- 25 ต.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
จากกรณีที่กระแสในโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวต่างๆเกี่ยวพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ล่าสุดมีกระแสออกมาถึงการชมความงดงามของพระเมรุมาศ ที่มีการแชร์ข่าว ว่าห้ามชม "พระเมรุมาศ" ว่า "สวยงาม งดงาม" แต่ให้ใช้คำว่า "สมพระเกียรติ" เพราะจะทำให้มีการสูญเสียขี้น และรวมไปถึงการห้ามส่งดอกไม้จันทน์ให้กัน
ล่าสุด เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Paothong Thongchua อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมเเละผ้าไทยรวมไปถึงงานศิลปหัตถกรรม ศูนย์ศิลปาชีพ ได้โพสต์เกี่ยวกับข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า
ตั้งใจว่าจะอดใจเอาไว้พูดหลังงานถวายพระเพลิงแล้ว แต่ก็มีคนกระหน่ำส่งไลน์กับเรื่องที่ไร้เหตุผล ไร้สาระมากๆ มาให้ทุกวี่ทุกวัน วันนี้จึงต้องขอพูดถึง ข้อห้ามต่างๆนานาเกี่ยวกับดอกไม้จันทน์ ที่ตะบี้ตะบันส่งกันทั่วทั้งเมืองสักหน่อย เพราะเกิดมาก็หกสิบกว่าปีแล้ว เวลาไปงานศพตามวัดต่าง ก็มีคนของวัดหรือของเจ้าภาพ หยิบดอกไม้จันทน์จากพานที่จัดเตรียมไว้ส่งให้โดยตลอด เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ เวลาเราเดินไปที่เชิงเมรุ ก็จะมีคนหยิบดอกไม้จันทน์จากพานส่งให้ มีทั้งส่งมือต่อมือ มีทั้งส่งด้วยพานต่อมือ
หรือบางครั้งเวลาจะไปงานศพก็มีญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงที่ไปร่วมงานเผาศพไม่ได้ ฝากดอกไม้จันทน์ไปร่วมเผาศพด้วย ก็รับฝากและถือขึ้นไปวางบนเมรุเสมอๆ ก็ไม่เคยมีใครว่าเลย ไม่เข้าใจว่าธรรมเนียมที่ห้ามส่งดอกไม้จันทน์ให้กัน เกิดขึ้นมาสมัยไหน และใครเป็นคนบัญญัติ และที่งงมากก็คือ การห้ามชมว่าดอกไม้จันทร์สวย ก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมที่ใครบัญญัติขึ้น ด้วยเช่นกัน เพราะที่บ้านของผมในสมัยเด็กๆเวลาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายจะไปงานเผาศพก็จะสั่งบ่าวไพร่ เอาหีบไม้ที่บรรจุท่อนไม้จันทน์ มาไสให้เป็นขี้กบแบบ ที่เป็นแผ่นวงๆ แล้วจึงนำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ และเข้าช่อกับธูปเทียนไม้ระกำ เวลาบ่าวไพร่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายได้เห็น ท่านผู้ชมเชยกันว่าสวยงามดี เพราะถ้าทำไม่สวย ท่านก็สั่งให้ทำใหม่ใครจะถือของไม่สวยไม่งามไปงานศพได้
ส่วนธรรมเนียมที่มีดอกไม้จันทน์อยู่ในมือ แล้วห้ามยกมือขึ้นไหว้หรือรับไหว้ก็งงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนอายุหกสิบกว่าวันนี้ ก็พนมมือไหว้ และพนมมือรับไหว้ ทั้งทั้งที่มีดอกไม้จันทน์อยู่ในมือมาโดยตลอด เพราะเวลาเดินขึ้นเมรุ ก็มักจะเจอกับแขกผู้ใหญ่และแขกเด็กกว่า ที่ไปร่วมงาน ถ้าไม่ไหว้หรือรับไหว้กันตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหว้หรือรับไหว้กันตอนไหน เพราะเมื่อเผาศพเสร็จแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านเลย ก็เลยสงสัยว่าคงจะเป็นธรรมเนียมใหม่ ที่บัญญัติขึ้นในงานพระเมรุครั้งนี้
และสงสัยอีกว่า ต่อนี้ไป คงจะต้องหนีไปเดินตรอก ปล่อยให้พวกคนที่เขาบัญญัติธรรมเนียมใหม่นี้ ขึ้นมาเดินถนนแทน
สำหรับดอกไม้จันทน์นั้น เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เทียมขึ้นใช้ทดแทนดอกจริง ซึ่งผู้คิดค้นก็คือ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระองค์ทรงนำเนื้อไม้จันทน์มาประดิษฐ์ โดยเนื้อไม้จันทน์ที่นำมาประดิษฐ์เป็นดอก จะใช้เฉพาะส่วนเปลือก นำมาฝานให้บาง จัดเข้าช่อเข้ากลีบเป็นดอกไม้ แล้วมัดรวมเข้าด้วยกัน ในช่วงแรกๆ ไม้จันทน์ จะนิยมใช้สำหรับชนชั้นสูง หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ หรือผู้มีตระกูล มีศักดิ์ใหญ่ แต่กาลต่อมาได้แพร่หลายในหมู่สามัญชน และมีการนำพันธุ์ไม้อื่นมาประยุกต์ เมื่อไม้จันทน์หายากขึ้น อาทิ เช่น ไม้โมก
เหตุที่ใช้ไม้จันทน์ เนื่องจากไม้จันทน์ เป็นไม้มงคล หายาก และมีราคาสูง ที่สำคัญเป็นไม้ที่มีน้ำมันซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ปัจจุบันมีการสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาใช้ในวงการความสวยความงาม ที่มีราคาค่อนข้างสูง ไม้จันทน์ในสมัยก่อนมีจำนวนมาก ชนชั้นสูงยังนิยมนำไม้มาทำหีบสำหรับบรรจุศพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโกศสำหรับบรรจุศพเจ้านายชั้นสูง ล้วนแต่ใช้ไม้จันทน์ทั้งสิ้น หรือการนำมาทำเป็นฟืนที่ใช้ในการเผาศพเพื่อกลบกลิ่นศพ นอกจากนี้สิ่งนี้ยังสอดคล้องกับความเชื่อของคนไทย เพราะคนไทยมีคติความเชื่อเรื่องการเผาเครื่องหอม กำยาน ถวายต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่ในการไหว้พระพุทธรูป คนไทยก็ยังนิยมไหว้ด้วยธูปหอมที่ทำจากไม้จันทน์ ภูมิปัญญาไทยสมัยโบราณในการทำเครื่องหอมยังมีอีกมากมายค่ะ เช่น การนำไม้จันทน์มาทำเป็นเครื่องใช้ต่างๆ เช่น พัดไม้จันทน์ หีบใส่เสื้อผ้าที่ทำจากไม้จันทน์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เสื้อผ้าที่สวมใส่มีกลิ่นหอมของไม้จันทน์ และยังสามารถป้องกันมด แมลงได้ดีอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Facebook Paothong Thongchua
http://www.bagindesign.com
ขอบคุณภาพจาก : welovemyking






