ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.partiharn.com

นิมิตอัศจรรย์!! \"หลวงปู่เครื่อง\" สู่ตำนาน \"หลวงพ่อนาคปรกศิลา\" แห่งวัดสระกำแพงใหญ่ อายุกว่าพันปี เผย..ขุดครั้งแรกถูกตัวนาค เห็นสะเก็ดคล้ายงู

 

          ที่วัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ มีพระพุทธรูปปางนาคปรก ชื่อว่า หลวงพ่อนาคปรกศิลา อายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เครื่อง สุภัทโท อดีตเจ้าอาวาส วัดสระกำแพงใหญ่ ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๔๙๑ เหตุเริ่มแรกที่ได้ พบหลวงพ่อนาคปรกองค์นี้ เนื่องด้วยในคืนวันหนึ่ง ได้ตั้งใจ สวดมนต์เจริญภาวนา ในระหว่างท้ายเดือน ๑๑ ต้องอธิฐานรำลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สิงสถิตอยู่ภายในบริเวณปราสาทหินกำแพงนั้น โดยสถานที่ค้นพบ คือ บ้านกำแพง หมู่ที่ ๑ ตำบลสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่บ้านกำแพง หมู่ที่ ๑ ตำบลสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

นิมิตอัศจรรย์!! \"หลวงปู่เครื่อง\" สู่ตำนาน \"หลวงพ่อนาคปรกศิลา\" แห่งวัดสระกำแพงใหญ่ อายุกว่าพันปี เผย..ขุดครั้งแรกถูกตัวนาค เห็นสะเก็ดคล้ายงู

 

           โดยหลวงปู่เครื่องเล่าว่า ครั้นเมื่อข้าพเจ้าได้พักผ่อน นอนหลับไปด้วย ตั้งสติอันมั่นคงแล้วก็เกิดนิมิตขึ้นที่ใจ ปรากฏเห็นหลวงพ่อนาคปรก ประดิษฐาน อยู่ภายในหน้าเจดีย์ปราสาทหลังกลางเปล่งปลั่งรัศมีเป็นแสงทองคำธรรมชาติส่องแสงรุ่งโรจน์ โชตนาการทั่วไป ตามบริเวณกำแพงข้าพเจ้าก็ได้สติขึ้นมา แล้วตั้งสติพิจารณาด้วยปัญญาว่า อ้อ อันนี้คงจะเป็นบุญลาภอันประเสริฐ ของเราแล้ว เมื่อแสงอรุณรุ่งขึ้นเราก็เตรียมเครื่องมือ พร้อมด้วย สามเณรน้อยองค์หนึ่งให้ถือจอบเล่มหนึ่ง นึกดีใจว่าคงจะเป็นพระทองคำธรรมชาติแน่นอน ซึ่งเราก็ไม่ได้พิจารณาระมัดระวังอะไร แล้วรีบขุด ลงไปเลยถูกที่จุดมุ่งหมายนิมิตนั้น ใช้กำลังขุดลงไปอย่างแรกแล้วขุดไปถูกตัวนาคก่อนเสียงดังลั่นผิดปกติ เมื่อข้าพเจ้าเอามือ จี้ลงไปดูก็ปรากฏ เห็นสะเก็ดลวดลายเหมือนตัวงู

 

นิมิตอัศจรรย์!! \"หลวงปู่เครื่อง\" สู่ตำนาน \"หลวงพ่อนาคปรกศิลา\" แห่งวัดสระกำแพงใหญ่ อายุกว่าพันปี เผย..ขุดครั้งแรกถูกตัวนาค เห็นสะเก็ดคล้ายงู

 

