พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

ติดตามต่อที่ http://www.tnews.co.th/

จากที่มีข่าวกันไปในเรื่องของ นายจูเลียน ดิซิเลต หรือ พระจูเลียน ชาวแคนดาที่เข้ามาบวชใต้ร่มพระพุทธศาสนาในประเทศไทย และ อีกรูปหนึ่งก็คือ พระพุธทรักขิตาภิขุเดิม มีชื่อว่า( สตีเว่น คาบอคโกซา) ในภาาบาลีซึ่งมีความหมายว่า ผู้ปกป้องรักษาพระพุทธเจ้าภิกษุผิวสี เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1966 ในครอบครัวชาวคริตส์ จากประเทศยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนา และ เผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา

 

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนาและขณะนี้ก็ยังเป็นเพียงรูปเดียวของโลก พระพุทธรักขิตา มีความสนใจในคำสอนของพระพุทธศาสนา มานานจนได้บวชเป็นพระภิกษุในปีค.ศ. 2002 จากนั้นท่านกลับไปยูกันดาเพื่อหามารดาและญาติพี่น้อง โดยกลับไปในฐานะพระภิกษุและพระธรรมทูตในพระพุทธศาสนา ท่านต้องฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ ตลอดจนความไม่เข้าใจแม้แต่จากชุมชนท้องถิ่นและญาติพี่น้อง แต่ในที่สุดท่านสามารถสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นได้ และจัดตั้งศูนย์พระพุทธศาสนาขึ้นที่กรุงกัมปาลา (Kampala) นครหลวงของประเทศยูกันดา (Uganda) เมื่อปีค.ศ. 2005

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

ด้วยบทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคำเรียกร้องมากมายของผู้ที่อาตมาพบในแอฟริกา อเมริกา และเอเชีย พวกเขาถามอาตมาด้วยคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์อยู่เสมอ บางครั้งอาตมาได้แต่ตอบพวกเขาไปอย่างสั้นๆ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วไม่มีเวลามากพอที่จะตอบได้อย่างครบถ้วน

มีคนถามอาตมาอยู่ตลอดว่า อาตมานับถือศาสนาอะไรก่อนจะบวชเป็นพระ เรียนทำสมาธิจากที่ไหนในยูกันดา บวชได้อย่างไรในยูกันดาทั้งๆ ที่ไม่มีวัดเลย ใครคือแรงบันดาลใจให้ออกบวช ทำไมจึงบวชเป็นพระ การจะบวชต้องทำอย่างไรบ้าง อาตมามีวัดเป็นของตัวเองในยูกันดาหรือไม่ ครอบครัว (โยมแม่) ของอาตมารู้สึกอย่างไรที่อาตมาบวช คนแอฟริกันคิดอย่างไรกับอาตมาในฐานะพระสงฆ์ เป็นต้น

เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ไม่เป็นอัตชีวประวัติ แต่ถ้าดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นก็ขอให้ผู้อ่านอดทนสักหน่อยเถิด ด้วยจุดประสงค์หนึ่งเดียวของอาตมาคือการพยายามอธิบายให้เห็นถึงพัฒนาการของพระพุทธศาสนาในแอฟริกา โดยเฉพาะในยูกันดา เป็นปณิธานของอาตมาที่ว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยตอบคำถามของท่านทั้งหลาย และเป็นแรงผลักดันให้ท่านก้าวไปข้างหน้าสำหรับการเดินทางในโลกแห่งธรรมะ

เป็นการยากกว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์ การดำรงชีวิตเป็นเรื่องยากลำบาก เป็นเรื่องยากที่จะได้เกิดมาพบพระธรรม การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง

เมื่ออาตมาเป็นเด็ก ในยูกันดาไม่มีใครรู้จักพระพุทธศาสนา เพราะศาสนาหลักคือคริสต์และอิสลาม ในยูกันดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวอาตมา การไม่เคารพพระเจ้ามักจะถูกมองว่าเป็น แกะดำหรือ มิตรของปีศาจ

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1990 อาตมาเดินทางไปศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นการไปศึกษาพระพุทธศาสนาแทน มีนักศึกษาต่างชาติชาวแอฟริกันและเอเชียอยู่ไม่กี่คน ในจำนวนนั้นมีพระสงฆ์สองรูปจากประเทศไทย อาตมารู้สึกใกล้ชิดกับพระสองรูปนี้และมีเพียงท่านทั้งสองที่เป็นเพื่อนของอาตมา ทั้งสองท่านก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ท่านไม่ได้สอนอาตมาเรื่องการทำสมาธิในทันที แต่ค่อยๆ แนะนำทีละเล็กละน้อยเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ท่านมีน้ำใจพาอาตมาไปที่ตลาดท้องถิ่นและยังแบ่งปันอาหารให้อีกด้วย ในตอนนั้นอาตมาไม่ทราบธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนาพุทธ อาตมาต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายถวายภัตตาหารแด่ท่านทั้งสอง

