กลิ่นเน่าโชย!!!  ผู้ว่าฯสตง.สั่งสอบท้องถิ่นใช้งบฯกำจัดผักตบชวา  หลัง "บิ๊กตู่" ไล่บี้ทุกหน่วยแก้ปัญหาจริงจัง

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

      ภายหลังจากการที่พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.  ออกมาติติงการแก้ปัญหาผักตบชวาที่มีการปล่อยให้มีเป็นจำนวนมาในแต่ละจุดพื้นที่  จนทำให้กลายเป็นผลกระทบใหญ่เมื่อทุกฝ่ายปล่อยปะละเลยไม่ช่วยกันแก้ไข   ล่าสุด   นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  ระบุว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ในเรื่องการจัดเก็บผักตบชวาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว  โดยเฉพาะการพิจารณาว่าแต่ละปีท้องถิ่นใช้งบประมาณในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน   ทำไมจึงจัดเก็บไม่หมดแถมมีแต่จำนวนผักตบฯ เพิ่มมากขึ้น  โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ทราบชัดเจน โดยเฉพาะแต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ทุกลุ่มน้ำ แม่น้ำ เส้นทางระบายน้ำ คูคลองต่างๆ

 

          "สตง.กำลังเร่งรีบดำเนินการส่งสายตรวจไปตรวจสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ ไปเก็บตัวเลขมา ใช้งบจัดเก็บผักตบฯ ปีละเท่าไร โดยเป็นงบที่รวมอยู่ในงบขุดลอก แต่ละหน่วยงานจะนำใช้ต้องเปิดมาให้สังคมรับรู้ เหมือนกับสำนักระบายน้ำของ กทม. มีงบทำเส้นทางระบายน้ำปีละ 5 พันล้านบาท แต่พอฝนตกวันหนึ่งท่วม ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเป็นน้ำรอการระบาย อ้างระบบใหญ่ไม่เวิร์ก เตรียมขอใช้งบพันล้านบาทมาทำอีก 21 โครงการ จะเห็นว่าเพียงน้ำท่วมช่วงข้ามคืนคิดได้ 21 โครงการ วิกฤติสร้างโอกาส เพิ่มสถิติงาน เปอร์เซ็นต์งานมากขึ้นปีละ 70% แต่งบที่ได้ทุกปี ปีละ 5 พันล้าน ทำไมไม่ทำ ถ้าย้อนไป 5 ปี เป็นงบ 2.7 หมื่นล้านบาท ทำไมยังมีน้ำรอระบาย"

 

       นายพิศิษฐ์ กล่าวด้วยว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์  นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องผักตบชวาถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยกระตุ้นเตือน เพราะหน่วยงานไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆ กัน แต่ละพื้นที่แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ก็ปล่อยให้มีมากๆ จะได้ของบกลางก้อนใหญ่ ทุกเรื่องจึงเป็นปัญหาหมักหมม ถามว่าทำไมขุดลอกคูคลองขุดได้ ทำไมไม่กำจัดผักตบชวา หรือเพราะไม่ใช่งานก่อสร้าง มีเปอร์เซ็นต์งานมากกว่า ความจริงแล้วผักตบฯ ต้องใช้วิธีป้องกัน เก็บก่อนแพร่พันธุ์ ไม่ใช่ปล่อยจนรากยึดดิน ทำน้ำเน่าเสีย ปลาตาย ควรมีการวางแผนว่าจะมีวิธีตั้งรับอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องยาก หรือเอาเวลาไปดูงานต่างประเทศ จนไม่ได้พัฒนาสภาพบ้านเราเป็นอย่างไร ชอบไปดูงานยุโรป อเมริกา ก็ไม่มีผักตบชวาให้ดู และผักตบฯ ก็นำมาทำผลิตภัณฑ์ ทำปุ๋ยหมัก ของบางอย่างเป็นโอกาสและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน

          "ยิ่งตอนนี้พอเป็นข่าว ส่วนท้องถิ่นก็ชอบใช้งบฉุกเฉินจำเป็นอย่างมีความสุข ก็จ้างแรงงาน ใช้น้ำมัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างคนไปเก็บ ลำน้ำคูคลองเล็ก แทนที่จะเก็บตอนน้อยๆ รอมากๆ ค่อยเก็บ ถ้าให้ผมวิจารณ์ดูแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไขที่ปลายเหตุ ภาระหน้าที่ตรวจตรา รักษาความสะอาดผิวน้ำ เก็บก่อนที่จะระบาด ไม่ใช่ปล่อยมาเต็มแม่น้ำ เต็มเขื่อน แทนที่ใช้งบเล็กๆ ต้องมาใช้งบมาก"