           ไม่นึกว่าจะเป็น พระพุทธรูปนาคปรก เพราะเกิดความสงสัยเสียจึงได้พยามยามขุดลงไปอีก จึงได้พบองค์หลวงพ่อนาคปรก กลายเป็นพระศิลาทรายอย่างละเอียดละออ ซึ่งเป็นองค์พระนาคปรกวัตถุโบราณของเก่าแก่ คงเป็นสมัยครั้งเมื่อ พระเจ้าภววรมันรัชกาลที่ ๒-๓ ของพวกพระเจ้าอีสานวรมันในราวปี พ.ศ. ๑๑๕๓ หรือในระหว่างสมัยพระเจ้าวรมันที่ พ.ศ. ๑๓๔๕ (หรือสมัยขอม) จึงได้พร้อมกันยกขึ้นมาจากมูลดินแล้วเอามาตั้งไว้ที่บริเวณภายในกำแพง ใคร่ ๆ ก็ไม่สนใจฝักใฝ่เท่าไรนัก เป็นแต่ข่าวลือกระตือรือร้นไป  บุคคลทั่วไปทุกทิศได้หลั่งไหลกันมาชมมาดู ทิ้งตากแดดตากฝนไว้ได้ ๓ เดือน

            ครั้นต่อมาวันหนึ่งมีเด็กนักเรียนคนหนึ่ง เอาชอล์กไปขีดเขียน ที่ด้านหลัง หลวงพ่อนาคปรกนั้น ส่วนเด็กนั้นเมื่อเวลากลับไปถึงบ้าน กลางคืนก็เกิดอุบัติเหตุเสียสติ  เป็นบ้าๆ พลั้ง ๆ เผลอ ๆ ละเมอไป มีวิปริตประการต่าง ๆ ร้องห่มร้องไห้ จึงพากันไปดูหมอหมอดูบอกว่าเด็ก เอาชอล์กไปขีดเขียนพระนาคปรก เพราะพระเดชาภาพหลวงพ่อ นาคปรกได้เข้าไปสิงกาย สิงจาของเด็กให้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ประชาชนได้เคารพสักการบูชา เมื่อบิดามารดาได้เอาดอกไม้ธูปเทียน มาขอขมาโทษ เด็กนั้นก็หายวันหายคืน ด้วยเหตุนั้นชาวพุทธทั้งหลาย ได้เห็นพระเดชพระคุณอภินิหารอิทธิฤทธิ์  เช่นนี้ ผลที่สุด ท่านนายอำเภอพวง ศรีบุญลือ จึงได้จัดการสั่งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทายกทายิกา ให้หามเอาหลวงพ่อนาคปรกไปไว้บนศาลาการเปรียญ

นิมิตอัศจรรย์!! \"หลวงปู่เครื่อง\" สู่ตำนาน \"หลวงพ่อนาคปรกศิลา\" แห่งวัดสระกำแพงใหญ่ อายุกว่าพันปี เผย..ขุดครั้งแรกถูกตัวนาค เห็นสะเก็ดคล้ายงู

 

             ความจริงเริ่มแรก ความเป็นมาของหลวงพ่อนาคปรกองค์นี้มีท่านนายอำเภอสิน ได้น้อมนำมาซึ่งดอกไม้ธูปเทียนสักการะบูชาแล้ว ตั้งใจอธิษฐานได้บนบานศาลกล่าวว่า ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงให้ข้าพเจ้าสอบได้ตำแหน่งนายอำเภอในครั้งนี้ ผลที่สุดท่านก็สอบตำแหน่งนายอำเภอได้ ท่านนายอำเภอพวง ศรีบุญลือ พร้อมด้วยคณะสงฆ์์และข้าราชการครู พ่อค้า ประชาชน จึงได้เริ่ม จัดทำบุญกุศล มีงานเทศกาลประจำปี ปิดทองเพื่อฉลองพระเดชพระคุณหลวงพ่อนาคปรกตลอดทุกปี ปัจจุบันหลวงปู่เครื่องและประชาชนมีความศรัทธาหวงแหน เกรงจะถูกโจรกรรม จึงได้จัดสร้างหอพระสูงสง่างามภายในบริเวณวัดสระกำแพงใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อนาคปรก พร้อมกำกับดูแลอย่างดี 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.m-culture.go.th (กระทรวงวัฒนธรรม)