- 09 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
“ตำนานพญามุสิก”
ยุโรปในอดีตนั้นมักจะมีเรื่องราวที่บันทึกไว้ เกี่ยวกับการพบเจอสิ่งแปลกประหลาดไว้เยอะแยะมากมาย “พญามุสิก” ก็เป็นเรื่องนึงที่ได้ถูกบันทึกไว้ และยังไม่มีผู้ใดหาคำตอบได้เช่่นกันว่าทำไม การที่อยู่ดีๆ เหล่าหนูที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือน และท่อระบายน้ำถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้
พญามุสิก (Rat King) คือปรากฏการณ์ ที่กลุ่มหนูขนาดใกล้เคียงกัน ทุกตัวเป็นหนูสีดำ ที่มีจำนวนตั้งแต่ ๔ ตัวขึ้นไปมีอาการผิดปกติ คือหางมัดรวมกระจุกกันเป็นก้อนเหมือนกับว่า มีคนไปมัดพวกมันไว้ให้ติดกัน โดยที่หนูเหล่านี้ยังมีชีวิต
มีการค้นพบบันทึกที่กล่าวถึงเรื่องว่า เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ ๑๕๖๒ โดยจำนวนหนูที่หางถูกมัดรวมกันนั้น มากที่สุดคือ ๒๔ ตัว หลังจากเหตุการณ์พญามุสิกเกิดขึ้นไม่นาน ยุโรปก็ถูกภัยจากโรคระบาดเกิดขึ้น “กาฬโรค” โรคร้ายที่สามารถคร่าชีวิตคนในยุโรปไปมากกว่า ๒๐ ล้านคน ทุกๆครั้งที่มีคนพบเจอพญามุสิก เหตุการณ์เหล่านี้ ก็จะเกิดขึ้นมาภายหลังไม่นานจนมีความเชื่อกันว่า นี่คือสัญญาเตือนของอาเพศ
เหตุการณ์ที่มีคนเจอพญามุสิกเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงระหว่างปี ๑๕๖๒ – ๑๙๖๓ มีผู้บันทึกไว้ว่า เกิดเป็นจำนวน ๕๗ ครั้งและมักจะพบได้ในประเทศเยอรมันซะเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อวิทยาศาสตร์ได้ก้าวหน้าจึงมีการนำซาก ของพญามุสิกมาลองเอกซ์เรย์ดู โดยพบว่า ส่วนหางที่กระจุกกันเป็นก้อนนั้น มีการหักของกระดูกที่เกิดจากการดึงกันไปกันมา และยังพบด้วยว่าพวกมันอยู่ในสภาพนี้ก่อนจะตายไม่ต่ำกว่า ๑ เดือน และก็เคยมีนักวิทยาศาตร์ได้ลองไขคำตอบ โดยการนำหนูตะเภาที่ใช้ในห้องทดลองมาลองมัดหางเข้าด้วยกัน ผลปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ ทำได้แค่เพียงการพันหาง เหมือนกับที่เราจับเส้นผมแล้วปั่นขึ้นแค่นั้นเอง
มีคนสัณนิษฐานถึงเรื่องนี้ไว้ว่า สาเหตุที่พบพญามุสิแล้วมักจะมีเรื่องร้ายๆตามมา อย่างโรคระบาดนั้นอาจจะเป็นเพราะว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนว่า เริ่มเกิดความสกปรกมากขึ้นจนหนูแพร่พันธุ์ ถึงขนาดหางพันกันได้ขนาดนี้ ทฤษฎีนี้ก็ถือว่าฟังแล้ว ดูสมเหตุสมผล แต่เรื่องหนึ่งที่ยังไม่มีใครตอบได้ก็คือ “ทำไมหางของพวกมันถึงได้พันกัน”
ไม่เพียงแต่หนูเท่านั้น ในปี ๒๐๑๓ ที่แคนาดา ได้มีการพบกระรอกจำนวน ๕ ตัวที่มีสภาพเช่นเดียวกับพญามุสิก และในปีเดียวกันนั้นเองได้เกิดเหตุกราดยิงในรัฐภา ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุ บังเอิญหรือเป็นสัญญาณเตือนอะไร ในการพบเหตุการณ์สัตว์หางพันกันเช่นนี้ และทุกอย่างก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป จน ทุกวันนี้