น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นพระมหากษัตริย์ผู้สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและราษฎรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ น้อกจากพระองค์ท่านจะทรงสร้างบ้านสร้างเมืองเพื่อให้ประชาชนมีการดำเนินชีวิตที่ดีทางกายแล้ว เพราะองค์ท่านยังสร้างความสุขทางใจให้ทุกศาสนาภายในชาติ โดยพระองค์ทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ไม่แบ่งแยกพระองค์ทรงสร้างความเท่าเทียมให้ทุกคนในโลกได้ดูเป็นตัวอย่าง พระองค์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง วันนี้จะพาคุณผู้อ่านให้ได้รู้จักกับสิ่งต่างๆที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อศาสนาทุกศาสนากันครับ

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

ศาสนาพุทธ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2489 สองเดือนเศษหลัง ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะต่อหน้าสังฆมณฑล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน
22 ตุลาคม 2494 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี ด้วยการเสด็จทรงออกผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระองค์ทรงรับการบรรพชาเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ได้รับสมณนามจากพระอุปัชฌาย์จารว่า “ภูมิพโลภิกขุ” จากนั้นเสด็จประทับ ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศ โดยพระองค์ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัย ตามแบบอย่างพระภิกษุโดยเคร่งครัด

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงอุปสมบทนาคหลวงมาตลอด โดยเริ่มปีแรกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2489ได้เสด็จฯพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มี หม่อมเจ้าสุนทรากร วรวรรณ หม่อมเจ้าอาชวดิศ ดิศกุล หม่อมราชวงศ์ยันตเทพ เทวกุล และ นายเสมอ จิตรพันธ์ เป็นนาคหลวง
ซึ่งในปีต่อๆมา ได้ทรงกำหนดให้เป็นพระราชพิธีพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ บรรพชาอุปสมบทนาคหลวงเป็นประเพณีตลอดรัชกาล ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปในพระราชพิธีด้วยพระองค์เองเป็นประจำ หากปีใดเสด็จฯไม่ได้ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทนพระองค์
นอกจากนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังเสด็จฯไปในงานพิธีทางศาสนา ที่ประชาชนและทางราชการจัดขึ้นในที่ต่างๆมิได้ขาด อีกทั้งยังทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้น ในโอกาสสำคัญเป็นจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูปปางประทานพร ภปร. พระหลวงพ่อจิตรลดา พระพุทธรูปนวราชบพิตร พระพุทธรูปปฏิมาชัยวัฒน์ ประจำรัชกาล เหรียญพระชัยหลังช้าง ฯลฯ พระพุทธรูปเหล่านี้ได้พระราชทานไปตามหน่วยงานต่างๆของรัฐ วัดวาอาราม ตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆทั่วประเทศอีกด้วย

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

ศาสนาซิกซ์ 
พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในงานฉลองครบรอบ ๕๐๐ ปี แห่งศาสนาซิกซ์ ตามคำ อัญเชิญของสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา และในงานเมาลิดกลางของอิสลามิกชน

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

ศาสนาอิสลาม
ก่อนปี พ.ศ. 2505 จะเป็นปีใดไม่แน่ชัด ท่านกงศุลแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้เข้าเฝ้าถวายพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับที่มีความหมายเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อในหลวงทอดพระเนตรและทรงศึกษาดู ทรงมีพระราชดำริว่า ควรจะมีพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับความหมายภาษาไทย ให้ปรากฏเป็นศรีสง่าแก่ประเทศชาติ เมื่อนายต่วน สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรีในสมัยนั้น เป็นผู้นำผู้แทนองค์การสมาคม และกรรมการอิสลามเข้าเฝ้าถวายพระพรในนามของชาวไทยมุสลิมในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนั้น ในหลวงทรงมีพระกระแสรับสั่งให้จุฬาราชมนตรี แปลความหมายของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากพระมหาคัมภีร์ฉบับภาษาอาหรับโดยตรง สิ่งนี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อศาสนาอิสลาม และทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
"อิสลามิกชนมีพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน อันประกอบพร้อมด้วยบทบัญญัติทางศีลธรรม จริยธรรม นิติธรรม เป็นแม่บทศักดิ์สิทธิ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติและการดำเนินชีวิต ส่วนใหญ่จึงมีชีวิตที่เจริญมั่นคง มีความฉลาด รู้ผิดชอบชั่วดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถ้าแต่ละคนจะพยายามศึกษาพระคัมภีร์ให้เข้าใจถ่องแท้ยิ่งขึ้น พร้อมกับเอาใจใส่วิทยาการด้านอื่นๆให้กว้างขวางและก้าวหน้าอยู่เสมอ ก็จะส่งเสริมให้เป็นผู้มีความดี มีความรู้ความสามารถครบถ้วนสมควรยิ่งที่จะเป็นหลักและเป็นกำลังในการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม”

