ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.partiharn.com

สู้ด้วยใจจนดาบหัก!! ครบรอบ ๔๙ ปี "อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก" เชิดชูวีรกรรม รักชาติ กล้าหาญ สมกับเป็นทหารเอกคู่พระทัยแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสิน

 

          เนื่องในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ เป็นวันทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐานอยู่ที่หน้าศาลากลาง จ. อุตรดิตถ์ เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงความกล้าหาญของท่าน ที่ได้ต่อสู้กับโปสุพลา แม่ทัพพม่า จนดาบหักคามือ พระยาพิชัยดาบหัก นับเป็นวีรชนของชาติ ผู้ร่วมกู้เอกราชของชาติไทยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองและเป็นชาวอุตรดิตถ์ ดังนั้นจึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถาน รวมถึงการนำนามของท่านไปใช้ตั้งชื่อสถานที่ราชการสำคัญเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของท่านขึ้น

สู้ด้วยใจจนดาบหัก!! ครบรอบ ๔๙ ปี "อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก" เชิดชูวีรกรรม รักชาติ กล้าหาญ สมกับเป็นทหารเอกคู่พระทัยแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสิน

 

          อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอเมือง สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเกียรติในเรื่องความองอาจ กล้าหาญ รักชาติ และเสียสละของท่าน โดยอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก จัดสร้างขึ้นโดยชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เรียกร้องปรารถนาให้มีขึ้นนานแล้วแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาถึงสมัยนายเวทย์ นิจถาวร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มีพ่อค้า ประชาชน ร่วมกันบริจาคทรัพย์เป็นทุนก่อสร้าง โดยไม่มีงบประมาณแผ่นดินของทางหน่วยงานราชการมาเกี่ยวข้องเลย เป็นการเกิดจากกำลังศรัทธาของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีพิธีอัญเชิญโกศดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก (แทนอัฐิ) ตามโบราณประเพณี

 

สู้ด้วยใจจนดาบหัก!! ครบรอบ ๔๙ ปี "อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก" เชิดชูวีรกรรม รักชาติ กล้าหาญ สมกับเป็นทหารเอกคู่พระทัยแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสิน

 

          เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๑๐ มีพิธีวางแผ่นศิลาฤกษ์แท่นฐานอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๑ โดยมี นายถวิล สุนทรศารทูล ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธี สำหรับองค์พระยาพิชัยดาบหักนั้น ปั้นโดยกรมศิลปากร โดยมีอาจารย์สนั่น ศิลากร เป็นประติมากร และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จได้มีพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ ณ บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีนายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี

           ในระหว่างวันที่ ๗-๑๓ มกราคม ของทุกปี จะจัดงานเพื่อระลึกถึงวีรกรรมของท่าน ถือเป็นงานประจำปี เรียกชื่องานว่า "งานพระยาพิชัยดาบหักและงานกาชาด" และในบริเวณอนุสาวรีย์ยังมี "พิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก" มีน้ำหนัก ๕๕๗.๘ กิโลกรัม ฝักดาบทำด้วยไม้ประดู่ ฝังลวดลายมุกหุ้มปลอกเงินสลักสลาย และ "พิพิธภัณฑ์พระยาพิชัย" ที่ภายในเก็บรวบรวมประวัติของพระยาพิชัยดาบหัก รวมทั้งแบบจำลองสนามรบ และวิถีชีวิตผู้คนเมืองอุตรดิตถ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยโบราณ

สู้ด้วยใจจนดาบหัก!! ครบรอบ ๔๙ ปี "อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก" เชิดชูวีรกรรม รักชาติ กล้าหาญ สมกับเป็นทหารเอกคู่พระทัยแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสิน

 

           พระยาพิชัยดาบหัก ขุนนางในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในชั้นเชิงการต่อสู้ ทั้งมือเปล่าแบบมวยไทย และอาวุธแบบกระบี่ กระบอง เดิมชื่อ จ้อย เกิดที่บ้าน ห้วยคา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๘๔ ในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ศึกษาอยู่กับท่านพระครูวัดมหาธาตุหรือวัดใหญ่ เมืองพิชัย ภายหลัง จ้อยได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทองดี หรือ ทองดีฟันขาว มีความสามารถทั้งทางเชิงมวยและเชิงดาบ

           เข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นพระยาตาก ต่อมานายทองดีได้รับแต่งตั้งเป็นองค์รักษ์มีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงพิชัยอาสา" เมื่อรับราชการมีความดีความชอบจึงได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าหมื่นไวยวรนาถ พระยาสีหราชเดโช และพระยาพิชัย ผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย ซึ่งรับพระราชทานเครื่องยศเสมอเจ้าพระยาสุรสีห์ ตามลำดับ ภายหลังข้าศึกยกทัพมาตีเมืองพิชัย ๒ ครั้ง ในการรบครั้งที่ ๒ พระยาพิชัยถือดาบสองมือออกต่อสู้จนดาบหักไปข้างหนึ่ง และรักษาเมืองไว้ได้ ดังนั้นจึงไดัรับสมญานามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก"

          พระยาพิชัยดาบหักได้สร้างมรดกอันควรแก่การยกย่องสรรเสริญให้สืบทอดมาถึงปัจจุบันได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดกล้าหาญ รวมถึงความรักชาติ ต้องการให้ชาติเจริญรุ่งเรืองมั่นคงต่อไป

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/พระยาพิชัยดาบหัก

ขอบคุณภาพจาก : ARNON NOIKHAM