- 05 ต.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/
หากพูดถึงทายาทศิษย์เอก ของ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม หลายคนคงนึกถึง พระเดชพระคุณพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือที่ชาวบ้านทั่วไป เรียกจนติดปากว่า “หลวงพี่น้ำฝน” และจุดเริ่มต้นแห่งแสงธรรม จุดประกาย เมื่อคราเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ทำให้ได้เรียนรู้ถึงสมาธิแห่งการสวดมนต์ การปฏิบัติในกรอบแห่งศีล และพระธรรมวินัย ส่งผลให้มีจิตใจอ่อนโยน นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การบรรพชาสามเณรฤดูร้อนครั้งนี้ ดลใจให้ใฝ่รู้ ในเรื่องคาถาอาคม เวทย์มนต์ เลขยันต์อักขระต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระคณาจารย์ ที่ทรงคุณวิเศษ นี่คือจุดเริ่มต้นพื้นฐานบนถนนแห่งธรรม
-เส้นทางแห่งธรรม...ก้าวสู่เจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม-
หลวงพี่น้ำฝน เมื่อมีอายุครบบวชพอดี จึงถือโอกาสบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ ณ พัทธสีมาวัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีพระเดชพระคุณ พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ หลวงพ่อผูก วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “กิตติจิตโต” แปลว่า “ผู้มีจิตที่น่าสรรเสริญ”
ครานั้นตั้งใจบวชให้ยาย เพียง ๑๕ วันเท่านั้น เหตุการณ์ผันแปร วิถีชีวิตเปลี่ยน “ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งชอบ” ความปรารถนาเดิม เปลี่ยนไป ได้เห็นวัตรปฏิบัติหลวงพ่อพูล เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพ จึง เกิดความศรัทธา ปิติในใจที่ได้มาใกล้ชิดหลวงพ่อ
ในพรรษาแรกนี้ เดินทางไปกับพระสงฆ์หลายรูป ร่วมกิจกรรมอยู่ปริวาส ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นอนกลด สวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา จนสามารถได้วิชา เจริญสมาธิปลุกเสกอธิษฐานจิต “ถักสายสิญจน์สีขาว”สำเร็จ นี่คือด่านแรกแห่งความตั้งใจที่จะมอบกายถวายใจอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์สืบไป
เมื่อกลับจากอยู่ปริวาส หลวงพี่น้ำฝน ตัดสินใจเข้าไปรับใช้หลวงพ่อ ดูแลทำงาน ด้วยความตั้งใจ เรียนรู้สรรพวิชา ด้วยความขยันหมั่นเพียร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ พรรษา ๓ นับเป็นปีที่สำคัญของพระเดชพระคุณหลวงพี่น้ำฝน เป็นอย่างมาก เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ตัดสินใจทำพิธีครอบครูให้ โดยมีประกาศิต เรียกให้เข้าไปพบ โดยบอกจะครอบครูให้ ซึ่งในวันดังกล่าว ตรงกับวันวิสาขบูชา วันที่ ๑ พฤษภาคม ซึ่งหลวงพ่อจัดให้มีพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์เป็นประจำทุกปี ท่านให้เด็กวัด จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ ดอกไม้ ธูปเทียน พานบายสี ทำพิธีครอบครูให้หลวงพี่น้ำฝน อย่างเป็นทางการ เพื่อสืบสานตำนานพระเวท มอบให้สนองงานรับใช้อย่างเป็นทางการ
ประเดิมภารกิจรับงานแรก ในฐานะสืบสานตำนานพระเวทหลวงพ่อพูลอย่างเป็นทางการ ด้วยการสร้างอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ โดยหลวงพี่น้ำฝนได้กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เพื่อทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันอังคารที่ ๒๕ มิถุนายน ปีพุทธศักราช ๒๕๓๙
