พ.ศ.2561 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

   เรื่องนี้เขียนโดย คุณวีระชัย จากเว็บบอร์ดพลังจิต http://board.palungjit.org (กระทู้ คำทำนายโบราณ เมื่อกึ่งพุทธกาล พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด (พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)) โดยคุณวีระชัย ได้เรียบเรียงชี้แจงไว้ว่า แท้จริงช่วงเวลากึ่งพุทธกาลคือปี 2560 ไม่ใช่ 2500 อย่างที่เข้าใจกัน เพราะเรานับพ.ศ.ผิดกันมาตลอด ! ปี พ.ศ. 2560 คือ กึ่งพุทธกาล ครบ 2,500 ปี หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน การใช้ พ.ศ. ของประเทศไทยคลาดเคลื่อน เรานับเร็วเกินไปถึง 60ปี ! โดยแบ่งเป็นประเด็น 3 ประเด็นดังนี้

            1). The Cambridge and Oxford histories of India ยอมรับว่า พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน 483 ปีก่อน คริสตศักราช

ปีนี้ 2016 + 483 = ปี 2499

พระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานไปแล้ว 2,499 ปี

พ.ศ. ของไทย ปัจจุบัน คือ พ.ศ. 2559 เท่ากับว่า พ.ศ.ไทยเรา เร็วไปกว่า 60 ปี

The Cambridge and Oxford histories of India accept 483 B.C as the date of Buddha’s nirvana.  He was 80 years old when he died, so this puts his birth year at 563 BCE

             2). ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร

                 บอกว่า การเรียก พ.ศ.ผิดนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตามชินกาลมาลีปกรณ์ ระบุว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์ ระหว่าง พ.ศ.214-255

                 ที่ทราบว่าผิดความจริง ก็เพราะพระองค์ส่งสมณะทูตไปตามเมืองต่างๆ (กระทั่งสุวรรณภูมิ) เมืองเหล่านี้มีศักราชจดไว้แน่นอน เทียบศักราชดูแล้ว พบว่า นับ พ.ศ.มากเกินไป 1 รอบ คือ 60 ปี

จากคอลัมน์ "คัมภีร์จากแผ่นดิน"

                   หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่ 57 ฉบับที่ 17638 วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม 2549  ว่าด้วยเรื่อง พ.ศ.ผิด 60 ปี ตามเนื้อความว่าดังนี้

               "การนับพุทธศักราช...เริ่มนับกันตั้งแต่ปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน แต่กระนั้น ตัวเลขพุทธศักราช...ของบางประเทศ ก็ไม่ตรงกัน เหตุเพราะมีคติการนับที่ไม่เหมือนกัน

               ตัวอย่างใกล้ตัว...ประเทศลังกา และพม่า ใช้หลัก เลข 544 บวกกับเลข ค.ศ. เป็นพุทธศักราช แต่ประเทศไทย...ใช้หลัก เลข 543 บวกกับเลข ค.ศ. เป็นพุทธศักราช  เพราะฉะนั้น พ.ศ.ของลังกา และพม่า จึงเร็วกว่าของไทยอยู่หนึ่งปี ก็เป็นอันว่า เมื่อไทยนับว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 2499 ปี ลังกา พม่า ก็จะเป็น 2500 ปี เหตุที่เป็นเช่นนี้ ศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร อธิบายไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ เบ็ดเตล็ด ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ สำนักพิมพ์มติชน...ว่าเพราะพวกหนึ่ง นิยมนับปีย่าง...อีกพวกนับปีเต็ม

    ตัวอย่าง นาย ค. อายุ 29 ปี 3 เดือน พวกที่นับเต็ม ก็จะนับว่า อายุ 29 ปีเต็ม พวกที่นับปีย่าง ก็จะนับว่า อายุ 30 ปีย่างเพราะความนิยมนับต่างกันแบบนี้ อาจารย์ประเสริฐ ท่านพบว่า ตัวเลข พระพุทธศักราช จึงเกินความจริงไป 1 รอบ หรือหกสิบปี

                    อาจารย์สันนิษฐานว่า อินเดียไม่ได้ใช้ พ.ศ.ติดต่อกันมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ใช้การนับเป็นรอบ รอบละ 60 ปีเรื่อยมา จนมาเริ่มใช้ พ.ศ. ก็จะคำนวณกันว่า พระ พุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วกี่รอบ และเศษอีกกี่ปี แต่เพราะวิธีนับรอบ ต่างกันเป็นสองพวก พวกหนึ่งนับรอบแบบอดีตล่วงไปแล้ว เช่น พ.ศ.80 ก็เรียกว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 1 รอบ กับ 20 ปี แต่อีกพวก นับรอบใหม่ที่ย่างเข้า...เช่น พ.ศ.80 ก็ถือว่าเป็นปีที่ 20 ในรอบที่สอง เมื่อพวกหนึ่ง...ได้ยินว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว รอบที่สอง ปีที่ 20 ก็เข้าใจว่า ล่วงไปแล้วสองรอบ กับอีก 20 ปี จึงเรียกว่า พ.ศ.140 ผิดความจริงไปรอบหนึ่ง ศาสตราจารย์ประเสริฐ บอกว่า การเรียก พ.ศ.ผิดนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตามชินกาลมาลีปกรณ์ ระบุว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์ ระหว่าง พ.ศ.214-255 ที่ทราบว่าผิดความจริง ก็เพราะพระองค์ส่งสมณะทูตไปตามเมืองต่างๆ (กระทั่งสุวรรณภูมิ) เมืองเหล่านี้มีศักราชจดไว้แน่นอน เทียบศักราชดูแล้ว พบว่า นับ พ.ศ.มากเกินไป 1 รอบ คือ 60 ปี แต่จะเปลี่ยนแก้ว่าปีนี้ สมมติ พ.ศ. 2539 ควรจะเปลี่ยนเป็น พ.ศ.2479 ก็ทำไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ที่จดไว้เมื่อ 60 ที่แล้ว ก็จดว่า พ.ศ.2479 ไปแล้วครั้งหนึ่ง."

