- 08 ก.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นพระมหากษัตริย์ผู้สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและราษฎรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ น้อกจากพระองค์ท่านจะทรงสร้างบ้านสร้างเมืองเพื่อให้ประชาชนมีการดำเนินชีวิตที่ดีทางกายแล้ว เพราะองค์ท่านยังสร้างความสุขทางใจให้ทุกศาสนาภายในชาติ โดยพระองค์ทรงอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนา ไม่แบ่งแยกพระองค์ทรงสร้างความเท่าเทียมให้ทุกคนในโลกได้ดูเป็นตัวอย่าง พระองค์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง วันนี้จะพาคุณผู้อ่านให้ได้รู้จักกับสิ่งต่างๆที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อศาสนาทุกศาสนากันครับ
ศาสนาพุทธ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2489 สองเดือนเศษหลัง ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะต่อหน้าสังฆมณฑล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน
22 ตุลาคม 2494 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี ด้วยการเสด็จทรงออกผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระองค์ทรงรับการบรรพชาเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ได้รับสมณนามจากพระอุปัชฌาย์จารว่า “ภูมิพโลภิกขุ” จากนั้นเสด็จประทับ ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศ โดยพระองค์ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัย ตามแบบอย่างพระภิกษุโดยเคร่งครัด
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงอุปสมบทนาคหลวงมาตลอด โดยเริ่มปีแรกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2489ได้เสด็จฯพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มี หม่อมเจ้าสุนทรากร วรวรรณ หม่อมเจ้าอาชวดิศ ดิศกุล หม่อมราชวงศ์ยันตเทพ เทวกุล และ นายเสมอ จิตรพันธ์ เป็นนาคหลวง
ซึ่งในปีต่อๆมา ได้ทรงกำหนดให้เป็นพระราชพิธีพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ บรรพชาอุปสมบทนาคหลวงเป็นประเพณีตลอดรัชกาล ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปในพระราชพิธีด้วยพระองค์เองเป็นประจำ หากปีใดเสด็จฯไม่ได้ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทนพระองค์
นอกจากนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังเสด็จฯไปในงานพิธีทางศาสนา ที่ประชาชนและทางราชการจัดขึ้นในที่ต่างๆมิได้ขาด อีกทั้งยังทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้น ในโอกาสสำคัญเป็นจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูปปางประทานพร ภปร. พระหลวงพ่อจิตรลดา พระพุทธรูปนวราชบพิตร พระพุทธรูปปฏิมาชัยวัฒน์ ประจำรัชกาล เหรียญพระชัยหลังช้าง ฯลฯ พระพุทธรูปเหล่านี้ได้พระราชทานไปตามหน่วยงานต่างๆของรัฐ วัดวาอาราม ตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆทั่วประเทศอีกด้วย
ศาสนาซิกซ์
พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในงานฉลองครบรอบ ๕๐๐ ปี แห่งศาสนาซิกซ์ ตามคำ อัญเชิญของสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา และในงานเมาลิดกลางของอิสลามิกชน
ศาสนาอิสลาม
ก่อนปี พ.ศ. 2505 จะเป็นปีใดไม่แน่ชัด ท่านกงศุลแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้เข้าเฝ้าถวายพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับที่มีความหมายเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อในหลวงทอดพระเนตรและทรงศึกษาดู ทรงมีพระราชดำริว่า ควรจะมีพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับความหมายภาษาไทย ให้ปรากฏเป็นศรีสง่าแก่ประเทศชาติ เมื่อนายต่วน สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรีในสมัยนั้น เป็นผู้นำผู้แทนองค์การสมาคม และกรรมการอิสลามเข้าเฝ้าถวายพระพรในนามของชาวไทยมุสลิมในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนั้น ในหลวงทรงมีพระกระแสรับสั่งให้จุฬาราชมนตรี แปลความหมายของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากพระมหาคัมภีร์ฉบับภาษาอาหรับโดยตรง สิ่งนี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อศาสนาอิสลาม และทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"อิสลามิกชนมีพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน อันประกอบพร้อมด้วยบทบัญญัติทางศีลธรรม จริยธรรม นิติธรรม เป็นแม่บทศักดิ์สิทธิ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติและการดำเนินชีวิต ส่วนใหญ่จึงมีชีวิตที่เจริญมั่นคง มีความฉลาด รู้ผิดชอบชั่วดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถ้าแต่ละคนจะพยายามศึกษาพระคัมภีร์ให้เข้าใจถ่องแท้ยิ่งขึ้น พร้อมกับเอาใจใส่วิทยาการด้านอื่นๆให้กว้างขวางและก้าวหน้าอยู่เสมอ ก็จะส่งเสริมให้เป็นผู้มีความดี มีความรู้ความสามารถครบถ้วนสมควรยิ่งที่จะเป็นหลักและเป็นกำลังในการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม”
