ศิษย์หลวงปู่โลกเทพอุดร "หลวงปู่กอง" หญิงสาวอยากมีเสน่ห์!!! เจอ!! เจิมหน้าผากด้วยปลัดขิกยักษ์ ตกใจโวยวาย!!! แต่สุดท้าย!!ต้องดีใจแทบตาย....

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล อยุธยา

มีผู้หญิงท่านหนึ่งมากราบหลวงปู่กอง วัดสระมณฑล จ.อยุธยา ก็มารดน้ำมนต์ทำบุญกับหลวงพ่อให้เป็นสิริมงคล

แล้วไปบอกหลวงพ่อว่าหลวงพ่อหนูขอให้หลวงพ่อเสกเกี่ยวกับมหาเสน่ห์ให้ดิฉันหน่อยค่ะ

แล้วหลวงพ่อ ก็หยิบปลัดขิกตัวใหญ่ เป็นไม้แกะมาเจิมหน้าผากให้ ผู้หญิงเห็นก็ตกใจ ร้องว๊ายหลวงพ่อเอาอะไรมาโดนหน้าผากหนูเนี้ย ทำท่าทีโมโหไม่พอใจหลวงพ่อ...

หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นว่า...เอ่า มึงไม่ได้เกิดมาจากนี่ เหรอ!

แต่ท่านก็จารให้ พอศิษย์คนนี้กลับไป สรุปถูกหวยยกใหญ่

ในยุคบั้นปลายของหลวงปู่เทียม ท่านให้พระในวัด นำแผ่นตะกั่ว ทองแดง มาให้หลวงพ่อเขียนยันต์ ไม่ว่าจะเป็น " มหาระงับ สี่มหาอำนาจ เก้ารัตนมาลา มหาละรวย ดวงแก้ว ไตรปิฎก " เพราะวัดกษัตรา และ วัดสระมณฑล อยู่ไม่ไกลกัน หลวงปู่กอง ท่านเป็นมือขวา ( ศิษย์เอก และ ศิษย์รุ่นแรก ) ของหลวงปู่เทียมก็ว่าได้

ตะกรุดของหลวงปู่ของทุกชนิด สามารถใช้แทนตะกรุดของหลวงปู่เทียม ได้ทุกประการ แต่จะหายากหน่อย และ แพงหน่อย (ถ้าเป็นมหาระงับ ราคาจะใกล้ ๆ มหาระงับหลวงปู่เทียม )ส่วนมากคนแถว ๆ วัดจะมี แต่มีก็เป็นแค่ตะกรุดดอกเล็ก 2-3 นิ้ว ส่วนดอกใหญ่ ท่านจะทำให้เป็นพิเศษเฉพาะคน

ยันต์ที่ลงในตะกรุดดอกเล็กของท่านส่วนมากเป็นยันต์เฑาะว์ ( หลังเหรียญหลวงพ่อกลั่น 2469 ) และ ก็ นะมหาอุต ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ทางอยู่ยงคงกระพัน ชาตรี มหาอุต

ดอกใหญ่ไม่ทราบแน่ชัด แล้วแต่ตัวของตะกรุดมากกว่า ถ้าท่านทำตะกรุดมหาปราบ ท่านก็ลงยันต์มหาปราบ มหาระงับ ก็ ยันต์มหาระงับ ถ้าไม่ถามท่าน ท่านก็จะไม่บอกว่ายันต์อะไร

ตะกรุดท่านแทบทุกดอกท่านจะม้วนรูปพระครูเทพโลกอุดร พระอาจารย์องค์หนึ่งของท่าน ไปด้วย

หลวงปู่กองท่านจะเก่งมาก ๆ ในวิชามงกุฎพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าท่านศึกษามาจากพระครูเทพโลกอุดร ท่านก็ยังชอบสอนให้ท่องคาถานี้ไว้ เป็นเมตตามหามงคล คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันภูติผีปีศาจ ดีเยียม

ศิษย์หลวงปู่โลกเทพอุดร "หลวงปู่กอง" หญิงสาวอยากมีเสน่ห์!!! เจอ!! เจิมหน้าผากด้วยปลัดขิกยักษ์ ตกใจโวยวาย!!! แต่สุดท้าย!!ต้องดีใจแทบตาย....

บ้านพระเครื่อง
สนใจคมแฝกคลิ๊ก

 

ประวัติหลวงปู่กอง
หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ 2 ใน 3 คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2442 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง
มูลเหตุบรรพชา
ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหากจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน
ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส

ลาสิกขา
ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก 3 คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง

ศิษย์หลวงปู่โลกเทพอุดร "หลวงปู่กอง" หญิงสาวอยากมีเสน่ห์!!! เจอ!! เจิมหน้าผากด้วยปลัดขิกยักษ์ ตกใจโวยวาย!!! แต่สุดท้าย!!ต้องดีใจแทบตาย....

 


 

ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ 55 ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม พ.ศ.2495 โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา
ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน
ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำบัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย

ศิษย์หลวงปู่โลกเทพอุดร "หลวงปู่กอง" หญิงสาวอยากมีเสน่ห์!!! เจอ!! เจิมหน้าผากด้วยปลัดขิกยักษ์ ตกใจโวยวาย!!! แต่สุดท้าย!!ต้องดีใจแทบตาย....

ที่มา พระเกจิอยุธยา

       www.wisonin.com