พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

           ผ่านไปแล้วสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง) ในเวลา ๒๒.๐๐ น. หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าในอดีต สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงนั้น มีการ เผาหลอก และ เผาจริง เรื่องการมีเผาหลอก-เผาจริงนั้น เป็นความคิดของบรรดาเจ้าพนักงานในงานพระราชทานเพลิงศพข้าราชการสมัยรัชกาลที่ ๕ 

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

            ทั้งเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมโบราณในอดีต ได้รู้ถึงธรรมเนียมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ  สำหรับวิธีการเผาหลอก และ การเผาจริงนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว ๆ ปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยในขณะนั้น เรียกวิธีการนี้ว่า เปิดเพลิง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้บันทึกเกี่ยวกับที่มาและความแพร่หลายของพิธีนี้ว่า 

          "แท้จริงเปนความคิดของพวกเจ้าพนักงานเผาศพหลวง ในตอนปลาย ๆ รัชกาลที่ ๕ เพื่อมิให้ผู้ที่ไปช่วยงานเผาศพ เดือดร้อนรำคาญเพราะกลิ่นแห่งการเผาศพ ในเวลาที่ทำพิธีพระราชทานเพลิง จึงปิดก้นโกษฐ์หรือหีบไว้เสีย และคอยระวังถอนธูปเทียนออกเสียจากภายใต้เพื่อมิให้ไฟไหม้ขึ้นไปถึง ต่อตอนดึกเมื่อผู้คนที่ไปช่วยงานกลับกันหมดแล้ว จึงเปิดไฟและทำการเผาศพจริง ๆ ในเวลาที่เผาจริง ๆ เช่นว่านี้ มักมีพวกเจ้าภาพอยู่ที่เมรุบ้าง จึงเกิดนึกเอาผ้าทอดให้พระสดัปกรณ์บ้างตามศรัทธา ดังนี้จึงเกิดเปนธรรมเนียมขึ้นว่า ผู้ที่มิใช่ญาติสนิทให้เผาในเวลาพระราชทานเพลิง ญาติสนิทเผาอีกครั้งหนึ่งเมื่อเปิดเพลิง กรมนเรศร์เป็นผู้ที่ทำให้ธรรมเนียมนี้เฟื่องฟูขึ้น และเป็นผู้ตั้งศัพท์ เผาพิธี และ เผาจริง ขึ้น เลยเกิดถือกันว่าผู้ที่เป็นญาติและมิตรจริงของผู้ตายถ้าไม่ได้เผาจริงเป็นการเสียไป และการเผาศพจึ่งกลายเป็นเผา ๒ ครั้ง"

          งานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ ถือเป็นงานระดับพระมหากษัตริย์พระองค์แรก ที่ได้รับการถวายพระเพลิงตามธรรมเนียมการเผาหลอกและการเผาจริงนี้ โดยเริ่มจากการอัญเชิญพระบรมศพจากที่ประดิษฐานในพระบรมมหาราชวัง ออกมาถวายพระเพลิงยังพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวง ซึ่งกระทำภายในวันเดียว ส่วนการเปิดเพลิงนั้น จะกระทำตอนกลางคืน นอกจากนี้แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมในบางประการเพิ่มเติม อย่างเช่น การงดใช้หยวก มะละกอ และฟักทองแกะสลักประดับแท่นจิตกาธาน แต่ใช้ดอกไม้สดแทน และในระหว่างการถวายพระเพลิง เหล่าทหารได้บรรเลงแตรวง พร้อมกับยิงปืนใหญ่ ปืนเล็ก เสียงกึกก้อง เป็นการถวายพระเกียรติยศ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ได้กลายเป็นระเบียบปฏิบัติต่อการจัดงานพระบรมศพ และพระศพต่อเนื่องกันมานับแต่นั้น 

 

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

        ต่อมาเมื่อครั้งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อถึงเวลา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ประทับพระราชยานและพระวอสีวิกากาญจน์ เสด็จพระราชดำเนินมายังพระเมรุมาศ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงขึ้นประทับพระที่นั่งทรงธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายพระธรรมเทศนา พระราชาคณะ ๕๐ รูป สวดพระอภิธรรม ทรงประเคนเครื่องสังเค็ดตามธรรมเนียม เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระเมรุมาศทางบันไดด้านตะวันตก ทรงจุดดอกไม้จันทน์จากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ตะเกียง ทรงวางบนกองท่อนฟืนไม้จันทน์ เจ้าพนักงานคอยเลี้ยงพระเพลิงให้ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา โดยที่ยังไม่ให้ไหม้พระโกศไม้จันทน์

 

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

          จากนั้น เป็นช่วงเวลายิ่งใหญ่ที่สุด กองทหารกระทำวันทยาวุธถวายเคารพพระบรมศพ ทหารปืนใหญ่ยิงปืนใหญ่สลุตเสียงดังกึกก้อง แตรวงบรรเพลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และแตรเดี่ยวเป่าเสียงยาวเป็นสัญญาณนอน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ประทับหมอบกราบกับพื้น ผมคิดว่าทุกคน ณ ที่นั้น จะไม่มีวันลืมช่วงเวลาเเห่งการอำลาครั้งสุดท้ายที่ติดตาตรึงใจเลย

 

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

          เมื่อทั้ง ๒ พระองค์ทรงยืนขึ้น ทรงทอดพระเนตรพระโกศอยู่ชั่วขณะ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับประทับยังพระที่นั่งทรงธรรม ลำดับถัดมา โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าเสด็จขึ้นพระเมรุมาศทางบันไดด้านเหนือ ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในเสด็จขึ้นพระเมรุทางบันไดด้านใต้ เพื่อถวายพระเพลิง เมื่อได้เวลาอันสมควร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินกลับพระบรมมหาราชวัง แต่คลื่นมหาชนจำนวนมากยังคงมากราบถวายบังคมพระบรมศพต่อไปอย่างไม่ขาดสายจนถึงเวลาค่ำ คนอีกจำนวนหนึ่งก็มานั่งชมพระเมรุมาศที่สว่างไสวด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน         

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

          เทียนและดอกไม้จันท์เป็นการถวายราชสักการะครั้งสุดท้าย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่าเป็นการขอขมาลาโทษของเราต่อผู้วายชนม์หากเคยล่วงเกินกันไว้ ดังนั้น ผู้ที่ตั้งตนอยู่ในความชอบธรรม ไม่เคยล่วงเกินใคร ก็ไม่ต้องทำพิธีนี้ก็ได้

           พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง มีขึ้นเมื่อเวลา ๒๒.๐๐ นาฬิกา เบื้องหลังพระวิสูตรทองที่ปิดสนิท พระเพลิงที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจุดไว้ยังคงลุกโชนไม่มอดดับ เจ้าพนักงานจัดการถวายพระเพลิง โดยรักษาหน้าที่คอยเฝ้าอยู่ทั้งคืน และใช้ไม้เกลี่ยพระบรมอัฐิเพื่อให้แน่ใจว่าไหม้หมดทุกพระองค์”

 

 

 

 

ขอกราบขอบพระคุณเจ้าของข้อมูลและภาพมา ณ โอกาสนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ฉายานิทรรศน์ , หอจดหมายเหตุแห่งชาติ , กรมศิลปากร

                           http://www.welovemyking.com

พระราชพิธีกรุงสยาม!! เปิดธรรมเนียมโบราณ "เผาจริง-เผาหลอก" ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระมหากษัตริย์ในอดีต ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!