บุคคลควรเจริญรอยตามผู้เจริญผู้ซึ่งแน่วแน่ ปราดเปรื่อง ใฝ่รู้ รับผิดชอบต่อหน้าที่ และเสียสละทุ่มเท บุคคลควรเจริญรอยตามผู้ซึ่งถึงพร้อมด้วยความดีดุจพระจันทร์โคจรตามเส้นทางของดวงดาว

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

หลังจากใช้ชีวิตร่วมกับหมู่สงฆ์ในนิวเดลีเป็นเวลาหนึ่งปี อาตมาจึงออกแสวงบุญจากอินเดียไปยังเนปาล ทิเบต และสุดท้ายมาจบที่ที่ประเทศไทย เคยได้ยินเรื่องหนึ่งพันความสุขหนึ่งพันความเศร้าไหม อาตมาเรียนรู้เรื่องนี้ระหว่างการเดินทาง

ความสุข ความพอใจใดๆ ที่มี เป็นความพึงพอใจทางโลก สำหรับพระสงฆ์ทั้งหลาย ความพึงใจในทางโลกนั้นไม่มี จึงไม่เกิดความยึดติด แต่เพราะสิ่งในโลกมีนั้นน่าพึงใจ คนจึงหลงไปยึดถือเอา

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

(ภาพถ่ายในช่วงที่พระพุทธรักขิตาภิกขุประกอบอาชีพครูสอนดำน้ำ ที่เกาะเต่า ประเทศไทย)

รวมเวลาได้เจ็ดปีที่อาตมาเดินทางจากแอฟริกามา เป็นการเดินทางยาวนานที่เปี่ยมไปด้วยสีสันไม่อาจคาดเดา เต็มไปด้วยจุดหักเหพลิกผัน อาตมาตื่นเต้นมากกับการกลับไปเยี่ยมบ้านครั้งนี้ อารมณ์พลุ่งพล่านทันทีที่เครื่องบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานเอ็นเท็บเบ้ (Entebbe) ในที่สุดก็กลับมาบ้าน ทุกอย่างดูคุ้นตาแต่ขณะเดียวกันก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างบอกไม่ถูก

ทันทีที่ถึงบ้าน รู้สึกได้ว่าเพื่อนๆ ญาติๆ ต่างตั้งความหวังว่าอาตมาจะกลับมาในฐานะนักธุรกิจผู้ร่ำรวยประสบความสำเร็จ ถือกระเป๋าเอกสารอยู่ในมือข้างหนึ่ง แต่เปล่าเลย อาตมาอยู่ในฐานะของโยคีหัวโล้นชาวพุทธธรรมดาผู้ที่ในกระเป๋ามีอุปกรณ์ดำน้ำกับหนังสือธรรมะอยู่หลายเล่ม ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่าอาตมานำสองสิ่งนี้กลับมายังแอฟริกาทำไม ในยูกันดาไม่มีวัดหรือครูสอนศาสนาพุทธแม้แต่คนเดียว แล้วก็ไม่มีทะเลให้ดำน้ำด้วย

ญาติๆ หลายคนเสนอที่จะฆ่าแกะหรือไก่เพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงต้อนรับเป็นการให้เกียรติการกลับมาของอาตมา แต่อาตมาไม่อนุญาติเพราะไม่อยากให้สัตว์ตัวไหนต้องถูกฆ่าเพราะอาตมา

ทุกคนพยายามจะเปลี่ยนให้อาตมากลับไปนับถือศาสนาคริสต์อีกครั้ง แต่ตอนนั้นอาตมามีความเลื่อมใสหนักแน่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียแล้ว ญาติห่างๆ บางคนถึงกับแนะให้อาตมาเผาหนังสือธรรมะทิ้งเสียให้หมดแล้วหันกลับมาอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ล (Bible) แทน แต่แน่นอนว่าอาตมาปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น พวกเขาจึงรู้สึกหมดหนทาง ผิดหวัง และไม่ปรารถนาอาตมาอีกต่อไป

อาตมายังคงฝึกวิปัสสนาเงียบๆ คนเดียวต่อไปในห้องนอน อ่านหนังสือธรรมะที่นำมาด้วยจากเอเชีย แต่หลังจาก หลายปีในอินเดียและเอเชีย ที่ซึ่งอาตมามีเพื่อนและครูที่สนใจเรื่องจิตวิญญาณเหมือนๆ กัน ที่ยูกันดาอาตมากลับไม่มีเพื่อนอย่างที่ว่าให้คบหาพูดคุยด้วยเลยแม้แต่คนเดียว

