สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จทรงเป็นประธานในโอกาสครบ ๓๗ ปี วันสถาปนาค่ายสิรินธร และปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จ.ปัตตานีและจ.ยะลา (คลิป)

             เมื่อวันที่ ๒๑ ก.ย. ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๑๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังกองบังคับการกรมทหารราบที่ ๑๕๒ ค่ายสิรินธร ตำบลโคกตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ทรงเป็นประธานในโอกาสครบ ๓๗ ปี วันสถาปนาค่ายสิรินธร ในการนี้ พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ ๔ พร้อมด้วยข้าราชการทหาร และสมาคมแม่บ้านทหารบก เฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จ

             "ค่ายสิรินธร" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อ "ค่ายสิรินธร" เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๒๒ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเคยดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษประจำกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๕ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดป้ายค่ายสิรินธร เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๓ กองทัพบกจึงอนุมัติให้วันดังกล่าวเป็นวันสถาปนาค่ายสิรินธร

             จากนั้น ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กค่ายสิรินธร ที่มีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๓๓ โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ก่อสร้างอาคาร โดยรับเด็กอายุตั้งแต่ ๒ ปี ถึง ๕ ปี ซึ่งเป็นลูกหลานข้าราชการในค่ายสิรินธร และพื้นที่ใกล้เคียงมาดูแล อาทิ บ้านเขาตูม และชุมชนตลาดเก่า โดยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบูรณาการในการเรียนการสอนเด็กเล็ก เน้นการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ เสริม สร้างจินตนาการ กล้าแสดงออก ผ่าน ๖ กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ, กิจกรรมเกมส์การศึกษา, กิจกรรมกลางแจ้ง, กิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์, กิจกรรมสร้างสรรค์ และกิจกรรมเสรี นอกจากนี้ ครูยังได้เข้ารับการอบรมความรู้ในโครงการฝึกอบรมบุคลากรศูนย์เด็กนำร่องสร้างสังคมที่ดีจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมาพัฒนาการเรียนการสอนด้านภาษาให้กับเด็กเล็ก ทั้งภาษามลายู, ภาษาจีน, ภาษาอังกฤษ, ภาษาท้องถิ่นหรือยาวี, และภาษาอาหรับ ปัจจุบันมีเด็ก ๓๐ คน ครูและผู้ดูแลเด็ก ๕ คน

 

               ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินไปทรงเปิดห้องสมุดมีชีวิตวีรปัญญา ค่ายสิรินธร ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อ "วีรปัญญา" หมายถึงห้องสมุดแห่งปัญญาอันแกร่งกล้า ทั้งนี้ สมาคมแม่บ้านทหารบก และกองทัพบกได้เล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางปัญญา ค้นคว้าข้อมูลข่าวสารต่างๆ จึงได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ ที.เค.พาร์ค เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๐ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตในค่ายทหาร โดยมีต้นแบบในหน่วยทหารหลายหน่วยที่ดำเนินงานมา และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่น อุทยานการเรียนรู้ศูนย์การศึกษากองทัพภาคที่ ๒

              สำหรับห้องสมุดมีชีวิตวีรปัญญา มีลูกหลานข้าราชการ และผู้ปกครองในค่ายสิรินธร รวมถึงประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง ไปใช้บริการสืบค้นข้อมูล ซึ่งมีหนังสือที่น่าสนใจ อาทิ หนังสือพระราชนิพนธ์, นวนิยาย, หนังสือส่งเสริมอาชีพ และหนังสืออ่านเล่นสำหรับเด็ก รวมถึงมุมอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรมเป็นห้องเรียนพิเศษให้กับลูกหลานกำลังพลในวันเสาร์และวันอาทิตย์

             ในการนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมผ้าบาติก ซึ่งกรมทหารราบที่ ๑๕ เข้ามาปรับปรุงอาคาร พร้อมจัดซื้ออุปกรณ์ เนื่องจากเห็นว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวกำลังพล และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการรวมกลุ่มของแม่บ้านของหน่วยในค่ายสิรินธร มีสมาชิก ๒๕ คน เป็นการเขียนลวดลายด้วยมือจากความคิด จินตนาการ การคัดสรรลวดลาย และความพิถีพิถันในการผลิตของกลุ่มแม่บ้าน ปัจจุบันสามารถผลิตผ้าบาติกทำเป็นผ้าเช็ดหน้า, ผ้าพันคอ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวกำลังพลได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ทรงลงสีลายผ้าบาติกซึ่งเป็นลายดอกดาหลา และลายนกเขา เพื่อพระราชทานเป็นที่ระลึกด้วย

 

               โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปบริการตรวจสุขภาพและบริการทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการกิจกรรมโครงการจิตอาสาญาลันนันบารู ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทอย่างทั่วถึง

               เวลา ๑๓.๓๐ น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ในการพระราชทานเกียรติบัตรและเข็มที่ระลึกแก่ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี ๒๕๕๙ เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยในปีนี้ มีผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน ๖๘ คน แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น และพนักงานรัฐวิสาหกิจ, กลุ่มผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น, กลุ่มผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ประชาชน ตลอดจนองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร

             โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในสังคม ให้ประชาชนรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน เพื่อเป็นพื้นฐานที่เข้มแข็งและก้าวไปตามครรลองที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ตลอดจนบริบททางสัมคมและวัฒนธรรมของพื้นที่ชายแดนภาคใต้อย่างสันติสุข จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการต่างๆ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามแนวพระราชดำริ อาทิ โครงการเกษตรฐานราก หัวใจการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเกษตรจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวไปสู่การเกษตรแบบผสมผสาน "เกษตรทฤษฎีใหม่" โครงการอาหารกลางวัน ครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน ให้เยาวชนต้นแบบที่นำแนวคิดโรงเรียนอาหารกลางวันมาดำเนินการในหมู่บ้านและครัวเรือนของตน เพื่อสร้างรายได้และอาชีพให้แก่ครอบครัว โครงการ ให้เงินพ่อให้เงินลูก ส่งเสริมอาชีพให้กับครัวเรือนที่ยากจนให้มีงานและรายได้ตามความสามารถและความถนัด โครงการตรวจสารพันธุกรรม DNA เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านทะเบียนราษฎร์แก่คนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศมาเลเซีย ตามกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการออกเอกสาร และยืนยันสถานภาพของบุคคลที่มีกฎหมายรับรอง มีสิทธิและหน้าที่แห่งความเป็นพลเมืองไทย โครงการเก้าอี้สุขใจ ร้อยรักสู่ครอบครัว มุ่งเน้นการดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายให้กับเด็กพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการฟื้นฟูพหุสังคมที่ดีงาม ที่สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม และโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ โดยนำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนชุมชนสัมคมพหุวัฒนธรรม จนถึงปัจจุบันมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น ๖,๔๒๙ คน

                  เวลา ๑๕.๐๓ น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดสร้างขึ้นเพื่อสักการะและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ในด้านการแพทย์ การพยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา โดยเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๒๖ สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านนิบง อำเภอกาบัง และบ้านบือแน จังหวัดยะลา ซึ่งในโอกาสนั้น ได้พระราชทานเครื่องแบบนักเรียน เครื่องนุ่งห่ม ยาตำราหลวง แก่ผู้สูงอายุ และพระราชทานของเล่นแก่เด็กๆ

               สำหรับพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ออกแบบโดยกรมศิลปากร หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ มีขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของพระองค์จริงโอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ การดำเนินของโรงเรียนฯ ซึ่งเป็นการเรียนรู้เพื่อฝึกเป็นอาชีพ อาทิ โครงงานเยื่อกระดาษกับโลกเลขาคณิต ซึ่งนักเรียนได้นำกระดาษเหลือใช้มาผลิตเป็นกระดาษสา แล้วใช้สูตรเลขาคณิตคำนวณเพื่อทำเป็นวัสดุที่ใช้ ประโยชน์ และต่อยอดทำเป็นดอกไม้ประดิษฐ์

               ส่วนโครงงานปลูกต้นหม่อนในแปลงเกษตรของโรงเรียน อยู่ระหว่างทดลองนำใบหม่อนมาแปรรูปเป็นชาใบหม่อน เพื่อขายเป็นรายได้ของนักเรียน โดยปรับเทคโนโลยีให้ง่ายและปฏิบัติได้จริง และได้ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องพืชสมุนไพร การตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตราฐานปลอดภัย ด้านหมวดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ นักเรียนเรียนรู้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษามลายู เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อเป็นยุวมัคคุเทศก์ นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมรักการอ่าน จัดกิจกรรม บิงโกราชาศัพท์ วงล้อสารานุกรม เพื่อให้นักเรียนจดจำและได้รับความรู้ในการอ่านง่ายขึ้น กิจกรรมสร้างสรรค์ภาพ ด้วยการปะติดเศษวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ใบไม้สีทอง ใบลาน และกาบกล้วย โดยทำเป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยว ประเพณี และ วัฒนธรรม โดยมีโครงการจะนำออกจำหน่ายเป็นของที่ระลึก เพื่อให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน

            ทางโรงเรียน ยังได้ดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทำการเกษตรอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลผลิตดี และนำไปจำหน่ายที่สหกรณ์โรงเรียน สำหรับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา มีเนื้อที่ ๖๐ ไร่ เปิดการเรียนการสอนปีการศึกษา ๒๕๔๐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงส่งเสริมให้เยาวชนในทุกพื้นที่ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ให้ได้รับการศึกษา ทั้งนี้ ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๘ โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนแผนกการเรียนวิทยาศาสตร์-กีฬา เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศด้านกีฬาของนักเรียน สามารถศึกษาต่อยอดในระดับสูง และนำไปประกอบอาชีพได้ ปัจจุบันมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงปีที่ ๖ จำนวน ๗๑๑ คน , ครูและบุคลากร จำนวน ๘๗ คน

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลและคลิปจาก : กรมประชาสัมพันธ์

ขอบคุณภาพจาก : เพจ เรารัก สมเด็จพระเทพ ฯ  : Our Beloved Princess Maha Chakri Sirindhorn

                         เพจ N a R a Peace ( น ร า สันติ )

                         เพจ RDPB Project