- 28 มิ.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ www.tnews.co.th
ท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร เป็นผู้คงแก่เรียน ท่านได้ศึกษาอักขระเลขยันต์พันคาถามามากมาย โดยท่านได้รวบรวมเรียบเรียงให้ผู้ที่สนใจทั้งพระและฆราวาสได้ศึกษากันมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งกล่าวได้ว่าท่านเป็นผู้มีคุณูปการที่สำคัญท่านหนึ่งที่ทำให้วิชาดังกล่าวยังคงอยู่ในบ้านเรา
ในบรรดาอักขระเลขยันต์ทั้งหลายที่ท่าน อ.เทพย์ ศึกษามาจำนวนมากนั้น มีเพียงไม่กี่ยันต์ที่ท่านอาจารย์ได้ใช่ประจำ เช่นยันต์ดวงพิชัยสงคราม ซึ่งผู้ที่ทำยันต์นี้ได้จะต้องเจนจบทั้งโหราศาสตร์และอักขระเลขยันต์ มิใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ โดยท่าน อ.เทพย์ ท่านเป็นผู้ชำนาญในวิชาทั้งสองอย่างไม่เป็นที่สงสัย ยันต์คู่ชีวิต ยันต์มหาโสฬสมงคล ฯลฯ
โดยหนึ่งในยันต์สำคัญที่ท่านอ.เทพย์ ได้ทำก็คือยันต์จักรพรรดิตราธิราช
ซึ่งประวัติของยันต์จักรพรรดิตราธิราชนั้น ในตำราท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร ที่ได้สืบมาจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรมนั้นกล่าวไว้ว่า ท่านทิศาปาโมกข์ได้ร่วมประชุมกับผู้ทรงวิทยาคมและรจนาพระยันต์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี แรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ปีพุทธศักราช ๕๗๒ โดยท่านว่าได้จารึกลงในแผ่นหินแล้วแช่น้ำลงในสระเพื่อให้ผู้ที่ร่ำเรียนพระไตรปิฎกได้ดื่มกินเพื่อมีสติปัญญาดี
ยันต์ที่สำคัญนี้สืบทอดกันมาหลายสำนัก แต่ที่เป็นหลักใหญ่ที่สุดคงไม่พ้นตักศิลาใหญ่ของกรุงเก่าคือ วัดประดู่ทรงธรรมนั่นเอง โดยที่ทราบมาก็คือที่วัดประดู่ทรงธรรมก็มีการจารึกยันต์ศักดิ์สิทธิ์แช่ไว้ที่สระน้ำภายในวัดด้วย ซึ่งเข้าใจว่าเป็นยันต์จักรพรรดิ์สำคัญนี้
โดยบูราณาจารย์ท่านสรรเสริญคุณวิเศษของยันต์ที่สำคัญนี้ไว้ว่าสามารถคุ้มครองป้องกันภัยได้ เป็นโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง บรรเทาทุกข์โทษ ฯลฯ ซึ่งถ้าพิจารณาในเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่กล่าวว่าจะมีสมบัติ ๗ ประการ หรือรัตน ๗ ประการ คือ ๑. จักรแก้ว ๒.ช้างแก้ว ๓.ม้าแก้ว ๔.มณีแก้ว ๕.นางแก้ว ๖.ขุนคลังแก้ว และ ๗.ขุนพลแก้ว แล้ว จะเห็นได้ว่าคุณวิเศษที่บุราณาจารย์ท่านพรรณาเอาไว้เรื่องยันต์กับสมบัติจักรพรรดิ์นั้นสอดคล้องกัน
ผู้ที่ลงยันต์นี้ได้จะต้องได้มนต์รัตนมาลา ๑๐๘ บท และต้องชำนาญในการเดินยันต์ที่ซับซ้อนพอสมควร
ในปัจจุบันมีหลายสำนักได้ทำยันต์นี้ให้บูชากัน โดยท่านที่จะเช่าบูชาควรที่จะสอบถามเพื่อความมั่นใจว่า ผู้ลง ลงด้วยรัตนมาลาสูตรหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบมาคือมีบางสำนักที่ลงครึ่งสูตรคือใช้แต่บทเรียกกาโรโหติสัมภะโวฯ เท่านั้น เพราะท่องบทรัตนมาลาไม่ได้
อีกประการที่สำคัญก็คือต้องพิจารณาว่าผู้ลงมีคุณสมบัติหรือคุณวิเศษเพียงพอในการลงยันต์นี้หรือไม่ เช่นผู้ที่หาเช้ากินค่ำ เงินทองยังขัดสน ผู้ที่ยังไม่สามารถจะดูแลตัวเองให้เกษมสุขได้ แต่กลับบอกว่าจะเสกตะกรุดจักรพรรดิที่มีคุณวิเศษตามที่ครูบาอาจารย์ท่านรจนาไว้ได้ ซึ่งท่านทั้งหลายพึงใช้ปัญญาพิจาราณากันเองเถิด
ยันต์จักรพรรดิตราธิราชนี้ ท่าน อ.มนัส สิวาภิรมย์รัตน์ได้ไปศึกษาเล่าเรียนจากสำนักในกรุงเก่าแล้วมาสอบเทียบกันจนแน่ใจว่าได้มาครบถ้วนจริงๆ โดยท่านได้ไปเรียนมาจากหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ และได้ไปสอบท่านกับหลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม อีกทั้งท่านยังได้ทวนตำรากับศิษย์สายวัดพระญาติและมาสรุปสุดท้ายจากตำราท่านอ.เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด
กลับมาที่เรื่องของ อ.เทพย์ สาริกบุตร ...วัตถุมงคลของท่าน อ.เทพย์ ท่านทำน้อยมากๆ ในแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตกไปอยู่ในมือของผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้น เพราะลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่วัตถุมงคลดังกล่าวจะนำมาจำหน่ายหรือหมุนเวียนในตลาดพระหรือตลาดวัตถุมงคลเพราะว่าต่างก็หวงแหนกันมาก
โดยถ้าไม่ทราบที่มาที่ไปจริงๆ สำหรับของที่อ้างว่าเป็นของท่านอาจารย์ เช่นได้มาจากที่ไหน หรือได้มาจากใคร ฯลฯ ของชิ้นนั้นๆ ก็จะต้องเป็นที่สงสัยเอาไว้ก่อน
ศิษย์ผู้ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดท่าน อ.เทพย์ ผู้ที่ช่วยจัดพิธีต่างๆ ผู้ที่รับใช้ท่านอาจารย์จนวาระสุดท้ายของชีวิต ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ที่รู้จริงเกี่ยวกับท่านอาจารย์มากที่สุดก็ว่าได้ เมื่อศิษย์ท่านดังกล่าวได้เห็นรูปภาพของต่างๆ ที่กล่าวอ้างว่าเป็นของท่าน อ.เทพย์ ที่แผยแพร่กันอยู่ ท่านได้แต่ยิ้มและกล่าวว่า ผมไม่เคยเห็นของพวกนี้เลย ซึ่งเราท่านทั้งหลายต้องพิจารณาที่มาที่ไปให้ดีก่อนที่จะเชื่ออะไร
ขอบารมีครูบาอาจารย์ทิศาปาโมกข์ผู้รจนายันต์สำคัญนี้ ขอบารมีท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร ได้อำนวยอวยชัยให้เราท่านทั้งหลายด้วยเทอญฯ
ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาข้อมูล :คุณดิลก แสงอุทัย, เพจศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร






