ก่อเกิดบนฟ้าโดยเจ้าฟ้า สร้างความสุขสู่พสุธา แก่ปวงประชาบนแดนดินอิสาน “โครงการยึกยือของในหลวงรัชกาลที่ ๙” #สานต่องานที่พ่อทำ

ก่อเกิดบนฟ้าโดยเจ้าฟ้า สร้างความสุขสู่พสุธา แก่ปวงประชาบนแดนดินอิสาน “โครงการยึกยือของในหลวงรัชกาลที่ ๙” #สานต่องานที่พ่อทำ

กิจกรรมที่เราทำเวลานั่งเครื่องบินก็คงไม่พ้นการนอนพักผ่อนไม่ก็ดูหนังหาความบันเทิงส่วนตัว แต่สำหรับในหลวง ร.9    ทุกนาทีนั้นมีค่าและทรงทำให้เกิดประโยชน์ได้ ประกอบกับวิธีการทำงานของในหลวงอย่างหนึ่งที่ผู้ถวายงานสัมผัสได้คือข้อมูลต้องเข้าใจง่ายโดยบางครั้งก็ทรงวาดรูปเป็นตัวการ์ตูนขึ้นมาเป็นสื่อ นี่จึงเป็นที่มาของโครงการยึกยือที่เราจะเล่าในวันนี้

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :สุขทั้งแผ่นดิน!! โครงการพระราชดำริ ๗๐ ปีแห่งการครองราชย์ ใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก (ชมคลิป)

---------------
ช่วงที่ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปภาคอีสานตอนปี พ.ศ. 2535 ระหว่างเสวยชาอยู่ในเครื่องบิน  หลังจากไปตรวจเยี่ยมดูสภาพลำน้ำก่ำ เขตจังหวัดสกลนครและนครพนม ซึ่งมีปัญหาทั้งน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง เมื่อในหลวงทรงทอดพระเนตรเห็นสภาพภูมิประเทศโดยกว้างจึงทรงมีพระราชดำริบางอย่างขึ้นมา แล้วโปรดให้มหาดเล็กไปตาม ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ กปร. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องเงินสำหรับโครงการต่างๆ ให้มาเข้าเฝ้า เมื่อ ดร.สุเมธมาถึง ก็ตรัสให้ฟังว่า “แม่น้ำโขงนี่ เราเสียดายนะ เวลาน้ำโขงมันขึ้น มันทะลักเข้ามาในบ้านเรา เราไปกั้นตลิ่ง กั้นเขื่อน ไม่ให้เข้า ทั้งที่น้ำเป็นของดี ควรจะปล่อยให้ทะลักเข้ามาแล้วไปเก็บที่ไหนซักแห่ง พอน้ำโขงลดก็ปิดประตูเก็บน้ำไว้ นี่เป็นแก้มลิงอีกลักษณะหนึ่ง” จากนั้นก็ทอดพระเนตรแผนที่แล้วทรงวาดรูปเค้าโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำขึ้นมา เมื่อดร.สุเมธเห็นภาพร่างโครงการในกระดาษที่คล้ายกับรูปตัวประหลาดที่มีแค่หัวกับหาง ก็ทูลออกไปเล่นๆ ว่าเหมือน ”ตัวยืกยือ” ปรากฎว่าในหลวงทรงเห็นดีด้วย จึงตั้งชื่อโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำนี้ว่า “โครงการยึกยือ”

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ : บทสรุปจากการทรงงาน“โครงการพระราชดำริเขาเต่า”ทรงบอกและให้อะไรมากมายแก่คนไทย และก่อเกิดนับพันกว่าโครงการถัดมา ลองมาทำความเข้าใจกับบทสรุปกัน

ถ้ามาอธิบายภาพแบบง่ายๆส่วนหัวของตัวยึกยือก็คือหนองหาน หนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ต้นกำเนิดของลำน้ำก่ำ ส่วนกระดูกสันหลังก็คือตัวลำน้ำก่ำเอง ส่วนข้อที่เป็นปล้องๆ ก็คืออาคารบังคับน้ำ ส่วนขอบลำตัวก็คือคลองระบายน้ำ ที่คู่ขนานไปกับลำน้ำก่ำ และส่วนหางก็คือแม่น้ำโขงนั่นเอง ดังนั้นวิธีการก็คือเมื่อน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นสูงและท่วมทะลักเข้ามาก็เพียงเปิดประตูนำน้ำมาเก็บไว้ที่ลุ่มน้ำก่ำ พอถึงหน้าแล้งก็นำน้ำที่กักเก็บไว้ไปใช้
โครงการยึกยือนี้แม้ชื่อจะแปลกหูบ้าง แต่ก็สร้างประโยชน์มหาศาลให้ภาคอีสานโดยเฉพาะนครพนมและสกลนคร ผลจากการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำนี้ นำไปสู่การต่อยอดการสร้างประตูระบายน้ำ 7 แห่ง สถานีสูบน้ำ 24 แห่ง และการสร้างหนองบึงขนาดใหญ่อีก 15 แห่ง ทำให้ภาคอีสานมีความชุ่มชื่นและมีไว้น้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมด้วย
เรื่องเล่าของโครงการยึกยือนี้นอกจากจะสะท้อนให้เราเห็นถึงพระอารมณ์ขันของในหลวงแล้วยังทำให้เราเห็นว่าในหลวงทรงงานเพื่อประชาชนตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนประทับอยู่บนเครื่องบินก็ตาม
ที่มา FB : สานต่อที่พ่อทำ
เรียบเรียงจากบทบรรยายเรื่องพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต่อปวงชนชาวไทย โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และหนังสือพระคุณ ธ รักษา ประชาเป็นสุขศานต์

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ : ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ!! เผย ๕ ยี่ห้อ นมโครงการพระราชดำริ ที่ ในหลวง ร.๙ พระบิดาแห่งการโคนมไทย ทรงพระราชทานให้ลูกหลานชาวไทย!!!