- 21 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
พระคันธารราษฎร์ปางขอฝน
พระคันธารราษฎร์ปางขอฝน เป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๓๒๖ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีขนาดหน้าตักกว้าง ๕๗.๔๐ เซนติเมตร สูงเฉพาะองค์พระ ๖๓.๑๐ เซนติเมตร สูงรวมฐาน ๘๗.๕๐ เซนติเมตร
พระคันธารราษฎร์ปางขอฝน มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวีราสนะ แสดงปางขอฝนด้วยการยกพระหัตถ์ขวาขึ้นกวักเรียกฝน และหงายพระหัตถ์ซ้ายรองรับฝน มีพระพักตร์ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว กับทั้งพระกรรณยาวเกือบจรดพระอังสา พระเศียรประดับด้วยขมวดพระเกศาเรียงตามแนวตั้ง มีเกตุมาลาและรัศมีรูปดอกบัวตูมเกลี้ยง องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา ปราศจากสังฆาฏิบนพระอังสาซ้าย อุตราสงค์นี้มีริ้วคล้ายอุตราสงค์ของพระพุทธรูปแบบจีน พระพุทธรูปประทับนั่งเหนือปัทมาสน์ อันประกอบด้วยกลีบบัวคว่ำ และกลีบบัวหงายเหนือฐานแข้งสิงห์
ประวัติเล่าว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระคันธารราษฎร์ ตามประกาศที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไว้ว่า สำเร็จ ณ ปีเถาะ เบญจศก จุลศักราช ๑๑๔๕ (พุทธศักราช ๒๓๒๖) เพื่อเข้าพิธีพิรุณศาสตร์และพระราชพิธีพืชมงคล ในกาลต่อมา ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกาไหล่ทองขึ้นใหม่ พระพุทธรูปองค์นี้กล่าวกันว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทอดพระเนตรเห็น
พระโบราณ จึงให้ช่างถ่ายอย่างหล่อให้เหมือนพระพุทธรูปตัวอย่าง
ลักษณะทางประติมานวิทยาของพระคันธารราษฎร์ปางขอฝนนี้ โดยทั่วไปคงสืบเนื่องมาจาก
เรื่องราวที่กล่าวว่า “ในแคว้นคันธาระทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย มีพระยานาคตนหนึ่ง
ชื่อ เอลาปัตตร์ หรือ อรวาล เป็นผู้ให้น้ำ แต่เดิมนั้นพระยานาคตนนี้ได้ทำให้เกิดอุทกภัยในแคว้นนั้น
แต่ต่อมา เมื่อหันมานับถือพุทธศาสนาแล้ว จึงเป็นผู้ให้น้ำเพื่อทำให้แคว้นนั้นเกิดความอุดมสมบูรณ์”
ด้วยเหตุนั้นจึงเรียกพระพุทธรูปปางขอฝนว่า พระคันธารราษฎร์ แต่นั้นมา
ที่มา: หนังสือ “พระพุทธปฏิมาในพระบรมมหาราชวัง”
หมายเหตุ: พระคันธารราษฎร์ อ่าน พระ-คัน-ทา-ระ-ราด