- 08 ส.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และอดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการนับคะแนนประชามติว่า การลงคะแนนครั้งนี้ไม่ถือเป็นชัยชนะของพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่ง แต่เป็นชัยชนะของประชาชน
นายถาวร กล่าวว่า สำหรับผลการนับคะแนนในสัดส่วนภาคใต้นั้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยได้ปฏิรูปตัวเองแล้ว มีแต่นักการเมือง และข้าราชการบางคนที่ยังไม่ปฏิรูป ซึ่งประชาชนได้ปฏิรูปตัวเองตั้งแต่มีโรงเรียนการเมืองหรือแลกเปลี่ยนความเห็นท่ามกลางบรรยากาศข้างถนน เป็นระยะ 204 วัน นั่นคือการชุมนุมของมวลมหาประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องภาคใต้ที่เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากเขาได้ปฏิรูปตัวเองไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นักการเมืองต้องนำไปวิเคราะห์และถอดบทเรียนว่า นักการเมืองไม่สามารถที่จะสั่งประชาชนได้แล้ว ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยนักการเมืองก็สั่งไม่ได้ ประชาชนเป็นตัวของตัวเอง
นายถาวร กล่าวอีกว่า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง กปปส.กับพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งที่ กปปส.ไม่ได้ลงคะแนนเสียงตามที่หัวหน้าพรรคตัดสินใจทั้งที่ กปปส. ยังสังกัดพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เป็นเพราะเหตุว่าเป็นความคิดส่วนตัวของหัวหน้าแม้จะอ้างอุดมการณ์ของพรรคก็ตาม เมื่อไม่ได้เป็นมติพรรค การตัดสินใจของหัวหน้าจึงไม่ใช่กฎเหล็กที่ต้องอยู่ในกรอบนั้น
สำหรับการมี ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง และมี ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 ตำแหน่งนั้นนายถาวร กล่าวว่า มวลมหาประชาชนยังมีนกหวีดเป็นอาวุธ เมื่อคิดว่าตัวเองเป็นเสียงข้างมากมี ส.ว.ในมือ 250 เสียงแล้ว ให้ดูบทเรียนของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีเสียงข้างมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเอาชนะเจ้าของอำนาจได้ ดังนั้นเราจะจับตามองนับแต่การร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับ และอยากฝากคือต้องเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน
“คสช.ได้อำนาจอย่างน้อย 4-8 ปีไปแล้วจะเรียกว่าสืบทอดอำนาจก็ไม่ผิด แต่เสียงข้างมากที่ได้ไปนั้นอย่าใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ขอให้รับฟังเสียงข้างน้อยด้วย เพื่อให้การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยได้เซ็ทตัวเอง และหันมาทบทวน