บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

วันนี้....จะพูดกันถึงเรื่องการประกอบกรรมชั่ว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "บาป" ซึ่งก็หมายถึงความผิดที่มนุษย์ได้กระทำไป และจักต้องได้รับโทษจากการกระทำนั้น โดยจะหนักหรือเบาเพียงใดขึ้นอยู่กับ"บาป"นั้นๆ

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

"บาป" นับเป็นตำนานความเชื่อที่ลี้ลับที่มีมาแต่นานกาล สำหรับมนุษย์ชาติ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ในลัทธิหรือศาสนาใดบนภพนี้ มาก-น้อย ขึ้นอยู่กับ "ศรัทธา"ของแต่ละมนุษย์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็น "พุทธ - คริสต์ - อิสลาม "ล้วนเฉกเช่นกัน โดยได้มีการกำหนดกฏเกณฑ์ของเรื่องบาปเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยสรุปต่างก็เน้นไปในเรื่องของ"โทษ"ที่ผู้กระทำบาปจะพึงได้รับ

ในทาง"พุทธศาสนา" เน้นในเรื่องของโทษของผู้กระทำบาปไว้ว่า..ผู้ใดประกอบกรรมทำบาป ทำกรรม ก็จะได้รับโทษตามกรรมที่ได้ทำไว้

ทั้งยังกำหนดบาปไว้ในเรื่องของ"กิเลส" หรือ "นิวรณ์"ทั้ง 5  ได้แก่

1.กามฉันท์....ความพอใจรักใคร่

2.พยาบาท...โทษะปองร้ายผู้อื่น

3.ถีนมิทธะ...ความซึมเศร้าหดหู่

4.อุทธัจจกุกกุจจะ...ความฟุ้งซ่าน

5.วิจิกิจฉา...ความลังเลใจ

หากปล่อยให้สิ่งดังกล่าวเข้ามาครอบงำยำยีจิตใจเมื่อใด  เมื่อนั้นจะมีความรู้สึกเสมือนตกอยู่ในบาป ปราศจากความสุขใดๆ

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

และในการละเมิด"ศีล 5"ก็ถือว่าเป็นการกระทำบาป ซึ่งได้แก่...ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท และ สุราเมรัจ ซึ่งถือเป็นเรื่องของการทำบาปที่เรียกว่า"บาปเบา"
"บาปหนัก"เป็นไฉน? ซึ่งก็มีพุทธบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องของ"บาปหนัก"ไว้ดังนี้....กรรมที่เป็นบาปสุด หรือที่เรียกกันว่า"อนันตริยกรรม"นั้นได้แก่

1.มาตุฆาต...ฆ่ามารดา

2.ปิตุฆาต...ฆ่าบิดา

3.อรหันต์ฆาต...ฆ่าพระอรหันต์

4.โลหิตุปทบาท...ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป และ

5.สังฆเภท...ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

ในทาง"คริสต์ศาสนา"ก็ได้มีระบุไว้ว่า"บาป"คือความผิดที่มนุษย์ได้กระทำ อีกทั้งยังจะต้องได้รับโทษจากการกระทำนั้น หนัก-เบา เพียงใดขึ้นอยู่กับบาปนั้นๆ ซึ่งการกำหนด"บาป"อันที่ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษไว้ 7 ประการดังนี้

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

1.ราคะตัณหา (Lust)

2.อิจฉาริษยา (Envy)

3.บริโภคมิรู้จักพอ(Gluttony)

4.เกียจคร้านเฉื่อยชา (Sloth)

5.ความโลภ(Greed)

6.โทสะ (Anger)

7.ยะโสโอหัง(Pried)

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

ในทาง"ศาสนาอิสลาม" ก็เช่นกัน"บาป"ก็เป็นความผิดและโทษที่จะไดรับจากการกระทำเช่นกัน
โดย"บาป"แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1.บาปที่กระทำต่อมนุษย?