ในช่วงเวลาที่จุฬาราชมนตรีแปลพระมหาคัมภีร์ถวาย ทุกครั้งที่เข้าเฝ้า ในหลวงจะทรงแสดงความห่วงใยตรัสถามถึงความคืบหน้า อุปสรรค ปัญหาที่เกิดขึ้น และทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้พิมพ์เผยแพร่ ในปีพ.ศ. 2511 อันเป็นปีครบ 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอาน ประเทศมุสลิมทุกประเทศต่างก็จัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างสมเกียรติ ประเทศไทยแม้จะไม่ใช่ประเทศมุสลิม แต่ก็ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลอง 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอานขึ้น ณ สนามกีฬากิตติขจร เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2511 เป็นวันเดียวกันกับการจัดงานเมาลิดกลาง ในปีนั้นในหลวงพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี และในวันนั้นเป็นวันเริ่มแรกที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับความหมายภาษาไทย ได้พิมพ์ถวายตามพระราชดำริและได้พระราชทานแก่มัสยิดต่างๆ ทั่วประเทศ
๑. การแปลพระคัมภีร์อัลกรุอานเป็นภาษาไทย ขอให้แปลอย่างถูกต้อง
๒. ขอให้ใช้สำนวนเป็นภาษาไทยที่สามัญชนทั่วไปอ่านเข้าใจได้
เสด็จพระราชดำเนินงานเมาลิดกลาง งานเมาลิด คือ งานเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพของพระบรมศาสดานบีมูฮัมหมัด ซึ่งชาวมุสลิมทั่วโลกจะจัดงานที่ระลึกขึ้น ในประเทศไทยก็จะมีการจัดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ที่มีพี่น้องชาวมุสลิมอาศัยอยู่หนาแน่น ในส่วนกลางจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร มีชาวมุสลิมเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก และในงานได้มีการพระราชทานรางวัลโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่ผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าน) ประจำมัสยิดต่างๆ ด้วย
ทรงมีพระราชดำริให้มีการสนับสนุนการจัดสร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดขึ้น โดยให้รัฐบาลจัดสรรรวบประมาณแผ่นดินสำหรับจัดสร้าง ขณะนี้ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานในพิธีด้วยพระองค์เอง
ศาสนาคริสต์
ทางฝ่ายคริสตศาสนานั้น ก็ได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์เช่นเดียวกับศาสนาอื่น โดยทรงอุดหนุนกิจการคริสตศาสนาตามวาระโอกาสต่างๆ อยู่เสมอ คริสตศาสนาสามารถสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล โบสถ์และประกอบศาสนกิจได้ทั่วทุกภาคของประเทศ และได้เสด็จพระราชดำเนินไปในงานพิธีสำคัญๆ ของคริสตศาสนิกชนเป็นประจำ ที่สำคัญที่สุดคือ ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนนครรัฐวาติกัน เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปยุโรปเมื่อ ๕๐ กว่าปีก่อน (๑ ตค. ๒๕๐๓) เพื่อกระชับทางพระราชไมตรีระหว่างประเทศไทยกับคริสตจักร ณ กรุงวาติกัน
เมื่อเอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันเดินทางมาประเทศไทย ก็ได้รับพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสาสน์ตราตั้ง เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
และเมื่อพระสันตปาปา จอห์น ปอล ที่ ๒ ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาธอลิก เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ เมื่อวันที่ ๑๐ - ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗ ครั้งนั้นนับว่าเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะเสด็จมาเยือนประเทศไทยเช่นนี้ ได้เสด็จออกทรงรับ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอย่างสมพระเกียรติ สร้างความปลาบปลื้มอิ่มเอมใจแก่ชาวไทยที่นับถือคริสตศาสนาเป็นอันมาก
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทอดพระเนตรภาพยนตร์การกุศลที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิก จ. เชียงใหม่ โรงพยาบาลแห่งนี้ พระบาทสมเด็จมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก ทรงเคยปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์ นอกจากนี้ยังเสด็จเยี่ยมโรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ ที่เป็นของศาสนาคริสต์อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.dhammathai.org , www.thaihealth.or.th , th.wikipedia.org






