หลวงปู่ชาอ่านจิต!!  ด้วยอำนาจอภิญญาล่วงรู้วาระจิต หลวงพ่ออนันต์ เตือนได้ทันท่วงที ก่อนหลงทางผิด

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลวงปู่ชาอ่านจิต!!  ด้วยอำนาจอภิญญาล่วงรู้วาระจิต หลวงพ่ออนันต์ เตือนได้ทันท่วงที ก่อนหลงทางผิด

หลวงพ่ออนันต์เล่าถึงความเมตตาของหลวงปู่ชา ที่มีต่อญาติโยม ว่า ในช่วงที่ท่านมีชื่อเสียงดังไปทั่วประเทศ มีแต่ผู้คนร่ำลือกันว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ เป็นพระอริยเจ้าซึ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนแห่แหนมากราบไหว้ ขอคำปรึกษา ชมบารมีหลวงปู่ชา แต่ท่านเริ่มมีอายุและสุขภาพไม่แข็งแรง ญาติโยมจึงเสนอความคิดว่า กั้นรั้ว กั้นทางไว้ แบ่งเวลารับแขกให้เป็นเวลาเพื่อให้หลวงปู่ชาได้พักผ่อน

หลวงปู่ชาไม่ยอม บอกว่า ไม่ได้ ญาติโยมที่มานี้มาเพราะเคารพคารวะท่าน มีความทุกข์มา เขาไม่ได้พบเรา เขาจะเสียใจ

หลวงปู่ชาจึงยังคงนั่งรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงหกโมงเย็น

มีพระท่านนึงเดินทางมา มาถามว่า หลวงพ่อครับ วันนี้ได้พักยัง

หลวงปู่ชาบอกว่า “ผมไม่มีบุญขนาดนั้น “

หลวงพ่ออนันต์บอกว่า ตัวท่านยังมีแอบไปพักบ้าง

 

 

ในเรื่องที่หลวงปู่ชาสามารถรู้วาระจิตของศิษย์ได้ หลวงพ่ออนันต์ก็เคยเล่าประสบการณ์ว่า มีโยมมาถวายน้ำส้ม ท่านเองก่อนมาบวชก็ร่ำเรียนมาเคยทำงานที่ปูนซีเมนต์ไทย เห็นน้ำส้มก็ปรุงแต่งว่า ดี มีวิตามินซีเยอะ รู้สึกชอบใจ พอใจ

 

หลวงปู่ชารับประเคนเสร็จ ก็หันมาพูดทันที

 

“อนันต์ นี่มันเป็นที่ตายนะ พร้อมชี้ไปที่น้ำส้ม อย่าไปยินดียินร้ายกับมัน อย่าไปพอใจยินดีกับสิ่งนี้ เราจะเป็นทุกข์กับสิ่งนี้ เราจะเกิดมาตายอีก “

 

หลวงพ่ออนันต์เองถึงกับต้องอยู่กับพุทโธตลอดเวลา ไม่สามารถวอกแว่กได้ เพราะถ้าส่งจิตออกนอกเมื่อไหร่ หลวงปู่ชาจะหันมามองหน้าทันที เหมือนท่านรู้ทุกความคิดของศิษย์

ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงท่านทำเพื่อฝึกฝนศิษย์ หาใช่เพื่อทำนายทายทักญาติโยมเพื่อหาเอกลาภเข้าตัว

ในตอนที่หลวงปู่ชาขอซื้อที่ดินชาวบ้านเพื่อขยายพื้นที่วัดหนองป่าพง โดยชื่อผู้ถือครองคือวัดหนองป่าพง หาใช่เป็นชื่อหลวงปู่ชาถือครอง แต่ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า เขาว่าหลวงปู่ชาเป็นพระอรหันต์ หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง นี่แสดงว่ายังมีความโลภนะซิ ยังจะอยากได้ที่ดินชาวบ้าน อยากได้ที่ดินแยะๆ เอาไปทำไมเยอะแยะ ที่หนองป่าพง 98ไร่ไม่พอเหรอ ต้องซื้ออีกเป็นสองสามร้อยไร่

 

ซึ่งก็ไม่ต่างกับตอนสร้างศาลาที่ถูกคนตำหนิว่า บ้านนอกคอกนาแบบนี้สร้างใหญ่ๆไป ใครมันจะมา แต่หลวงปู่ชาก็บอกว่า ถึงเวลามันจะแคบไปด้วยซ้ำ ก็ถูกหัวเราะเยาะ

 

เรื่องที่ดินนี้หลวงปู่ชาก็ถูกนินทา เป็นหัวข้อล้อเลียนว่าอรหันต์อะไร อยากได้ที่ดินเยอะๆ จากคนที่ไม่เข้าใจ

 

แต่ตัวหลวงปู่ชามักจะพูดย้ำเสมอเวลานำศิษย์ก่อสร้างจัดทำอะไรว่า ไอ้ที่ทำทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองนะ ผมทำเพื่อพวกท่านนะ ทำไว้ผมก็ไม่ได้อยู่หรอก ลำพังตัวผม ถ้าจะหาเอกลาภให้ตัวเองนะ เอาสิบล้อขนมาก็ไม่หมดหรอก

 

ซึ่งมาถึงวันนี้ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เมื่อความเจริญการขยายตัวของบ้านเมืองมากขึ้น ป่าไม้และสัตว์ป่าแบบกวาง ก็เริ่มหายไป

 

พื้นที่ของวัดหนองป่าพง จึงกลายเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดคอยฟอกอากาศให้คนวารินชำราบ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือกลายเป็นสถานที่จัดงานปฏิบัติธรรมประจำปีที่ได้ชื่อว่า เป็นงานปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนาระดับโลกงานหนึ่ง ที่ชื่อว่า งานอาจริยบูชาหลวงปู่ชา ที่มีประจำทุกเดือนมกราคม

 

เป็นหมุดหมายปลายทางของผู้ใฝ่ธรรม ศึกษาธรรมของคนทั่วโลกที่มุ่งหวังจะมาสัมผัสบรรยากาศ หรือมีโอกาสเข้าร่วมสักครั้งหนึ่ง

 

ทุกเดือนมกราคม จะมีผู้มาร่วมงาน มาปฏิบัติธรรมนับหมื่นคน พื้นที่หลายร้อยไร่ของวัดหนองป่าพงจะดูคับแคบลงถนัดตา ก็เหมือนดั่งหลวงปู่ชาพูดไว้ว่า ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองนะ ผมทำเพื่อพวกท่านนะ ตัวผมเองไม่ได้อยู่ได้ใช้หรอก

 

 

******

ที่มา : อุปลมณี