"เนชั่น" ระส่ำหนัก!! SET ขึ้น H แขวนหุ้น NMG ,NINE, NBC ยกเข่ง หลัง กลต.แฉ8ผู้บริหารไม่น่าไว้วางใจ

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ประกาศขึ้นเครื่องหมาย H หรือ Trading Halt ให้หยุดพักการซื้อขายหุ้นในเครือเนชั่น จำนวน 3 บริษัทคือ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือ NBC บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ หรือ NINE และบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่การซื้อขายในรอบเช้าวันนี้ (7 ต.ค.) จนกว่าทั้ง 3 บริษัทจะชี้แจงหรือเปิดเผยสารสนเทศสำคัญมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ
         
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากหลังจากวานนี้ (6 ต.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผย 8 รายชื่อ ที่มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 2559 สืบเนื่องจากพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องกรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดในการประชุมผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย นายปกรณ์ บริมาสพร, นายเชวง จริยะพิสุทธิ์, นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ, น.ส.เขมกร วชิรวราการ, นายพนา จันทรวิโรจน์, น.ส.ดวงกมล โชตะนา, นายเสริมสิน สมะลาภา และนายสุทธิชัย หยุ่น โดยกรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของทั้ง 3 บริษัท อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ปกติการขึ้นเครื่องหมาย H แต่ละครั้ง จะมีระยะเวลาไม่เกินกว่า 1 รอบการซื้อขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดหลักเกณฑ์ในการขึ้นเครื่องหมาย H รวม 4 ข้อ ได้แก่ 1.มีข้อมูลหรือข่าวสารสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจลงทุน หรือการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้รับรายงานจากบริษัท และอยู่ระหว่างการสอบถามข้อเท็จจริง รวมถึงรอคำชี้แจง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า บริษัทสามารถชี้แจงได้ในทันที

2.ภาวะการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง น่าสงสัยว่า จะมีผู้ลงทุนบางกลุ่มทราบข้อมูลหรือข่าวสารที่สำคัญ และอยู่ระหว่างการสอบถามข้อเท็จจริงจากบริษัท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า บริษัทสามารถชี้แจงได้ทันที 3.บริษัทร้องขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองเป็นการชั่วคราว เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างรอการเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารที่สำคัญ และตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า บริษัทสามารถชี้แจงได้ในทันที และ 4.มีเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นๆ