- 05 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
สืบเนื่องมากจากที่เหล่าโซเชียลได้เจอภาพมุมสูงของ สำนักสงฆ์บุญญพลัง ซึ่งมีลักษณะเหมือนรีสอร์ท เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ จนนำไปสู่การตรวจสอบซึ่งนำทีมโดย อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้ทั้งสิ้น 3 ประเด็น คือ 1.ครอบครองหรือแปรรูปไม้โดยไม่ได้ขออนุญาติ 2.ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และ 3.สร้างสิ่งปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการพุทธอุทยาน
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 61 ที่ผ่านมาทางเพจ "ธรรมกะ บุญญพลัง" ได้ออกมาแถลงการว่าหลุดไปแล้ว 1 คดี คือ ครอบครองหรือแปรรูปไม้โดยไม่ได้ขออนุญาติ ทั้งยังได้ตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งจาก อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
****" #หลักฐานพ้นข้อกล่าวหาเป็นที่สิ้นสุด #ว่าบุญญพลังไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาของอุทยาน "***
ข้าโดนบล๊อกเฟส ไม่ให้ดำเนินการไปหลายวัน
วันนี้มีโอกาศได้หลุดออกมาจาก #คอกและโซ่ตรวนแห่งความอยุติธรรม
เรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่กล่าวหา และแจ้งความอันเป็นที่มาแห่งการเพิกถอน
ลามไปถึงการแจ้งข้อหาว่าเราบุกรุก ก็เกิดเหตุมาจาก ผลคดีที่ยัดเยียดเราให้เป็นผู้ต้องหานี่แหละ
นี่เป็นหนังสือยืนยันว่าเรานั้น บริสุทธิ์ ไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา
บ้านเมืองนั้นมีกฏหมาย หากผู้ปฏิบัติไม่รักษากฏหมาย บ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟนั่นแหละ
ใบเพิกถอนที่เซ็นลงมา ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ขัดมาตรา 29 วรรค 2
ย่อมเป็นอันว่าโมฆะและไม่เป็นผล ที่จะมาเป็นองค์ประกอบเพื่อรุกรานเรา
ประกอบกับหลักฐาน ที่ทาง ตำรวจ อัยการ และภาค 7
ได้ตรวจสอบเห็นพ้อง มีคำสั่งไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา
เช่นนี้..เรายังจะมีอะไรผิดอีกไหม
เราไม่ได้สู้เรื่องพื้นที่ว่าเป็นของเราหรือของใคร
ถ้าสู้เรื่องพื้นที่จริง เราสู้ไปตั้งแต่สิบปีที่แล้วโน่น เพราะความไม่ชอบธรรม
ที่อุทยานบุกรุกลงมาครอบทั้ง อำเภอศรีสวัสดิ์ ด้วยการเบี่ยงแบนแผนที่
แต่เราสู้ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ที่เรานั้นโดนรังแกโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดนโจมตีอยู่แต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่มีโอกาศได้ชี้แจง
ตกเป็นจำเลยของสังคม ที่ไร้เสียงร้องบอกคนทั้วหลายให้ได้ยิน
เราแค่ขอคืนความเป็นธรรมสู่ผืนแผ่นดิน เราผิดหรือที่จะสู้..
โดยทางสำนักสงฆ์บุญญพลังได้ตั้งขอสังเกต 3 ประการด้วยกันคือ
1. ที่พักสงฆ์ฯไม่ได้กระทำผิดข้อตกลงตามเงื่อนไขใดๆ
2. การตรวจยึดพื้นที่ การความดำเนินคดีกับพระสงฆ์ในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ในระหว่างอุทธรณ์คำสั่งขอให้เพิกถอนฯ ต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ
3. อยากให้มีการเร่งรัดให้อธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้แจงความคืบหน้าการตรวจสอบภายหลังจากที่ตัวแทนที่พักสงฆ์ฯได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งโดยเร็ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าทางอัยการจะยกฟ้องคดีการครอบครองไม้แปรรูปไปแล้วนั้น แต่ยังเหลือคดีใหญ่อยู่อีก 2 คดีนั่นคือ การครอบครองสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และ การไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงของกรมอุทยานฯ จนนำไปสู่การเพิกถอนพื้นที่ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการขออุธรณ์
อ้างอิงข้อมูลจาก - ธรรมกะ บุญญพลัง