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!
ในช่วงเวลาที่จุฬาราชมนตรีแปลพระมหาคัมภีร์ถวาย ทุกครั้งที่เข้าเฝ้า ในหลวงจะทรงแสดงความห่วงใยตรัสถามถึงความคืบหน้า อุปสรรค ปัญหาที่เกิดขึ้น และทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้พิมพ์เผยแพร่ ในปีพ.ศ. 2511 อันเป็นปีครบ 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอาน ประเทศมุสลิมทุกประเทศต่างก็จัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างสมเกียรติ ประเทศไทยแม้จะไม่ใช่ประเทศมุสลิม แต่ก็ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลอง 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอานขึ้น ณ สนามกีฬากิตติขจร เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2511 เป็นวันเดียวกันกับการจัดงานเมาลิดกลาง ในปีนั้นในหลวงพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี และในวันนั้นเป็นวันเริ่มแรกที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับความหมายภาษาไทย ได้พิมพ์ถวายตามพระราชดำริและได้พระราชทานแก่มัสยิดต่างๆ ทั่วประเทศ
๑. การแปลพระคัมภีร์อัลกรุอานเป็นภาษาไทย ขอให้แปลอย่างถูกต้อง
๒. ขอให้ใช้สำนวนเป็นภาษาไทยที่สามัญชนทั่วไปอ่านเข้าใจได้

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

เสด็จพระราชดำเนินงานเมาลิดกลาง งานเมาลิด คือ งานเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพของพระบรมศาสดานบีมูฮัมหมัด ซึ่งชาวมุสลิมทั่วโลกจะจัดงานที่ระลึกขึ้น ในประเทศไทยก็จะมีการจัดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ที่มีพี่น้องชาวมุสลิมอาศัยอยู่หนาแน่น ในส่วนกลางจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร มีชาวมุสลิมเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก และในงานได้มีการพระราชทานรางวัลโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่ผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าน) ประจำมัสยิดต่างๆ ด้วย
ทรงมีพระราชดำริให้มีการสนับสนุนการจัดสร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดขึ้น โดยให้รัฐบาลจัดสรรรวบประมาณแผ่นดินสำหรับจัดสร้าง ขณะนี้ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานในพิธีด้วยพระองค์เอง

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

ศาสนาคริสต์
ทางฝ่ายคริสตศาสนานั้น ก็ได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์เช่นเดียวกับศาสนาอื่น โดยทรงอุดหนุนกิจการคริสตศาสนาตามวาระโอกาสต่างๆ อยู่เสมอ คริสตศาสนาสามารถสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล โบสถ์และประกอบศาสนกิจได้ทั่วทุกภาคของประเทศ และได้เสด็จพระราชดำเนินไปในงานพิธีสำคัญๆ ของคริสตศาสนิกชนเป็นประจำ ที่สำคัญที่สุดคือ ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนนครรัฐวาติกัน เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปยุโรปเมื่อ ๕๐ กว่าปีก่อน (๑ ตค. ๒๕๐๓) เพื่อกระชับทางพระราชไมตรีระหว่างประเทศไทยกับคริสตจักร ณ กรุงวาติกัน
เมื่อเอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันเดินทางมาประเทศไทย ก็ได้รับพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสาสน์ตราตั้ง เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
และเมื่อพระสันตปาปา จอห์น ปอล ที่ ๒ ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาธอลิก เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ เมื่อวันที่ ๑๐ - ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗ ครั้งนั้นนับว่าเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะเสด็จมาเยือนประเทศไทยเช่นนี้ ได้เสด็จออกทรงรับ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอย่างสมพระเกียรติ สร้างความปลาบปลื้มอิ่มเอมใจแก่ชาวไทยที่นับถือคริสตศาสนาเป็นอันมาก
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทอดพระเนตรภาพยนตร์การกุศลที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิก จ. เชียงใหม่ โรงพยาบาลแห่งนี้ พระบาทสมเด็จมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก ทรงเคยปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์ นอกจากนี้ยังเสด็จเยี่ยมโรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ ที่เป็นของศาสนาคริสต์อีกด้วย

น้อมรําลึกถึง ร.๙ !!! กษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ !!!

อ้างอิงข้อมูลจาก - www.dhammathai.org , www.thaihealth.or.th , th.wikipedia.org