น้อมรำลึก ๗ มกราคม ๒๕๖๑ คล้ายวันละสังขาร ปีที่ ๕ ขององค์ “หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน” พระอริยสงฆ์ผู้อยู่สงัดบนเทือกเขาสูงแห่งวัดดอยปุย

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://www.tnews.co.th

น้อมรำลึก ๗ มกราคม ๒๕๖๑ คล้ายวันละสังขาร ปีที่ ๕ ขององค์ “หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน” พระอริยสงฆ์ผู้อยู่สงัดบนเทือกเขาสูงแห่งวัดดอยปุย

วันนี้วันที่ ๗ มกราคมเป็นวันคล้ายวันมรณภาพรำลึกครบรอบ ๕ ปี ของหลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน พระอริยสงฆ์ผู้อยู่สงัดบนเทือกเขาสูงแห่งวัดดอยปุย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน
หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน นามเดิมชื่อ “เก่ง” สกุล “ภูมี” ถือกำเนิด ตรงกับวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๒ ณ บ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นบุตรของพ่อเพ็ง และ นางทัด ภูมี การศึกษา ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ ๔ และได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดป่าอรัญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๕ โดยมีหลวงปู่มหารักษ์ เรวโต วัดศรีเมือง จ.หนองคาย เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอยู่ศึกษาข้อวัตรจากสำนักแล้วก็เดินทางไปถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

น้อมรำลึก ๗ มกราคม ๒๕๖๑ คล้ายวันละสังขาร ปีที่ ๕ ขององค์ “หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน” พระอริยสงฆ์ผู้อยู่สงัดบนเทือกเขาสูงแห่งวัดดอยปุย
ขณะเป็นสามเณรได้ออกไปศึกษาพระปริยัติธรรมยังสำนักต่างๆ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรีที่วัดศรีเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย ในปีพ.ศ.๒๔๙๕ และสอบไล่ได้นักธรรมชั้นโทที่วัดพุทธนิมิต จ.นครสวรรค์ ในปีพ.ศ.๒๔๙๙ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา ณ วัดรัมภาราม อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๒ โดยมีหลวงปู่พิมพ์ ปัญญาทีโป เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “วิโรจโน” แปลว่า “ผู้สว่าง ผู้รุ่งเรือง ผู้แจ่มแจ้ง” จากนั้นเมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๙ ท่านสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกที่วัดรัมภาราม อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี แล้วได้ออกจาริกแสวงหาโมกขธรรมร่วมกับท่านพระอาจารย์มหาถวิล ธัมมรโส
หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน และเพื่อนสหธรรมิกของท่านคือ ท่านพระอาจารย์มหาถวิล ธัมมรโส ได้ออกเที่ยวธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรในเขตภาคใต้ ทางจ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ได้อยู่อบรมธรรมกับพระอาจารย์คำพอง (หลวงตาคำพอง ติสฺโส แห่งวัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี) ที่วัดโคกกลอยเป็นแรมเดือน ท่านพระอาจารย์คำพอง ได้เล่าถึงปฏิปทาของพ่อแม่ครูอาจารย์แต่ละรูปแต่ละองค์ให้ฟัง จนท่านเกิดความเลื่อมใสและมีกำลังใจในการทำความพากความเพียร ท่านทั้งสองจึงออกธุดงค์เดินทางต่อจุดหมายคือการขึ้นไปเที่ยววิเวกหาสถานที่ปฏิบัติธรรมและได้รับฟังธรรมคำสอนจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทางภาคเหนือ ท่านทั้งสองได้มาอยู่พำนักที่วัดสันติธรรม เข้าฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สิม พุทธาจาโร แล้วติดตามไปร่วมสร้างวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อนขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนดอยสุเทพ-ดอยปุย อยู่เป็นปี จึงได้ย้ายไปปฏิบัติธรรมอยู่ใกล้บ้านม้งดอยปุย ในเวลาต่อมา จนสามารถสร้างเป็นสำนักสงฆ์ได้ในช่วงปีพ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๑๑
 

น้อมรำลึก ๗ มกราคม ๒๕๖๑ คล้ายวันละสังขาร ปีที่ ๕ ขององค์ “หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน” พระอริยสงฆ์ผู้อยู่สงัดบนเทือกเขาสูงแห่งวัดดอยปุย
การมรณภาพ เช้าตรู่ของวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๖ พระเณรไม่เห็นหลวงปู่ ลงมาทำวัตรเช้า ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำของท่าน พอถึงเวลาบิณฑบาตองค์หลวงปู่ ก็ยังไม่ออกมา จนกระทั้งพระในวัดดอยปุยและญาติโยมซึ่งเป็นหลานชายของท่าน เกิดสงสัยว่าอาจเกิดอะไรขึ้นกับองค์ท่าน จึงได้ไปกราบเรียนที่กุฏิ เมื่อเรียกองค์ท่าน ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงปีนขึ้นดูที่หน้ากุฏิที่พักท่าน จึงพบว่า “หลวงปู่ไพโรจน์ได้มรณภาพลงเสียแล้วในอิริยาบถนั่งพับเพียบอย่างสง่างาม ภายในกุฏิเหนือหน้าผาบนดอยปุย” จึงนำความเศร้าสลดมาถึงศิษยานุศิษย์มากมาย ภายหลังแพทย์ได้วินิจฉัยว่า หลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน มรณภาพจากสาเหตุ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลาประมาณ ๒๒.๐๐น. สิริอายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา
“.. ความตายเป็นที่สุดของชีวิต ทุกคนไม่อยากตาย แต่ทุกคนจะต้องได้รับ ที่จริงความตายนี่ไม่น่ากลัวเลยนะ พระกรรมฐานกลัวการเกิดมากกว่าตาย ทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดล่ะนี่ สร้างบารมี สร้างปัญญาให้มากๆ จนสามารถตัดบุญตัดบาปออกจากจิต..” ธรรมคำสอนหลวงปู่ไพโรจน์ วิโรจโน
ที่มา FB : เพจท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน