออกเพื่อรวบรวมกำลังไพร่พล โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองจันทบูรณ์ ในระหว่างการเดินทัพ ได้ผ่านเมืองระยอง บ้านไร่ บ้านกร่ำ เมืองแกลง ประแส เพื่อมุ่งไปสู่จันทบูรณ์นั้น กองทัพของพระยาตากฯ ได้มาตั้งค่ายหยุดพักทัพม้าทัพช้างและไพร่พลอยู่ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่ง และใช้สถานที่ดังกล่าวในการตำดินปืนเพื่อเตรียมไว้ใช้ในการออกศึกสงคราม...”

สถานที่ตำดินปืนในครั้งนั้นจึงถูกเรียกว่า “กองดินปืน” เป็นเหตุที่มาของชื่อหมู่บ้านหรือตำบล นานเข้าก็เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ตำบลกองดิน” สืบมาจนถึงปัจจุบัน
  สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

การสร้าง พระพุทธภัทรปิยปกาศิต ในภาคตะวันออกนี้ มีประวัติเล่ากันมาว่า พระพุทธรูปองค์นี้ กษัตริย์พระองค์หนึ่งในยุคสมัยเชียงแสน ราวปีพุทธศักราช 1700 เพื่อเทิดพระเกียรติ ในคราวงานเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 4 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2513 วัดกองดิน จ.ระยอง ได้จัดประกอบพิธีเททองหล่อ โดยสร้างขยายส่วนมาจากพระพุทธรูปองค์ต้นแบบองค์หนึ่ง ที่มีพระนามว่า พระพุทธภัทรปิยปกาศิต หรือ หลวงพ่อปกาศิต ซึ่งมีขนาดหน้าตัก 12 นิ้ว สำเร็จด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ขาว
 

ในตำนานได้เล่าว่า ในพระเศียรจอมกระหม่อมเกศบัวตูมขององค์ หลวงพ่อปกาศิต องค์ต้นแบบนี้ ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้จำนวนหนึ่ง และมีเหล่าเทพเทวาชั้นสูง ผู้มีมหิทธานุภาพรักษาอยู่ถึง 9 พระองค์

มีตำนานความเชื่ออีกส่วนหนึ่ง เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อปิยปกาศิต ที่ได้มีผู้มาสร้างไว้ในภาคตะวันออกนี้ว่า

“พระพุทธภัทรปิยปกาศิต” องค์ต้นแบบนี้ มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาแต่สมัยที่ท่านยังทรงผนวชเป็นพระภิกษุคู่กับนายทองด้วง (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือ รัชกาลที่ 1) ที่หัวเมืองพิษณุโลก เมื่อลาสิกขาแล้ว พระองค์ได้นำเอาพระพุทธรูป คือ หลวงพ่อปกาศิต มาด้วย ภายหลังได้เข้ารับราชการ ไปรบทัพจับศึกที่ไหน ก็จะนำพระพุทธรูปองค์นี้ไปด้วย ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บุญบารมีประจำพระองค์ และมักได้ชัยชนะกลับมาทุกครั้ง จึงมีนามอีกอย่างหนึ่งว่า “พระไชยหลังช้าง” หรือ “พระนำชัย” มีผู้กล่าวว่า แม้การยกทัพไปเมืองจันทบูรณ์คราวนั้น “พระพุทธภัทรปิยปกาศิต” ก็ได้มากับกองทัพของ พระยาตาก(สิน) นี้ด้วย
.....นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ที่ท่าน พระมหารัตน์ เขมธัมโม ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของ วัดกองดิน ได้สืบค้นคว้าเสาะหาข้อมูล ประวัติเรื่องราวความเป็นมาของ พระพุทธภัทรปิยปกาศิต จนได้ทราบข้อมูลที่เชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องถึงกัน
.....ใน จดหมายเหตุกรุงศรี พระพุทธภัทรปิยปกาศิต ได้บันทึกไว้ว่า “นับกาลเวลาจาก สมัยกรุงธนบุรี ปี พ.ศ. 2310 ผ่านมาถึง รัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2510 ได้มีคณะบุคคลซึ่งเป็นชาวธนบุรี 16 คน ผู้สืบสายวงศ์ตระกูลและมีความเคารพศรัทธาเทิดทูนในองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทำการสืบค้นหาสถานที่แห่งหนึ่งในภาคตะวันออก อันเป็นชัยมงคลวิเศษมีต้นโพธิ์รุกขชาติปลูกเรียงกันปรากฎอยู่ 3 ต้น เป็นไปตามคตินิมิตของเทพยดาที่อยู่เฝ้าปกปักรักษา พระปกาศิตพุทธนำชัย ณ สถานที่อันมีตำนานเรื่องราวการเดินทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในเทพนิมิตนั้นได้ทำนายความเป็นโวหารอัศจรรย์ล้ำลึกไว้ว่า

สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

“…ให้ประกอบพิธีจัดสร้างพระพุทธรูป พระชัยหลังช้างอันเป็นพระคู่บารมีของพระยาตากนี้ไว้ ณ สถานที่มีโพธิ์สามต้นปลูกไว้ เป็นปฐมเหตุแห่งพระประธานประจำเบื้องบูรพาทิศสืบไปในกาลภายหน้า เทพยดาผู้มีหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธรูปอันสูงยิ่งด้วยกำลังเทพฤทธิ์และทรงความศักดิ์สิทธิ์ไว้พร้อมนี้แล้ว ก็จักดลบันดาลอาราธนาองค์พระชัยฯ ให้เคลื่อนคลามาประดิษฐานไว้อยู่ร่วมกัน ณ มณฑลภาคตะวันออกแห่งนี้ปรากฎนามสืบไปชั่วอายุไขยแห่งพระพุทธศาสนาจำเริญครบถ้วน 5,000 ปี เป็นกำลังพระบารมีปกป้องแผ่นดินเบื้องบูรพาทิศนื้สืบไปชั่วกาลนาน ”

และข้อความอีกตอนหนึ่งในจดหมายเหตุกรุงศรี ได้กล่าวไว้ดังนี้ ”

พระประธาน พระพุทธภัทรปิยปกาศิต ณ วัดกองดิน มีประวัติบันทึกไว้ว่า ได้เริ่มสร้างในปี 2511 แต่มีเหตุอุปสรรคขัดขวางมาก พราหมณ์ผู้สัมผัสในพระบารมีจึงได้ประกอบพิธีสักการะพร้อมเครื่องบวงสรวงบายศรีทูลแจ้งฯ ผ่านองค์เทพยดาผู้ทรงกำลังฤทธิ์ ได้ปกาศิตบอกเคล็ดวิธีในการสร้างองค์พระฯ ให้สำเร็จว่า ต้องเสริมชัยมงคลแห่งพระนามอันเอกอุเลื่องลือนามในแผ่นดินสยามรัตนโกสินทร์ ให้อัญเชิญเสริมพระนาม “ ปิย ” ขึ้นมา จึงจักประกอบพิธีฯสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในพระนามรู้จักกันมาแต่กาลบัดนั้นว่า “พระพุทธภัทรปิยปกาศิต” สำเร็จในปี 2513 เป็นพระพุทธรูปพระประธานประจำอุโบสถสถาน ณ วัดกองดิน ประกอบพิธีสร้างแบบที่เรียกกันในสมัยนั้นว่า พิธีหล่อแบบโบราณนับเป็นองค์แรก

สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ
 

เป็นครั้งแรกของวัดวาอารามในสังฆมณฑลภาคตะวันออก และในปี 2546 ได้ประกอบพิธีบรรจุ พระพุทธภัทรปิยปกาศิต องค์ต้นแบบไว้ ณ ภายในองค์พระประธาน พระพุทธภัทรปิยปกาศิต พร้อมทั้งได้บรรจุพระผงสมเด็จองค์ปฐม จำนวน 84,000 องค์ ตามนิมิตของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ไว้ด้วย โดยพระผงฯ ทุกองค์ล้วนมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ ปัจจุบันพระธาตุในนามสมเด็จองค์ปฐมนี้มีเสด็จมาเพิ่มมากกว่า 1 แสนองค์แล้ว

 

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดกองดิน

 1.วัดสุดท้ายของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในตำแหน่ง จุดกึ่งกลาง 4 จังหวัดของภาคตะวันออก(ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)

 2.มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ลำดับเส้นทางสายเอกราช หมุดประวัติศาสตร์ที่ 26 เส้นทางเดินทัพไปจันทบูรณ์ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

 3.มีโพธิ์ 3 ต้น 15 คนโอบรอบ เชื่อกันว่า เป็นโพธิ์นิมิตอธิษฐานจิตปลูกของพระเจ้าตากฯ

สักการะพระไชยหลังช้าง พระนำชัยของพระเจ้าตาก ขวัญกำลังใจในสมรภูมิรบ ย้อนเล่าที่มาวัดกองดิน เส้นทางเดินทัพกู้ชาติ

(โพธิ์3ต้น เป็นโพธิ์นิมิตอธิษฐานแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสิน)

 4.ภายในองค์ของหลวงพ่อปิยปกาศิต บรรจุพระผงสมเด็จองค์ปฐม จำนวน 84,000 องค์

 5.นมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุปาฏิหาริย์

 6.ปิดทองรูปแกะสลักไม้แก่นขนุนป่า หลวงปู่ทวด/สมเด็จโต ฯ

 7.กำหนดจัดงานประจำปีหลวงพ่อปิยปกาศิต เทศกาลปีใหม่ – เทศกาลตรุษจีน ของทุกปี และ 13 เมษามหาสงกรานต์ สรงน้ำหลวงพ่อ ฯ 2 จังหวัด

 

ขอคุณข้อมูลจาก : blogpost สืบสานตำนานค่าย วัดกองดิน

: โครงการอุทยานประวัติศาสตร์ กองดินปืน

ข่าว : ไญยิกา เมืองจำนงค์ (ทีมข่าว ปัญญาญาณทีนิวส์)