- 09 ต.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th
ศาสตราจารย์พิเศษพลตรี นายกองใหญ่ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
(๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๔ – ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๘)
นักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ นับเป็นปูชนียบุคคลท่านหนึ่งของไทย เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ๔ สมัย สื่อมวลชนจึงนิยมเรียกทั้งคู่ว่า "หม่อมพี่ หม่อมน้อง" นอกจากนี้ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ และ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ยังมีพี่สาวคือ หม่อมราชวงศ์บุญรับ พินิจชนคดี (สมรสกับ พลตำรวจเอกพระพินิจชนคดี หรือ พินิจ อินทรทูต)
เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๑กระทรวงวัฒนธรรมของไทย ได้เสนอชื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อองค์การยูเนสโก โดยมีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านซึ่งต่อมาในวันที่ ๒๓ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน ๔สาขา ได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี ชาตกาล พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยได้รับการประกาศพร้อมกันกับครูเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งได้รับในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี ชาตกาลพ.ศ. ๒๕๕๓
ประวัติ
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดวันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ในเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ตำบลบ้านม้า อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นโอรสคนสุดท้อง ในบรรดาโอรส-ธิดา ทั้ง๖ คน ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) โดยชื่อ "คึกฤทธิ์" นั้น มาจากการที่ ชอบร้องไห้เสียงดังในวัยทารก จึงได้รับพระราชทานนามนี้จาก สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ หม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์พริ้ง ทองใหญ่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙มีบุตรธิดา ๒ คน คือ หม่อมหลวงรองฤทธิ์ ปราโมช และ หม่อมหลวงหญิง วิสุมิตรา ปราโมช ต่อมาได้แยกกันอยู่กับหม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช พักอยู่ที่บ้านในซอยพระพินิจ ซึ่งเป็นซอยย่อยอยู่ในซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ เขตสาทร บ้านหลังนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "บ้านซอยสวนพลู"
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ นับเป็นบุคคลที่มีบุคลิกและบทบาทที่หลากหลาย มีชื่อเสียงในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการประพันธ์ การแสดง และยังเป็นนักการเมือง ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก้าวหน้า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ ต่อมาได้ยุบรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ในปีถัดมา ต่อมาก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ และก่อตั้งพรรคกิจสังคม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ และได้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ ๑๓ ของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยสามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลทั้งที่มีจำนวน ส.ส.ในมือเพียง ๑๘ คน รัฐบาลคึกฤทธิ์ในครั้งนั้นมี นายบุญชู โรจนเสถียร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกิจสังคม เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบาย "เงินผัน" เป็นที่รู้จักเลื่องลือทั่วไปในสมัยนั้น
ก่อนดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยรับบทเป็น นายกรัฐมนตรี ของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศหนึ่ง ชื่อว่าประเทศ สารขัณฑ์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Ugly American (๑๙๖๓) คู่กับมาร์ลอน แบรนโด เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ และหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เคยรับบทเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ ผู้แทนนอกสภา กำกับโดย สุรสีห์ ผาธรรม นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖
ระหว่างการเล่นการเมือง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีบุคลิกที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองที่ทุกคนรู้จักดี คือ วาทะศิลป์ และบทบาทเป็นที่ชวนให้จดจำ เช่น การผวนพูดเล่นชื่อของตัวเองเมื่อมีผู้ถามว่า หมายถึงอะไร โดยตอบว่า "คึกฤทธิ์ ก็คือ คิดลึก" เป็นต้น
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ได้รับฉายาจากนักการเมือง และสื่อมวลชนมากมาย เช่น "เฒ่าสารพัดพิษ" "ซือแป๋ซอยสวนพลู" ภายหลังเมื่อมีอาวุโสสูงวัย จนสามารถแสดงความเห็นทางการเมือง ได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ จึงได้รับฉายาว่า "เสาหลักประชาธิปไตย" นอกจากนี้อีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียก หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ในบางแห่งคือ "หม่อมป้า"
