ยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ !!!  "พระเมธีฯ"  ซัดนัวรมต.จาบจ้วงสงฆ์  อ้างรัฐละเลยทูลเกล้าสมเด็จช่วงเป็นสังฆราชจุดวิกฤตพุทธศาสนา??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

      เงียบหายไปนานภายหลังกระบวนการจัดทำประชามติร่างรธน.ผ่านพ้นไป  พร้อม ๆ การแจ้งข้อหากล่าวหาต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  โดยดีเอสไอเกี่ยวกับการครอบครองรถเบนซ์  ทำให้รัฐบาลยืนยันหนักแน่นจะไม่มีการทูลเกล้ารายชื่อพระสังฆราชองค์ใหม่   จนกว่าคดีจะมีความชัดเจนและผู้สมควรเสนอชื่อพ้นมลทินข้อกล่าวหา

 

      ล่าสุดพระเมธีธรรมาจารย์  เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย   ได้ใช้เวทีวันมหาสังฆประชาปิติ ปีที่ 14  ที่วัดราชาธิวาสวิหารจัดขึ้น  พูดถึงวิกฤติพุทธศาสนาในไทยอีกครั้ง   ใน   3  ประเด็นหลัก  คือ  1.   ไม่ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์ปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา   2.ไม่บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ 3.ละเลยในการนำรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะขึ้นทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

     “การปกป้องพระพุทธศาสนาต้องทำต่อเนื่อง   โดยเฉพาะในรัฐบาลปัจจุบันที่รัฐมนตรีพูดจาบจ้วงคณะสงฆ์อย่างไม่เคยมีมาก่อน หน่วยงานของรัฐบางหน่วยงานก็เข้าหาพระสงฆ์ด้วยกิริยาที่ก้าวร้าว ทั้งที่ตั้งแต่มีรัฐบาลชุดปัจจุบัน คณะสงฆ์ไม่เคยต่อต้าน เพราะเห็นเป็นเรื่องของบ้านเมือง”

     ทั้งนี้  พระเมธีธรรมาจารย์   อ้างว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้พระพุทธศาสนามีวิกฤติมาจากผลที่เกิดขึ้นกับกรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์ปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา แต่เมื่อเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ผู้ที่เคยเป็นประธานคณะกรรมการเรื่องนี้ ก็ตั้งพรรคการเมืองทั้งบอกด้วยว่าจะนำเรื่องปฏิรูปกิจการคณะสงฆ์กลับมาทำอีก

 

     ขณะเดียวกันรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำร่างรธน.ก็ไม่บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญมีการการละเลยในการนำรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะขึ้นทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช   ซึ่งทั้ง 3 เหตุผลหลักแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์วิกฤติของพระพุทธศาสนาในไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงอยากให้พุทธศาสนิกชนออกมาร่วมปกป้องพระพุทธศาสนาด้วย