2.บาปที่กระทำต่อผู้สร้าง

และยังได้แบ่งออกเป็นแต่ละชะนิดของบาปอีกเป็น 3
อย่างคือ

1.บาปถึงขั้นปฎิเสธ

2.บาปใหญ่  

3.บาปเล็ก

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป

ในส่วนของ"บาปใหญ่"ยังได้ระบุห้ามการกระทำที่ถือว่าเป็นบาปไว้ถึง 70 อย่างคือ
1.การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ2.การสีงหารชีวิตผู้อื่น3.การทำเวทย์มนต์ ไสยาศาสตร์4.การละทิ้งละหมาด5.การไม่จ่ายซะกาด6.ละศีลอดในเดือนรอมฎอนโดยไม่มีอุปสรรค7.ละทิ้งการทำฮัจญฺทั้งที่มีความสามารถ8.การด่าทอบิดามารดา9.การตัดเครือญาติใกล้ชิด10.การละเมิดประเวณี11.การร่วมเพศทางทวารหนัก12.การกินดอกเบี้ย13.การกินทรัพย์สินและอธรรมต่อเด็กกรรมพร้า14.การโกหกต่ออัลลอฮฺและนบี15.หนีจากการทำศึกสงคราม16.ผู้นำที่คดโกงและอธรรมต่อผู้อยู่ภายใต้การดูแล17.การหยิ่งยะโสอวดดีทะนงตน18.การเป็นพยานเท็จ19.การดื่มสิ่งมึนเมา20.การเล่นการพนัน21.การใส่ร้ายหญิงสาวบริสุทธิ์ว่าละเมิดประเวณี22.ยัยอกทรัพย์เชลย23.การขโมย24.ปิดถนน(เพื่อปล้นสะดมภ์)25.การสาบานเท็จ26.การอธรรมต่อทรัพย์สินผู้อื่น27.การเรียกเก็บส่วย(ค่าคุ้มครองไม่เป็นธรรม)28.บริโภคของหะรอม29.การฆ่าตัวตาย30.พูดจาโกหกอยู่ตลอด31.การตัดสินคดีที่ไม่เป็นธรรม32.รับสินบนในการตัดสิน33.ประพฤติตัวเลียนแบบเพศตรงข้าม34.เจ็กตาบอด(จ้างชายแต่งหญิงที่อย่าสามีฯ)35.ไม่ระมัดระวังในการล้างปัสสาวะ36.การโอ้อวด37.การศึกษาหาความรู้เพื่อผลประโยชน์ฯ38.การบิดพลิ้ว39.การลำเลิกบุญคุณ40.การสอดรู้สอดเเห็น41.ปฏิเสธการกำหนดของอัลลอฮฺ42.การสาปแช่ง43.การละเมิด44.เชื่อหมอดูหมอเดา45.ดื้อดึงต่อสามี46.การจำลองรูปภาพ47.การตบตี ร้องโหยหวน ฉีกเสื้อผ้า โกนศรีษะในขณะมีภัยต่างๆ48.ข่มเหงเหยียดหยามความไม่เป็นธรรม49.การข่มเหงผู้อ่อนแอ ผู้ใต้บังคับบัญชา50.ทำอันตรายให้กับเพื่อนบ้าน51.ทำอันตรายด่าทอมุสลิม52.หมิ่นประมาทบ่าวของอัลลอฮฺ53.สวมใส่เสื้อผ้ายาวลากพื้น54.ชายที่สวมใส่ผ้าไหมและทองคำ55.บ่าวที่หลบหนีเจ้านาย56.เชือดสัตว์เพื่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ57.อ้างคนอื่นว่าเป็นพ่อ58ถกเถียงทะเลาะวิวาท59.ปิดกั้นแหล่งน้ำ60.การโกงตาชั่ง เครื่องตวงวัด61.คิดว่าปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮฺ62.คิดในแง่ร้ายต่อบริวารของอัลลอห์63.การละทิ้งละหมาดญัมาอะบีโดยไม่มีอุปสรรค64.ละทิ้งละมาดวันศุกร์โดยไม่มีอุปสรรค65.ทำพินัยกรรม์ที่ค้านกับอิสลาม66.การใช้เล่ห์เหลี่ยม67.เปิดโปงโครงการลับในกิจการของมุสลิม68.การด่าทอบรรดาเศาะฮาบะฮฺ69.การนินทา70.การร่วมกันทำความชั่ว

สำหรับ"โทษ"ในการกระทำบาป "หนักสุด"ในทุกศาสนาต้อง"ตกนรก" แต่ก็สามารถบรรเทาจากหนักเป็นเบาหรือสิ้นมลทินได้ด้วยการ"สารภาพบาป"(ล้างบาป)ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากกฏหมายบ้านเมือง"ฆ่าคนตาย"โทษหนักถึงประหารชีวิต! แต่ก็ยังสามารถบรรเทาได้ด้วยการ"สารภาพบาป"ได้เช่นกันเหลือเพียงแค่"ติดคุก"...แต่นั่นมันก็เสมือน"ตกนรก"เช่นกัน.

บาป !!! "พุทธ-คริสต์-อิสลาม"ล้วนเฉกเช่นกัน! ผู้กระทำต้องรับโทษ ...ข้อห้ามและการสารภาพบาป


ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย,ข้อมูลส่วนตัว,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)
จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย:พัชรพิศุทธิ์ โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์