ในด้านวรรณศิลป์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง, หลายชีวิต, ซูสีไทเฮา, สามก๊กฉบับนายทุน และเรื่องสั้น "มอม" ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทยในปัจจุบัน บางชิ้นมีผู้นำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ เช่น สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต และทำเป็นภาพยนตร์ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ สิริรวมอายุ ๘๔ ปี ๕เดือน๒๐ วัน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อให้ท่านเป็น บุคคลสำคัญของโลก กับทาง ยูเนสโก
การศึกษา
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เริ่มต้นเรียนหนังสือที่บ้าน กับหม่อมราชวงศ์บุญรับ พี่สาวคนโต จนอ่านภาษาไทยได้ตั้งแต่อายุ ๔ ปี กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๘ ท่านจึงเข้าศึกษาภาคบังคับ ที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (วังหลัง) จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ที่โรงเรียนเทรนต์วิทยาลัย (Trent College) จากนั้นสอบเข้าวิทยาลัยควีนส์ (The Queen's College) มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เพื่อศึกษาวิชาปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการเมือง (Philosophy, Politics and Economics) โดยสำเร็จปริญญาตรีเกียรตินิยม และอีกสามปีต่อมา ก็สำเร็จปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ผลงานประพันธ์
มาร์ลอน แบรนโด (กลาง) และ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ (ขวา) ในภาพยนตร์ The Ugly American
นวนิยาย
สี่แผ่นดิน
ไผ่แดง
กาเหว่าที่บางเพลง
ซูสีไทเฮา
สามก๊กฉบับนายทุน
ราโชมอน
ฮวนนั้ง
โจโฉ นายกตลอดกาล
รวมเรื่องสั้น
มอม
เพื่อนนอน
หลายชีวิต
สารคดี
ภาพลายเส้น โดยประยูร จรรยาวงษ์ ตีพิมพ์ใน สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
ฉากญี่ปุ่น
ยิว
เจ้าโลก
สงครามผิว
คนของโลก
ชมสวน
ธรรมคดี
น้ำพริก
ฝรั่งศักดินา
สรรพสัตว์
สัพเพเหระคดี
ข้อคิดเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
โครงกระดูกในตู้
พม่าเสียเมือง
ถกเขมร
เก็บเล็กผสมน้อย
เบ้งเฮ็ก ผู้ถูกกลืนทั้งเป็น
เมืองมายา
เรื่องขำขัน
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เล่นลิเกกิตติมศักดิ์เรื่อง หลวิชัย-คาวี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔
โจโฉ นายกฯ-ตลอดกาล
กฤษฎาภินิหารอันบดบังมิได้
คนรักหมา
ตลาดนัด
นิกายเซน
บันเทิงเริงรมย์
วัยรุ่น
สงครามเย็น
อโรคยา
สยามเมืองยิ้ม
ห้วงมหรรณพ
บทละครเวที
ลูกคุณหลวง
ราโชมอน
ทำงาน
รับราชการที่กรมสรรพากรประวัติการ
เลขานุการที่ปรึกษากระทรวงการคลัง
ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาลำปาง (พ.ศ. ๒๔๗๘-๒๔๘๖)
รับราชการทหาร (เมื่อเกิดสงครามอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา ได้รับยศ สิบตรี)
หัวหน้าฝ่ายสำนักผู้ว่าการและหัวหน้าฝ่ายออกบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การจำกัด
เขียนบทความลงในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู"
อาจารย์พิเศษของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำ พ.ศ. ๒๕๒๘
พ.ศ.๒๕๓๑ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศจากสิบตรี เป็นพลตรี (ทหารราชองครักษ์พิเศษ)
บทบาททางการเมือง
แม่แบบ:นายกรัฐมนตรีไทย ๒๕๑๐-๒๕๑๙
พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๔๘๙เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งพรรคการเมืองพรรคแรกในเมืองไทย ชื่อ "พรรคก้าวหน้า"
ได้ร่วมในคณะผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก
ได้ริเริ่มจัดตั้งพรรคกิจสังคม
พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและได้รับเลือกเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น และได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้ตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร บริหารประเทศประมาณ ๙ เดือนเศษ
ผลงานที่สำคัญ
หลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘หลังจากที่ตัดขาดความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลมาเป็นเวลานาน
การวิพากษ์วิจารณ์
สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ โดยเฉพาะ สี่แผ่นดินว่า "ใช้เล่ห์เพทุบาย ในการมอมเมาผู้คนยิ่งกว่าให้ข้อเท็จจริงอย่างสุจริตใจ" ส่วน ไผ่แดง กาเหว่าที่บางเพลง ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา สุลักษณ์ กล่าวว่าเป็นบทประพันธ์ที่ลอกเลียนมาจากภาษาต่างประเทศระดับ "ขโมยหรือปล้นสะดมมาเลยทีเดียว" คำวิพากษ์วิจารณ์นี้อยู่บนพื้นฐานของการวิจัยปัญญาชนไทย ๑๐ คน ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย ซึ่ง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ และ หลวงวิจิตรวาทการ ก็อยู่ในรายชื่อปัญญาชนของการวิจัยดังกล่าวด้วย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. ๒๕๑๘ - Order of Chula Chom Klao – ๑st Class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.)
พ.ศ. ไม่ปรากฏ - Order of the White Elephant - Special Class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
พ.ศ. ๒๕๑๘ - Order of the Crown of Thailand - Special Class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
พ.ศ. ๒๕๑๒ - Order of Chula Chom Klao – ๒nd Class upper (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.
King Rama IX Royal Cypher Medal (Thailand) ribbon.png เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๙ ชั้นที่ ๑
Dushdi Mala - Civilian (Thailand).png เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาวรรณศิลป์
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพื่อเผยแผ่กิตติคุณปูชนียบุคคล






