- 16 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 15 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา พระอาจารย์อารยวังโส ได้รับนิมนต์จาก องค์กรพุทธศาสนา นานาชาติ เพื่อร่วมประชุมด้านพระวินัย ที่นครเดลี ประเทศอินเดีย โดยมี พระสังฆราช องค์ดาไลลามะ และ ผู้นำศาสนา ผู้นำจิตวิญญาณทางศาสนาจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุม โดยพระอาจารย์อารยวังโสมได้รับนิมนต์เข้าร่วมประชุมในฐานะ ผู้นำจิตวิญญาณทางพุทธศาสนาจาก ประเทศ ที่เป็นที่ยอมรับในฐานะ กูรูจี ของชาวอินเดีย ว่า เป็นผู้เคร่งครัดในพระวินัยอย่างยิ่ง เพื่อการถวายบูชาพระพุทธองค์
สาเหตุที่ชาวพุทธในอินเดียยกย่องพระอาจารย์อารยวังโสมากมายถึงเพียงนี้ต้องย้อนความกลับไปว่า หลังจากที่พุทธศาสนาเสื่อมและสูญหายไปจากอินเดียจนเหลือแต่เศษซากนั้น ก็มีความพยายามของชาวพุทธในประเทศต่าง ๆ ที่จะกลับเข้าไปในอินเดียเพื่อศึกษาและรื้อฟื้นพุทธศาสนาขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั่งเมื่อมีการค้นพบพุทธสถานและหลักฐานวัตถุต่าง ๆ ในเวลาต่อมา ก็ยิ่งทำให้ชาวพุทธในอินเดียเกิดความกระตือรือร้นที่จะฟื้นฟูพุทธศาสนาให้กลับมาสู่อินเดียอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ดังเช่น ดร.อัมเพทการ์ ที่ชักชวนชาวอินเดียมานับถือศาสนาพุทธ จากที่แทบจะไม่มีเลยจนเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นแสนเป็นล้านและหลายสิบล้านในปัจจุบัน
สำหรับการฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดียในส่วนที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับไทยนั้น ในปัจจุบันนอกจากจะมีการส่งพระไทยไปอินเดียเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนพุทธศาสนาแล้วก็ยังมีการสร้างวัดไทยขึ้นมาหลายแห่งในอินเดีย เช่น วัดไทยพุทธคยา เพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาและรองรับการไปแสวงบุญของชาวพุทธไทยที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี แต่ถึงกระนั้น ภาพการฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดียจากประเทศไทยก็ยังไม่หยั่งรากลึกลงไปในความรู้สึกของชาวอินเดียเท่าใดนัก
มีเรื่องเล่ากันว่า ชาวพุทธในอินเดียซึ่งเรียกตนเองว่า “ชาวพุทธใหม่” มีความศรัทธาและยึดมั่นในคำสอนของ ดร.เอมเบดการ์ และพากันเฝ้ารอ “พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ” ที่จะมาช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดียตามคำพยากรณ์ของ ดร.อัมเพทการ์
จนกระทั่งเมื่อพระอาจารย์อารยวังโสมีความประสงค์จะนำพุทธศาสนากลับไปสู่ดินแดนพุทธภูมิ ท่านจึงได้เดินทางไปจำพรรษาในอินเดียอยู่หลายครั้งเพื่อการนี้ ซึ่งการไปของท่านในแต่ละครั้งก็ได้กลายเป็นข่าวที่ตื่นเต้นและน่ายินดีสำหรับชาวพุทธในอินเดียเป็นอย่างยิ่ง
ปฏิปทาของพระอาจารย์อารยวังโสนั้น ท่านจะออกบิณฑบาตและฉันในบาตรเพียงมื้อเดียว ไม่แตะต้องอาหารนอกมื้อโดยเด็ดขาด ยกเว้นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาต เช่น สมอ มะขามป้อม น้ำตาล น้ำผึ้ง เนยข้น เนยเหลว เวลาท่านอาพาธก็จะไม่ยอมให้ผู้หญิงแตะต้องตัว ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาล และจำเป็นที่จะต้องมีลูกศิษย์คอยดูแล เพราะท่านไม่ถือเงินทอง ไม่สะสมเงินทอง แม้จะมีผู้ถวายเงินให้สำหรับใช้ส่วนตัว ท่านก็จะให้ลูกศิษย์จัดการดูแล หรือไม่ก็ตั้งเป็นกองทุนเพื่อเผยแผ่และทำกิจต่าง ๆ ในพุทธศาสนา
วันหนึ่งเมื่อชาวอินเดียได้มาพบพระอาจารย์อารยวังโสที่กำลังภาวนาอย่างเข้มข้นอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตลอดวันอันร้อนจัด จีวรเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ พวกเขาก็กระจายข่าวให้ผู้นำชุมชนชาวพุทธในเมืองต่าง ๆ ได้รับทราบ และพากันขอเข้ากราบนมัสการพระอาจารย์
ในครั้งนั้น ดร.วิโนด รังการี แกนนำชาวพุทธเมืองนาคปุระแห่งรัฐมหาราษฎร์ ได้กราบเรียนท่านว่า
“พวกเราเชื่อว่า กูรูยีคือผู้ที่จะสามารถหว่านเมล็ดพืชแห่งพุทธศาสนาลงบนแผ่นดินประเทศอินเดีย จึงขอนิมนต์ให้กูรูยีช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดีย หากมีสิ่งใดที่กูรูยีเห็นสมควร โปรดบัญชามา ... พวกเราจะทำตามทุกประการ”
และนี่คือประตูด่านแรกที่เปิดสู่เส้นทางการทำงานเพื่อพุทธศาสนาของพระอาจารย์อารยะวังโส โดยเริ่มจากการแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดตั้งองค์กรฟื้นฟูพุทธศาสนาในชมพูทวีป (BUDOJ) บริหารโดยชาวพุทธอินเดีย ซึ่งได้ดำเนินการจัดตั้งขึ้นในเมืองต่าง ๆ แล้ว ทั้งนี้ พระอาจารย์อารยะวังโสมีเจตนาจะให้องค์กรดังกล่าวเป็นตัวประสานและดำเนินการฟื้นฟูพุทธศาสนาร่วมกับองค์กรพุทธศาสนาต่าง ๆ ทั่วโลก จวบจนทุกวันนี้
เช้านี้ พระอาจารย์อารยวังโส ได้มาพักบนเขาขุนน้ำคีรีวง เดินลงจากภูเขาลงมาบิณฑบาตในยามเช้า ชาวบ้านรอใส่บาตรด้วยความศรัทธา...
..
..