รู้หรือไม่? พฤติกรรมระหว่างวัน ตัวการทำท้องป่องโดยไม่รู้ตัว

ผู้เชี่ยวชาญเตือน ท้องป่องทั้งที่ไม่ได้อ้วน อาจไม่ได้มาจากไขมัน แต่เกิดจากพฤติกรรมระหว่างวันที่หลายคนทำซ้ำโดยไม่รู้ตัว

อาการ ท้องป่องระหว่างวัน เป็นเรื่องที่หลายคนเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงบ่าย แม้บางคนจะไม่ได้กินอาหารในปริมาณมากหรือไม่ได้มีภาวะน้ำหนักเกิน แต่อาการดังกล่าวก็สามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการทำงานของระบบย่อยอาหาร

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า หนึ่งในสาเหตุหลักคือ การรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะมื้อกลางวันในวันที่ต้องแข่งกับเวลา การกินเร็วทำให้ร่างกายกลืนอากาศเข้าไปพร้อมอาหาร ส่งผลให้เกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้ ทำให้รู้สึกแน่นท้องและท้องดูป่องมากขึ้น

อีกปัจจัยที่พบได้บ่อยคือ การดื่มเครื่องดื่มอัดลมหรือโซดา ซึ่งมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในระบบทางเดินอาหาร เมื่อรวมกับการย่อยอาหารในช่วงกลางวัน จะยิ่งเพิ่มแรงดันในช่องท้องและทำให้เกิดอาการท้องอืด

รู้หรือไม่? 5 พฤติกรรมระหว่างวัน ตัวการทำท้องป่องโดยไม่รู้ตัว
 

นอกจากนี้ พฤติกรรมการทำงานแบบนั่งต่อเนื่องหลังรับประทานอาหาร ก็มีส่วนทำให้อาการท้องป่องรุนแรงขึ้น การขาดการเคลื่อนไหวทำให้แก๊สจากการย่อยไม่ถูกระบายออกตามธรรมชาติ และเกิดการคั่งค้างในลำไส้

ด้านสุขภาพจิตก็มีผลเช่นกัน ความเครียดสะสมจากการทำงาน ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร และยังเอื้อต่อการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องในระยะยาว

สุดท้ายคือ การได้รับใยอาหารไม่เพียงพอ เมื่อร่างกายขาดผัก ผลไม้ และธัญพืชที่มีกากใย จะทำให้การขับถ่ายไม่สม่ำเสมอ เกิดอาการท้องผูก และทำให้แก๊สสะสมในช่องท้องมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การปรับพฤติกรรมเล็กน้อย เช่น กินอาหารให้ช้าลง ลดน้ำอัดลม ลุกเดินหลังมื้ออาหาร เพิ่มใยอาหาร และจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม จะช่วยลดอาการท้องป่อง และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รู้หรือไม่? 5 พฤติกรรมระหว่างวัน ตัวการทำท้องป่องโดยไม่รู้ตัว


แหล่งที่มาอ้างอิง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย