- 27 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมีการกล่าวถึงสมเด็จพระเพทราชา ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในเรื่องบุพเพสันนิวาส นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยอีกด้วยทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง แต่ในละครไม่มีการกล่าวถึงพระราชโอรสของพระองค์ หลายคนไม่เคยทราบว่า พระองค์ทรงมีพระราชโอรส กับกรมหลวงโยธาทิพ หรือ มเหสีฝ่ายขวา ซึ่งเป็นพระขนิษฐาในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นั่นก็คือคือ เจ้าพระขวัญ ที่ภายหลังโดนหลวงสรศักดิ์ (กรมพระราชวังบวร) สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์
เจ้าพระขวัญเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเพทราชาที่ประสูติจากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงโยธาทิพ พระอัครมเหสีฝ่ายขวา เมื่อวันที่พระองค์ประสูติได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น พระบรมวงศานุวงศ์ถวายพระนามว่า เจ้าพระขวัญ เมื่อพระองค์ทรงเจริญพระพรรษามีผู้คนนับถือเป็นอันมาก อันเนื่องมาจากพระองค์เป็นพระราชภาติยะ ในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อพระชนมายุครบโสกันต์ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสให้ตั้งการพระราชพิธีโสกันต์ขึ้น ณ พระที่นั่งสรรเพชญ์มหาปราสาท
(พระเพทราชา)
ภายหลังพระราชพิธีโสกันต์ของเจ้าพระขวัญ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนัก ในครั้งนั้นสมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ (ภายหลัง คือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘) ทรงมีความเคลือบแคลงในเจ้าพระขวัญเป็นอันมาก อันเนื่องมาจากการที่เจ้าพระขวัญมีข้าไทยและผู้คนนับถือเป็นอันมาก นานไปอาจจะเป็นเป็นภัยต่อราชสมบัติของพระองค์ ด้วยเหตุนี้ สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ จึงสมคบกับพระราชโอรสทั้งสองของพระองค์ คือ เจ้าฟ้าเพชร (ภายหลัง คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) และเจ้าฟ้าพร (ภายหลัง คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ในการกำจัดเจ้าพระขวัญเสีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ศึกชิงราชบัลลังก์!! "เจ้าพระขวัญ" พระราชโอรสน้อย ถูก "หลวงสรศักดิ์" สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ เบื้องหลังความอำมหิต "สมเด็จพระเจ้าเสือ" !!
(หลวงสรศักดิ์ (กรมพระราชวังบวร) )
เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวใกล้เสด็จสวรรคต สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ และพระราชโอรสทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังพระราชวังหลวง พร้อมด้วยข้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นจำนานมาก โดยเสด็จเข้าประทับในพระตำหนักหนองหวาย หลังจากนั้น สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ มีพระบัญฑูรให้มหาดเล็กไปเชิญเสด็จเจ้าพระขวัญมาเข้าเฝ้า โดยมีพระราชประสงค์จะให้เจ้าพระขวัญทรงม้าเทศให้ทอดพระเนตร เจ้าพระขวัญกำลังเสวยผลอุลิตหวานค้างอยู่ เมื่อทราบว่ามีรับสั่งให้หาก็มิได้เสวยต่อไป และซีกซึ่งยังมิได้เสวยนั้นเอาใส่ไว้ในเครื่อง แล้วทูลลาสมเด็จมารดา เสด็จไปเฝ้ากรมพระราชวังบวร ณ พระตำหนักหนองหวาย เมื่อเจ้าพระขวัญไปถึง ก็มีพระบัณฑูรห้ามพระพี่เลี้ยงและข้าไททั้งปวงมิให้เสด็จเข้าไป และให้ปิดประตูกำแพงแก้ว แล้วให้จับเจ้าพระขวัญสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ ต่อจากนั้นให้เอาพระศพใส่ถุงแล้วใส่ลงในแม่ขัน ให้ข้าหลวงเอาไปฝังไว้ ณ วัดโคกพระยา พี่เลี้ยงและข้าไททั้งปวงจึงชวนกันร้องไห้ แล้วกลับไปทูลเจ้าฟ้ากรมหลวงโยธาทิพ
ด้านสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงโยธาทิพนั้น เมื่อพระราชโอรสเสด็จไปเฝ้าสมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ก็ทรงเข้าที่พระบรรทม เมื่อพระองค์ทรงเคลิ้มหลับลงก็ได้ยินเสียงเจ้าพระขวัญมาทูลขอพระราชทานผลอุลิตหวานที่เหลืออยู่มาเสวย ก็ตกพระทัยตื่นพระบรรมทม ในเวลานั้นพระพี่เลี้ยงในเจ้าพระขวัญและข้าไทยทั้งหลายก็ร้องไห้เข้ามากราบบังคมทูลเรื่องราวทั้งหมด กรมหลวงโยธาทิพทรงพระกันแสงและเสด็จขึ้นไปเฝ้าสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงพระประชวรหนักอยู่ แล้วทรงกราบบังคมทูลว่า ลูกข้าพระพุทธเจ้าหาความผิดมิได้ กรมพระราชวังบวรฯ ฆ่าลูกข้าพระพุทธเจ้าเสียโดยหาเหตุมิได้ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงทราบทรงพระพิโรธกรมพระราชวังบวรฯ เป็นอันมากแลตรัสว่าจะไม่ยกราชสมบัติให้แก่กรมพระราชวังบวรฯ แล้วทรงพระกรุณาตรัสเวนราชสมบัติให้เจ้าพระพิไชยสุรินทร พระราชนัดดา คืนนั้นสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าพระขวัญ