- 02 ธ.ค. 2568
เชื้อดื้อยากลายเป็นภัยเงียบที่อันตรายกว่าที่เคยคิด เมื่อข้อมูลเผยว่ามีผู้เสียชีวิตในไทยกว่า 38,000 รายต่อปี มากกว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างน่าตกใจ
สถานการณ์ เชื้อดื้อยาในประเทศไทย กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังผลการประเมินล่าสุดเผยตัวเลข ผู้เสียชีวิตมากกว่า 38,000 รายต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนถึงหลายเท่า สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตประจำวันของประชาชนแทบทุกกลุ่ม
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเพิ่มขึ้นของเชื้อดื้อยาเกิดจากหลายปัจจัย แต่ พฤติกรรมใช้ยาปฏิชีวนะผิดวิธี เป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
- การใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อไม่จำเป็น เช่น กินยาฆ่าเชื้อเวลาเป็นหวัด
- การหยุดยาทันทีที่อาการดีขึ้น ทำให้เชื้อไม่ถูกกำจัดหมด
- การซื้อยามาทานเองจากร้านขายยาที่ไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง
- การใช้ยาที่แรงเกินจำเป็น ซึ่งเร่งให้เชื้อพัฒนาเกราะป้องกันเร็วขึ้น
ปัญหานี้ยิ่งทำให้การรักษาโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลซับซ้อนมากขึ้น เพราะการใช้ยาปฏิชีวนะที่เคยได้ผลในอดีตเริ่มไม่สามารถจัดการเชื้อบางชนิดได้อีกต่อไป ทำให้ต้องใช้ยาเฉพาะทางที่ราคาแพงขึ้น เสี่ยงสูงขึ้น และมีผลข้างเคียงรุนแรงกว่าเดิม
ภาครัฐกำลังเดินหน้าแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยการจัดการเชื้อดื้อยา พ.ศ. 2566–2570 โดยเน้นให้ความรู้ประชาชน ควบคุมการขายยา และสนับสนุนโรงพยาบาลให้บริหารจัดการการใช้ยาอย่างเหมาะสม (Antimicrobial Stewardship Program: ASP)
วงการแพทย์ย้ำว่า การลดปัญหาเชื้อดื้อยาทำได้จริง หากทุกคนเริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ เช่น
- ใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำเท่านั้น
- ไม่แบ่งยาให้ผู้อื่น
- ไม่ซื้อยาฆ่าเชื้อกินเอง
- ป้องกันการติดเชื้อ เช่น ล้างมือ ฉีดวัคซีน
ปัญหาเชื้อดื้อยาอาจเป็นภัยเงียบ แต่ส่งผลกระทบรุนแรงถึงชีวิต หากไม่หยุดตั้งแต่ตอนนี้ ประเทศไทยอาจเข้าสู่ยุคที่ “โรคติดเชื้อรักษาไม่หาย” ซึ่งจะกระทบทั้งระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจในระยะยาว
แหล่งที่มาอ้างอิง
ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์เชื้อดื้อยาระดับประเทศ (National AMR Report)
แผนยุทธศาสตร์การจัดการเชื้อดื้อยา พ.ศ. 2566–2570
ศูนย์ประสานงานการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย






