- 14 ต.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๓ กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระองค์นี้ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ (พระอุปัชฌาย์) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ขณะทรงผนวช ในวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๙ โดยได้มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ คือ
ครั้งหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เสด็จกลับจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเสด็จไปศึกษาต่อที่นั่น ครั้งนั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงได้รับอาราธนาเข้าไปรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เหตุการณ์ด้านนอกพระบรมมหาราชวังนั้น ประชาชนล้มหลาม ชวนกันมาชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ปรากฏว่าถูกทหารตำรวจกีดกันไว้ไม่ให้เข้าเฝ้า ทั้งนี้เพราะเกรงจะเกิดเหตุอันไม่พึงปรารถนา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเข้าสู่บริเวณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทรงมีพระราชปฏิสันฐานกับพระสงฆ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงมีพระสังฆราชปฏิสันถารต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
"...ราษฎรเขามาคอยเฝ้ากันตามถนนหนทางมากมาย เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจไปคอยกันเขาไม่ให้เข้าใกล้ได้แลเห็นพระองค์ เขาเสียใจ เขาเสียใจกันมาก ในเมืองไทยเรานี้ พระเจ้าแผ่นดินกับราษฎรไม่เป็นภัยต่อกันเลย ขอให้ทรงจำไว้ ราษฎรไม่เป็นภัยต่อพระองค์เลย..."
แล้วเสียงสมเด็จฯก็เงียบหายไป เผอิญว่า ไมโครโฟนที่อยู่ด้านหน้าของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า เปิดไว้ก่อนแล้ว ซึ่งขณะที่ท่านถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านก็คงไม่ทราบว่าไมโครโฟนนั้นเปิดอยู่
กาลเวลาได้ล่วงเลยมานาน ได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์แล้วว่าสมเด็จฯท่านพูดถูก พูดตรงและพูดจริง และก็ไม่เคยมีปรากฏในยุคใดสมัยใดเลยว่า ราษฎรได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดินของเขาด้วยความรัก และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นปราศจากภัยโดยสิ้นเชิง อย่างในยุคนี้สมัยนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.alittlebuddha.com , สยามรัฐหน้า ๕ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๑๑