                  3). ถ้า พ.ศ. ของไทยคลาดเคลื่อนตามเหตุผลข้างต้น

ปี พ.ศ. 2559 เท่ากับ 2,499 ปี อีก 1 ปี ก็ครบ 2,500 ปี
ดังนั้นปี พ.ศ. 2560 ครบ 2, 500 ปี ที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน เป็นยุคกึ่งพุทธกาลของ 5,000 ปี

โดยเมื่อถึงพุทธกาลนั้น พุทธศาสนาได้รับการทำนายดังนี้ ...

 

คำทำนายโบราณ

กึ่งพุทธกาล พุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด

            ได้คัดลองบางส่วนมากจาก  หนังสือ ทิพยอำนาจ โดย พระอริยคุณาธาร (ปุสโส เส็ง , ปธ. 6) วัดป่าเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

พ.ศ.2561 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!! พ.ศ.2561 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!!

                 ในบทที่ ๑๐ วิธีสร้างทิพยอำนาจ ทิพพจักขุ ตาทิพย์ ได้กล่าวถึง ทิพพจักขุ การเห็นอนาคต เช่น ทิพพจักขุญาณของ พระมหาโมคคัลลีบุตรติสสเถระ และคำทำนายโบราณอนาคตของพุทธศาสนา ได้คัดลอกบางส่วน มาด้านล่าง

 

              คำทำนายโบราณชิ้นหนึ่งได้เป็นที่ตื่นเต้นสนใจกัน เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมานี้มีว่า เมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง ๕,๐๐๐ ปีนับแต่พุทธปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล

             พระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภิสมภาร มีอิทธาภินิ-หาร เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ จะได้เป็นประธานาธิบดีสงฆ์ ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ เริ่มต้นที่อินเดีย ไปยุโรปและอเมริกา

            ประชาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนามากมาย คนทั้งหลายจะนิยมในการฝึกฝนอบรมจิตใจในทางพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนาดังนี้

             บัดนี้ก็จวนจะถึงสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาแล้ว เงาเจริญแห่งพระพุทธศาสนาเริ่มปรากฏแล้ว ชาวอัศดงคตประเทศกำลังหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น แต่ใครเป็นตัวการตามทำนายนั้น ยังมิได้เป็นที่ปรากฏแก่วงการพระพุทธศาสนา ขอให้คอยดูต่อไปว่าจะจริงเท็จแค่ไหน  ถ้าคำทำนายเป็นจริงขึ้นก็แปลว่า ชาวพุทธผู้ให้คำทำนายไว้นั้นมีทิพพจักขุวิเศษที่สุดได้แน่ๆ ทีเดียว และตัวการในคำทำนายนั้น จะเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของโลกสมัยใหม่ด้วย.

(คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)

              เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) เมื่อไปสร้างวัดเขาพระงาม ที่จังหวัดลพบุรี สร้างพระพุทธรูปไว้บนไหล่เขา ให้นามพระว่ากึ่งยุค คือ ท่านคิดว่าในสมัยกึ่งพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายกับสมัยพุทธกาล

พ.ศ.2561 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!!

    ท่านพิจารณาดูชีวิตของท่านจะไม่ได้อยู่เห็นสมัยนั้น แต่คิดอยากทำอะไรไว้เป็นที่ระลึกสำหรับกึ่งยุคบ้าง จึงคิดคำนวณนับแต่วันตรัสรู้มาจนถึงเวลาที่ท่านสร้างพระพุทธรูปใหญ่นั้นครบ ๒,๕๐๐ ปีพอดี จึงได้จัดการฉลองและขนานพระนามพระพุทธรูปนั้นว่า พระกึ่งยุค ในคราวมีงานฉลองวัดและพระพุทธรูปใหญ่นั้น มีผู้ต่อว่าท่านว่า มาสร้างวัดไว้ในป่าในดงใหญ่โต ต่อไปจะมีใครมาดูแลรักษา ทำเสียเงินเสียทองไปเปล่าๆ

              ท่านจึงกล่าวตอบเป็นคำทำนายว่า ต่อไปไม่นานสถานที่นี้จะมีบ้านเมืองคนอยู่เต็ม มีไฟฟ้าใช้สว่างไสวทั่วไปแม้กระทั่งในวัดนี้ ดังนี้ บัดนี้เหตุการณ์ก็เป็นจริงดังที่ท่านทำนายไว้ทุกประการ

(คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)

             มีคำทำนายว่าสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาจะมีขึ้นถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพานถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภินิหารในสุวรรณภูมิจะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก

โลกจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้

พ.ศ.2561 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!!

            ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น) ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่า เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป.

ที่มา หนังสืออำนาจทิพย์

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://board.palungjit.org