อาตมารู้สึกถึงความปรารถนาที่ยังคงพร่องหายไป อีกทั้งรู้สึกสิ้นหวัง ผิดหวัง และหมดความอดทนกับสภาพเช่นนี้ จึงตัดสินใจจากยูกันดาไปเป็นครั้งที่สองเพื่อตามหาสัจธรรมอันลึกซึ้ง และในครั้งนี้อาตมาตั้งใจจะอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการพัฒนาทางจิตใจเพียงอย่างเดียว

คนคนหนึ่งแม้อายุยืนยาว 100 ปี ถ้าปราศจากปัญญาและการควบคุมตัวเองเสียแล้ว เปรียบไม่ได้กับผู้มีชีวิตเต็มด้วยสติและปัญญาที่มีชีวิตอยู่เพียง 1 วันเพียงหนึ่งวันที่มีชีวิตอยู่ด้วยการรักษาศีลและครองสติไว้ให้มั่นคง มีค่ามากกว่าหนึ่งร้อยปีแห่งชีวิตที่ปราศจากศีลและการบำเพ็ญภาวนาเพียงหนึ่งวันที่มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาและการดำรงสติอย่างแน่วแน่ มีค่ามากกว่าหนึ่งร้อยปีของชีวิตที่ปราศจากปัญญาและสติสัมปชัญญะ

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

และการตัดสินใจ ครั้งยิ่งใหญ่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

อาตมาใช้เวลาหนึ่งปีในทวีปอเมริกาใต้ ท่องเที่ยวและฝึกวิปัสสนาด้วยตนเอง ก่อนที่จะเดินทางถึงสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1999 อาตมาเข้าร่วมกับกลุ่มวิปัสสนากรรมฐานขั้นสูงไอเอ็มเอส (IMS – Insight Meditation Society) ในเมืองแบร์ (Barre) รัฐเมสซาชูเสจ (Massachusettes) เป็นเวลาสามเดือน ในที่สุดอาตมาได้พบกับกลุ่มคนที่มีความสนใจอย่างจริงจังเหมือนๆ กัน กลุ่มคนที่ปฏิบัติตามแนวทางคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ คณะสงฆ์และสถาบันไอเอ็มเอสได้กลายมาเป็นบ้านทางจิตวิญญาณ บ้านหลังที่สองของอาตมา แม้อาตมาวางแผนไว้ว่าจะกลับไปยังอเมริกาใต้หลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม แต่อาตมากลับเข้าร่วมงานกับทีมงานของไอเอ็มเอสจนถึงปี ค.ศ. 2000 ช่วงนั้นอาตมาทั้งทำงานไปด้วยทั้งเรียนไปด้วยกับอาจารย์หลายท่าน เข้าร่วมกิจกรรมการฝึกฝนอบรมหลายครั้ง

อาตมาพบกับภันเต กุนารัตนะ (Bhante Gunaratana) ที่ไอเอ็มเอสนี้เองในปี ค.ศ.2000 เมื่อท่านเดินทางมาสอนวิปัสสนา ท่านจะออกไปเดินทุกๆวันของการฝึกอบรม ครั้งหนึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการเดินด้วยกัน ภันเต กุนารัตนะชวนให้อาตมาไปเยี่ยมท่านที่กลุ่มภาวนา (Bhavana Society) ที่แห่งนี้ภายหลังได้กลายมาเป็นสถานที่ที่อาตมาใช้จำวัด บ้านของสมณเพศภายหลังการอุปสมบท

ทุกสรรพสิ่งเกิดจากเหตุและเงื่อนไขที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาตมาที่ไอเอ็มเอส เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงในชีวิต บางสิ่งบางอย่างอาจดูมั่นคงแข็งแรง แต่ทันทีที่เหตุปัจจัยเปลี่ยนไป ความมั่นคงแข็งแรงนั้นก็สลายลงไปทันที อาตมาจำต้องจากไอเอ็มเอสไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

มีคำกล่าวหนึ่งว่า หัวมุมไม่ใช่จุดสิ้นสุดของถนนสายนั้น นอกจากคุณไม่เลี้ยวไปตามทางตอนนี้อาตมาต้องหักเลี้ยวครั้งใหญ่ในชีวิต แล้วมันจะพาอาตมาไปที่ไหนน่ะหรือ….

