ระทึก! เก๋งพุ่งชนกระบะบนทางด่วน ก่อนเปลวไฟลุกท่วม โชคดีตร.ทุบกระจกช่วยคนเจ็บได้ทัน

ในปัจจุบัน การขับรถบนถนน ต้องระมัดวังกันเป็นอย่างมาก เพราะว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นให้เห็นได้บ่อย หรืออาจจะเกิดขึ้นทุกวันเลยก็ว่าได้  เนื่องจากเดี๊ยวนี้ รถบนท้องถนนใช้ความเร็วเกินกำหนด ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและยังไม่เคารพ กฎจราจรอีกด้วย  หลายอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการขับรถแข่งกัน ใช้ความเร็วเกิน หรือแม้แต่เกิดจากความไม่พอใจในการขับรถของผู้อื่น จนทำให้ผู้ขับขี่อารมณ์ร้อนจนทำให้ขับรถเร็วปาดกันไปกันมา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และก่อให้เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน
 

 

 

 

 

ล่าสุด ตำรวจ สน.ทางด่วน รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ มีรถกระบะชนกับรถเก๋ง (เก๋ง นิสสัน เทียน่า สีดำ ฆน-xxxx กทม. ชนกับรถปิคอัพ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน ฒภ-xxxx กทม.) บนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี  ขาออกช่วงโค้งสายใต้เก่า บริเวณทางลงตลิ่งชัน ภายหลังทราบ ว่าบุคคลที่ติดอยู่ในรถนั้นเป็น อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บาดเจ็บสาหัสติดในรถขณะเกิดอุบัติเหตุ รองสารวัตรทางหลวงนครปฐมขับรถผ่าน จอดลงทุบกระจกช่วยเหลือ ก่อนเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน อุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ได้ประสานรถน้ำกู้ภัยมาทำการดับเพลิงในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บ ในเบื้องต้น รถพยายาบาลได้มารับ ผู้บาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ในระหว่างเกิดเหตุ ร้อยตำรวจเอก ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ รองสารวัตรสายตรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมรถวิทยุ 2125 กำลังเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นำขบวนเสด็จพระราชดำเนินฯ (สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ที่วังสระปทุม) พบอุบัติเหตุดังกล่าวและเห็นว่ามีคนติดในรถ จึงลงไปช่วยทุบกระจกเอาผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากรถได้ ทั้งเครื่องแบบรับเสด็จฯ โดยไม่สนใจว่าเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บเปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้าหรือไม่ จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยมาก อยากให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวังมีสติในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 

 

 

 

(ร้อยตำรวจเอก ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์)

 

 

นอกจากนี้ ร้อยตำรวจเอก ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ ได้กล่าวว่า "ผมกับลูกน้องผ่านมา พบไฟกำลังไหม้  รีบจอดรถปีนแบริเออร์มาถึงคนเจ็บออก ภารกิจที่กำลังจะไปทำก็สำคัญมาก แต่การช่วยชีวิตคนก็สำคัญ"

 

 

 

(ภาพจาก จส. 100)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณ JS100 Radio