และ หลวงพี่น้ำฝน ยังสร้างเหรียญหลวงพ่อพูล ขนาดจัมโบ้ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า เหรียญโก๋ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง ๒.๘ เซนติเมตร เนื้อ ๓ กษัตริย์ ด้านหน้ารูปเหมือนหลวงพ่อพูล ครึ่งองค์ มีโค้ด ๘๔ ตรงจีวร เขียนเป็นเลขไทย ด้านล่าง เขียนว่า “หลวงพ่อพูล” ด้านหลังเขียนว่า รุ่นไตรมาส ๘๔ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เหรียญหลวงพ่อพูล บารมี ๘ ทิศ มอบเป็นที่ระลึกพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถเฉลิมพระเกียรติ เหรียญหลวงพ่อพูล รุ่นบูชาครู ๒๕๓๙ พระกริ่งไผ่ล้อม ขนาดบูชา ๓ นิ้ว และหลวงพ่อสุโขทัย ขนาดบูชา ๕ นิ้ว ๙ นิ้ว ฐานถอดได้ และในปีต่อๆมาหลวงพี่น้ำฝนก็ ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆออกมาอย่างมากมาย โดยยึดเอาวิชาที่ร่ำเรียนมาจาก หลวงพ่อพูล มาปลุกเสก จึงทำให้ศิษย์หลวงพ่อพูล ยังคงเชื่อในวิชาที่ หลวงพี่น้ำฝน สืบทอดมา
ซึ่งในปีนี้หลังจากครอบครูแล้ว หลวงพี่น้ำฝน มุ่งเรียนวิชาเขียนอักขระคาถาเลขยันต์ อย่างจริงจัง ทำให้สามารถเขียนยันต์ได้หลากหลาย กำหนดจิตพิจารณา ลงอักขระท่องมนต์ ตามที่หลวงพ่อพูล ได้ถ่ายทอดวิชาให้ จนสัมฤทธิ์ผลตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา ทั้งหลวงพ่อพูล ยังได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่มีให้กับหลวงพี่น้ำฝนจนหมดแล้วสิ้น ในปี ๒๕๔๗
และเมื่อถึง วันที่เป็นประวัติศาสตร์วงการสงฆ์ไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ วันวิสาขบูชา หลวงพ่อพูลละสังขาร อย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าสลด ของญาติโยมพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
หลวงพี่น้ำฝน คือทายาทศิษย์เอกรูปแรกและรูปเดียวของหลวงพ่อ ที่ต้องสานต่องานรับภาระธุระในบวรพุทธศาสนามากมาย ทั้งภายในวัดไผ่ล้อม และภายในวัด หลวงพี่น้ำฝน จึงได้ขึ้นเป็น เจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อมต่อจาก หลวงพ่อพูล โดยไม่มีใครโต้แย้ง
-คดีดัง...หลวงพี่น้ำฝน-
แต่ไม่ว่าใครจะมองว่า หลวงพี่น้ำฝน นั้นช่วยวัดไผ่ล้อมขนาดไหน แต่ประชาชนศิษย์วัดไผ่ล้อม ก็มีแตกแยกออกเป็น ๒ เสียง โดยเสียงหนึ่ง ศรัทธาในตัว หลวงพี่น้ำฝน เป็นอย่างมาก ส่วนอีก เสียงหนึ่งนั้น มีการแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหลวงพี่น้ำฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ที่เป็นข่าวคราวโด่งดังที่สุด ที่ทำให้ประชาชนทั้งประเทศหันมาสนใจ ไม่ใช่ของขลัง หรือ ของดี แต่คือ คดีรถหรูโบราณ จากัวร์ แพนเธอร์ ที่มีมูลค่าหลายล้านบาท ที่ DSI เข้ามาตรวจสอบ เมื่อเดือน ก.ค. ปี ๕๙ โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าหลวงพี่น้ำฝนนำเงินทำบุญ มาซื้อรถหรูพวกนี้ แต่หลวงพี่น้ำฝน ก็ได้ออกมาชี้แจง ประเด็นนี้โดยยื่นหลักฐานต่างๆ ว่า เงินที่ได้จากการทำบุญ หลาย ๑๐๐ ล้าน เอาไปทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น สร้างศาลา สร้างโรงเรียน และ สร้างโรงพยาบาล ส่วนเรื่องรถนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเอง เพราะ โยมนำมาถวายให้ด้วยความศรัทธาทั้งนั้น
แต่หลังจากที่ DSI นำรถเข้าไปตรวจสอบถึง ๒ ครั้ง ก็ได้ชี้ชัดว่า รถยนต์หรูโบราณนั้น มีความผิด ฐานจดประกอบเลี่ยงภาษี และ ปลอมแปลงเอกสารจริง แต่เนื่องจากคดีนี้ถือว่าไม่เป็นคดีพิเศษ DSI จึงให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินงานต่อไป ความคืบหน้าของคดีนี้ยังไม่มีใครทราบว่าจะจบลงอย่างไร และเงียบหายไปโดยที่แทบไม่มีใครสนใจจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.watpailom.org , th.wikipedia.org