ทางหนึ่งคือทางสู่ความมั่งมีทางโลก ส่วนอีกทางหนึ่งคือหนทางสู่พระนิพพาน เมื่อเข้าใจสิ่งนี้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว พระสงฆ์ศิษย์ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย จงอย่าปล่อยให้เครื่องผูกพันทางโลกมาทำให้ไขว้เขวอยู่เลย จงเร่งพัฒนาเพื่อความหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านั้น

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

อาตมาตัดสินใจแล้วว่าจะทิ้งเรื่องทางโลก ทรัพย์สินภายนอกไม่สามารถทำให้อาตมาพึงพอใจได้อีกต่อไป จากประสบการณ์ในเมืองไทย ความสุขของการศึกษาพุทธศาสนาทำให้อาตมาต้องการจะทุ่มเทชีวิตให้กับการศึกษาและฝึกปฏิบัติ อาตมาจึงตัดสินใจละทิ้งความสุขที่น้อยกว่า (ความสุขทางโลก) เพื่อสิ่งที่สำหรับอาตมาแล้วนับว่าเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือการพัฒนาจิตวิญญาณ หลังจากสามเดือนของการอบรมที่ไอเอ็มเอสทำให้อาตมาตระหนักดียิ่งขึ้นไปอีกว่าความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากภายใน ไม่ใช่จากปัจจัยภายนอก แน่นอนว่าเราต้องอาศัยปัจจัยภายนอกเป็นตัวช่วย (วัตถุทางโลกต่างๆ)ให้จิตของเราพัฒนาไป แต่ปัจจัยภายนอกเหล่านั้นไม่ใช่แก่นสารหรือจุดหมายปลายทางที่แท้จริง ถ้าเราตั้งปัจจัยภายนอกเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตแล้วล่ะก็ วัตถุประสงค์ที่มีคุณค่าแท้จริงของชีวิตจะเลือนลาง เป้าหมายของชาวพุทธที่แท้นั้นคือการใช้ชีวิตอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรมเพื่อไปถึงนิพพานให้ได้ในที่สุด

อาตมาตกลงใจจะเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ออกบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แต่การอุปสมบทจะเกิดขึ้นได้ต้องมีวัดและพระสงฆ์อาวุโสรูปหนึ่งซึ่งเต็มใจจะรับอาตมาเป็นศิษย์ อาตมาควรจะไปที่ไหนดี?

พึงละทิ้งหนทางที่มืดมน ผู้มีปัญญาย่อมเลือกเดินไปตามทางสว่างออกจากทางโลกไปสู่ทางธรรม ปรารถนาพบพานความความสุขจากการปล่อยวางซึ่งยากจะหาความสนุกสนาน ละทิ้งความสุขที่ขึ้นกับผัสสะ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดอีกต่อไป ชำระร่างกายจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์จากเครื่องเศร้าหมองแห่งจิตใจทั้งมวล

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

เมื่อท่านศึกษาธรรมะได้ระดับหนึ่งแล้ว

เพื่อนของอาตมาแนะนำให้อาตมาไปที่ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาตถาคต (Tathagata) ทีเอ็มซี – TMC – Tathagata Meditation Centre ในเมืองซาน โฮเซ่ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California) เขาบอกกับอาตมาว่าผู้คนที่นั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบาสกอุบาสิกาชาวเวียดนามมีจิตใจงดงามยิ่ง ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นเพียงศูนย์ปฏิบัติธรรมเล็กๆ ก็ตาม หลังพิจรณาทางเลือกต่างๆอาตมาเดินทางไปที่นั่นในปี ค.ศ. 2001 ได้พบกับท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) ที่แปลกคืออาตมาขอบวชกับท่านในทันที อาตมาไม่เคยทราบถึงพิธีการขอบวชมาก่อน ท่านดูแปลกใจอย่างยิ่งที่เห็นชาวแอฟริกันผิวสีคนหนึ่งมีปณิธานแรงกล้าที่จะออกบวชโดยไม่เคยผ่านการอบรมก่อนบวชอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าอาตมาจริงจังแค่ไหน อาตมาค่อนข้างจะวิตกกับการเปลี่ยนแปลงในคราวนี้ ท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) อนุญาติให้อาตมาอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อเตรียมตัวสำหรับการอุปสมบท อาตมาเริ่มฝึกวิปัสสนาอย่างเข้มข้นไปพร้อมกับเรียนรู้การใช้ชีวิตในเพศบรรพชิต ซึ่งในที่สุดได้นำไปสู่การบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่ทีเอ็มซี ซาน โฮเซ่ แคลิฟอเนียร์ ในปี ค.ศ.2002 โดยอาจารย์ของอาตมาคือท่านซายาดอว์ ยู สิละนันทะ (Sayadaw U. Silananda)

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

พระสงฆ์ชาวแอฟริกันรูปแรกในพระพุทธศาสนา!!! " ภิกษุผิวสี " จากยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแพร่ธรรมในทวีปแอฟริกา (ชมคลิป)

ที่มาของคลิป : www.youtube.com

ที่มา:  http://www.ugandabuddhistcenter.org/home.php / welovemyking.com