ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่!!สุดยอดคาถาเมตตามหานิยม"หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน"ปกป้องคุ้มภัยค้าขายร่ำรวย เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง!!

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ให้ตั้ง นะโมฯ 3 จบ แล้วสำรวมจิตกล่าวคาถา

 

สิทธิพุทธัง กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลีติ
สิทธิธัมมัง จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลีติ
สิทธิสังฆัง จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลีติ
ฉิมพลี มหาลาภัง ภะวันตุเม

 

 

วันนมัสการหลวงพ่อเงิน วันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ พร้อมด้วยดอกบัวหรือดอกมะลิ 9 ดอก หมาก 3 คำ จัดใส่พาน และธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีพุทธคุณของหลวงพ่อเงินคุ้มครอง ป้องกันภัยจากโจรผู้ร้าย ตลอดจนค้าขายของดีเลิศมีเมตตามหานิยม พุทธคุณของหลวงพ่อเงินเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะวัตถุมงคล อาทิเช่น รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อเงินพิมพ์นิยมและพิมพ์ขี้ตา ไข่ปลาหน้าจอบ หน้าจอบเล็ก ตะกรุด และความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมนต์ เป็นต้น ยังมีความอภินิหารอีกมากสุดที่จะนำมากล่าวนี้

คาถาหลวงพ่อเงิน สำหรับคงกระพัน ว่าดังนี้
 

พระพุทธัง พระเจ้าคงหนัง
พระธัมมัง พระเจ้าคงเนื้อ
พระสังฆัง พระเจ้าคงกระดูก
โอม เพชรคงคา ตรีคงสวาหะ

 

คาถาขอ อโหสิกรรม (ดีมาก)

 

"พุทโธ กัมมัฏฐาโม กรรมมะจุติสัมพุทโธ (กรรมใดๆๆก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกันด้วยอานุภาพพระสัมพุทโธ)  เป็นคาถาที่หลวงพ่อ เงินบางคลานท่านได้เจริญภาวนาทุกวันก่อนบิณฑบาตว่ากันว่าเป็นการแผ่เมตตาไป ยังสัตว์โลกด้วยเพราะปรากฏว่าการเจริญพระคาถานี้ทำให้จระเข้ตัวนึงที่ชื่อ ไอ้สีเลิกอาละวาดทำร้ายคนเดินเรือในแม่น้ำน่านเพราะว่าหลวงพ่อเงินท่านจะ ภาวนาทุกทีตอนที่บิณฑบาต(ทางเรือ)มันจะคอยว่ายน้ำตามเรือไม่ทำอะไรผู้คนจน บางทีถ้าหลวงพ่อเงินท่านจะข้ามแม่น้ำว่ากันว่ามันจะว่ายมาที่แล้วหลวงพ่อ เงินก็นั่งบนหลังมันข้ามน้ำไปได้(เป็นคาถาเดียวกับที่สมเด็จโตใช้สะกด จระเข้)ผู้ที่เป็นเจ้าของวิชานี้คือหลวงพ่อใหญ่มืองพิจิตรหนึ่งในอาจารย์ สมเด็จโตและคาถานี้หลวงพ่อไป๋วัดท่าหลวงได้ใช้เสกตะกรุดกระดูกแร้งจนลือ เลื่องด้วย

ที่มาของพระคาถานี้ว่ากันว่าที่สาวัตถี มีตายาย สองคนมีอาชีพหาปลาตลอดชีวิตไม่เคยทำความดีเลย วันหนึ่งพระพุทธเจ้าทรงทราบด้วยปรมาภิเษกสัมโพธิญาณว่า ตากับยายคู่นี้เคยถวายสังฆทานแก่สมเด็จพระพุทธตัณหังกรมาก่อนแต่ ก็มีการยักยอกเงินในสัยพระพุทธเมธังกรผลกรรมเลยต้องตกเป็นคนทุกข์ยากหลาย ชาติพระองค์เห็นว่าสองตายายนี้จะต้องตายไปใน7วัน จึงควรจะสอนให้ภาวนา เพื่อไม่ให้ไปทางอบายรุ่งเช้าพระพุทธองค์จึงทรงเสด็จไปที่ตากับยายพักอาศัย พอไปถึงพระองค์ทรงแสดงพระฉัพพรรณรังสีจนตายายสองคนเลื่อมใส่ได้ห่อข้าวยาคู ใส่บาตร พระองค์ทรงถามว่า อยากรวยไหมตากับยายก็บอกว่าอยากพระองค์บอกว่า ตถาคตจะให้คำภาวนาแล้วจะรวยตายายก็ดีใจแต่ต้องนั่งบ่นภาวนาไปนะห้ามจับปลานะ ตายยายทั้งสองก็รับคำก็นั่งภาวนาคำที่พระพุทธเจ้าทรงให้ก็คือ พุทโธ กัมมัฏฐาโมกรรมมะจุติ สัมพุทโธตายายก็ภาวนา ผ่านไปสิ้น7วันทั้งสองก็ตายลงนายนิริยบาลมารับตัวไปแต่จิตที่ภาวนาไว้ก่อน ตายทำให้ดวงวิญญาณทั้งสองจิตจับที่คำภาวนา

 

ภาวนาไปตลอดทางพอไปสำนักพระยายมราช นายบัญชีก็อ่านความดีความเลวของดวงวิญญาณทั้งสองและเรียกวิญญาณกุ้งปลาเต่าที่ตายายเคยฆ่ามาให้การปรากฏว่าไม่มีใครมาก็มีเต่ามาบอกว่าเธอทั้งสองภาวนาคาถา นี้เป็นการแผ่เมตตาขออโหสิกรรมฉันไม่โกรธเธอหรอกอโหสิกรรมให้แล้วเต่าก็เดินจากไปพระยายมราชจึงเสด็จลงมาจากบัลลังก์ตรัสว่า ไม่มีเจ้าทุกข์ตายายใส่บาตรองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเกิดที่จาตุมหา ราชิกได้

 

ตายายก็งงว่าตนได้ฆ่ากุ้งปลาเต่ามามากมายทำไมได้ไปสวรรค์ พระยายมราชบอกว่าก็พระที่พวกเจ้าเจอคือองค์พระพุทธเจ้าและคาถาที่ให้พุทโธ กัมมัฏฐาโม กรรมมะจุติ สัมพุทโธ แปลว่ากรรมใดๆๆก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกันด้วยอานุภาพพระสัมพุทโธนะสิ พวกโจทก์ก็เลยอโหสิกรรมหมดท่านก็ว่าดวงจิตเจ้าทั้งสองผูกกับคำภาวนานี้ผู้ ถึงพระพุทโธเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไม่อาจลงอบายภูมิได้ไปได้จตุมหาราชิกาขึ้นไป หลังจากนั้นพระโมคคัลานะได้ไปพบเทพบุตรเทพธิดาทั้งสองนี้ จึงได้จดจำพระคาถานี้ไว้ตกทอดมายังพระครูใหญ่วัดเมืองพิจิตรอาจารย์สมเด็จ พระพุฒาจารย์โตและหลวงพ่อเงินบางคลานอีกทีได้เรียนกันจำสืบมา"