"เปลว สีเงิน"เคลียร์ปมวีซ่า"เบสท์" ระวังพวกสอดลิ่ม เชื่อ"สหรัฐ"ไม่เลวจนหมาไม่แดก พวกล้มสถาบันยังให้ซุกหัว ???

อย่าให้วีซ่าเป็นอุปสรรคขวางกั้น'

 

 

       ต้องคุยกันนิด..........!ก่อน "ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย" จะฉวยโอกาส "สอดลิ่ม" ลงในรอยแยกสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ

 

       คือเมื่อวาน (๑๕ พ.ย.๕๙) เกิดเป็นข่าวฮือฮา ในประเด็น คุณอรพิมพ์ รักษาผล หรือ "เบสท์" นักพูดผู้สร้างแรงดาลใจ กับเลขาฯ ของเธอ ไปยื่นขอวีซ่าที่กงสุลสหรัฐฯ เพื่อเดินทางไปแอลเอ และบอสตัน นัยว่าคนไทยที่นั่น เชิญให้เธอไปพูด เรื่องพระราชกรณียกิจของ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ตอนต้นเดือนหน้าทางกงสุลฯ พิจารณาคำขอแล้ว บอกเธอว่า “วันนี้คุณไม่ได้วีซ่า”!

 

       จากข่าว รายงานไว้แค่นั้น ก็สรุปประเด็นกันเป็นว่า สหรัฐฯ ไม่ต้อนรับคุณเบสท์ ที่จะให้เดินทางเข้าไปในประเทศเขา

เมื่อข่าวถึงโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่า หูร้อน-หน้าชา กันไปทั้งเมือง  อย่างนี้ก็ต้อง "อัดกลับ" กันไม่ยั้ง......ก็มันเยี่ยวรดหัวใจกันมากไป กับมหามิตรที่แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันซึ่งหน้า

 

       ผมก็พยายามอ่านข่าว เพื่อสะสมรายละเอียดให้ได้มากกว่าคำว่า "วันนี้คุณไม่ได้วีซ่า" แต่ก็ไม่พบอะไรมากกว่านั้น!

อยากร่วมตอบโต้เพื่อชาติบ้าง แต่บอกตรงๆ เหตุผลนำไปสู่การตอบโต้ประเด็นนี้จะจะ สำนวนยังไม่พอสั่งคดีน่ะ  ฉะนั้น วันนี้ ...........เราคุยเป็นการ "เคลียร์ประเด็น" กันก่อนดีกว่า อย่าด่วนสรุป อีกอย่างสหรัฐฯ ตอนนี้ อยู่ในภาวะประชาธิปไตย "บ้านป่า-เมืองเถื่อน" ไปอะไรกะเขา เขาก็คงไม่รู้สึก-รู้สาอะไรหรอก!

 

       ดูจากคำตอบเจ้าหน้าที่กงสุลฯ.........."วันนี้ คุณไม่ได้วีซ่า" คำตอบลักษณะนี้ ไม่ได้บ่งว่า คุณเบสท์ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ คือเป็นบุคคลที่สหรัฐฯ ไม่พึงปรารถนาให้เข้าประเทศเขา บ่งเพียงว่า เมื่อวาน (๑๕ พ.ย.) เขาพิจารณาเอกสารคำร้องแล้ว อาจมีเหตุบางอย่างทำให้ยังออกให้ไม่ได้ เขาจึงใช้คำว่า "วันนี้คุณไม่ได้วีซ่า"  หมายความว่า "วันหน้า" คือวันต่อๆ ไป ถ้าแก้ไขเหตุนั้นแล้ว เขาอาจออกให้ก็ได้ ซึ่งนั่นก็ต้องดู เหตุที่เขาไม่ออกวีซ่าให้เมื่อวาน มันคืออะไร?

 

-เอกสารที่เขาต้องการ มีครบหรือไม่?

 

 

-กรอกข้อความในใบคำร้อง ครบถ้วน-ถูกต้องหรือไม่?

 

-ยื่นขอวีซ่าถูกประเภทหรือไม่?

 

อย่างนี้ เป็นต้น...........

        เราอย่าใช้แค่ "ความรู้สึก" ไปตอบโต้เขา โดยไม่แสวงหาเหตุผล-ข้อมูล ให้ได้ความชัดเจนก่อนเลย จะเสียบุคลิกประเทศเราเปล่าๆ คิดว่าวันนี้-พรุ่งนี้ น่าจะมีฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่ง "ให้คำตอบ" ที่เป็นเหตุ-เป็นผล ในการปฏิเสธการออกวีซ่าเมื่อวานก็ได้ เอาอย่างนั้นนะครับ ถึงตอนนั้น ค่อยว่ากัน ซึ่งนั่นก็ยังไม่เสียเหลี่ยม "ลูกหลานลุงตู่" หรอกน่า!

       จำได้มั้ย ตอนต้นเดือนตุลา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เขาให้นิสิตปี ๑ ชื่อ "เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล" เป็นแม่งาน เชิญตัวเชิดประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ในฮ่องกง ชื่อ "โจชัว หว่อง" มาปาฐกถา ในวันรำลึกเหตุการณ์ ๖ ตุลา!

 

       ถ้าไม่เพราะคน ๖ ตุลากลับชาติมาเกิดเป็นโจชัว หว่อง แล้วอาจารย์คนใด-คนหนึ่ง รำลึกชาติได้ จึงให้ไปอัญเชิญมาร่วม

นั่นก็แสดงว่า ต้องมีเจตนา "ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง" อย่างใด-อย่างหนึ่ง ในการไปดึง "คนนอกชาติ" เข้ามา ด้วยหวัง "ยืมมือ ๒ กุมาร" สู่ความสะใจบางประการ? นอกจาก ๒ เหตุผลนี้แล้ว.........ใครตรองเห็นเหตุผลประเสริฐอื่น ที่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ สมควรต้องเชิญ "เด็กวานซืน" นอกชาติมา เพื่องาน ๖ ตุลา โปรดชี้แนะด้วย!

 

       ที่ผมยกประเด็นนี้มา เพราะนายโจชัวมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ตม.ของเรา "ปฏิเสธการเข้าเมือง" จะด้วยมีแบล็กลิสต์ ด้วยจีนขอร้อง หรือด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ด้วยวินิจฉัยอำนาจของ ตม.เอง นั่นก็สุดแล้วแต่ สรุปว่า ตม.กักตัวไว้สนามบิน  แล้วส่งกลับฮ่องกง! ถามว่า กรณีนี้ ด้วยเจตนาที่รู้ๆ กันอยู่ รัฐบาลมีเหตุผลที่จะปฏิเสธการเข้าเมืองมั้ย? สำหรับผม เห็นว่ามีเหตุผล ๑๐๐%

 

       แต่ปรากฏว่า ไม่เพียงแก๊งจาน-ชามใต้ทุนอุปถัมภ์สหรัฐฯ และระบอบทักษิณ รวมหมู่ด่าประจานบ้านเมืองตัวเองแล้ว

"ขาประจำ" ยังดาหน้ากันมา "ครบทีม"............สหรัฐฯ ยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมนไรต์วอตช์ แอมเนสตี โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายฮ่องกง สำนักข่าว เอพี บีบีซี เดอะการ์เดียน เดโมซิสโต โพสต์ และ ฯลฯสารพัดประณามไทย ด้านสิทธิมนุษยชน ที่..... "ไม่ให้นายโจชัวเข้าเมือง"! 

 

       ด้วยเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน ผมอ่านพบข่าวหลายครั้ง คนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้ ถูก ตม.สนามบินเกาหลีกักตัวคนไทย ไม่ยอมให้เข้า ไม่ใช่ราย-สองราย แต่หลายราย เรียกว่าประจำ นัยว่า ตม.เกาหลีเขามองว่า...........คนนั้น ให้เข้าแล้ว จะไม่กลับออกไปบ้าง เกรงเข้ามาหางานทำบ้าง ถ้าเป็นผู้หญิง เกรงแฝงเข้ามาค้าเนื้อ-ค้าตัวบ้าง  ถามว่า มันมากไปมั้ย ทำถูกต้องมั้ย? คำตอบที่เป็นเหตุผลของเรา อาจไม่ใช่เหตุผลของเขาในการปฏิเสธให้เข้าเมือง

 

       แต่ไม่ปรากฏว่า ..........ทั้งยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมนไรต์วอตช์ แอมเนสตี สำนักข่าวทั้งหลาย รวมถึงผู้ทักษ์สิทธิมนุษยชนโลกอย่างสหรัฐฯ ที่เคยอัดไทย กรณี โจชัว หว่อง  จะดาหน้ากันออกมาอัด "เกาหลีใต้" เหมือนที่เคยอัดไทยซักแอะ?

 

       ไอ้เรื่องไม่ให้เกียรติและหยามหน้ากัน คงไม่มีกฎหมาย ทางปฏิบัติ ต้องใช้กฎนักเลง "อมเลือดไว้"

       "ซูเปอร์ ฟูล มูน"ไม่ได้มีครั้งเดียวในโลกหรอก!  คือโวยวายไป ก็อายเขาเปล่าๆ เก็บความรู้สึกเอาไว้ในกระบาลจำ อย่างเกาหลีใต้น่ะ ย้อนไป ๕๐ ปีที่แล้ว เงินเราก็ต้องช่วยทุกปี ข้าวปลาก็ต้องเจือจานให้กิน ทหารก็ต้องส่งไปช่วยรักษาประเทศให้

แต่มาวันนี้ ตม.เกาหลี กลับมองคนไทยหัวจรดตีน ตีราคาไปทางต่ำ ไม่ให้เข้าเมือง!

 

อย่าจำไปแค้น แต่ควรจำ-เพื่อจำ!

 

       ย้อนกลับกรณีคุณเบสท์ คนละแบบกับเกาหลีใต้ เกาหลีใต้กับไทยนั้น เราไป-เขามา ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่สหรัฐฯ ต้องขอวีซ่าก่อน คือให้เขาอนุญาตก่อน จึงจะเดินทางไปได้

 

       อย่าว่าแต่คุณเบสท์เลย........จำได้มั้ย ตอน ๒๒ พ.ค.๕๗ ทำเนียบขาวประกาศเปรี้ยง ทั้งพลเอกประยุทธ์ ทั้ง ครม.ประยุทธ์ ทั้งใคร-ต่อใครในคณะ คสช. เป็นเผด็จการ......... "สหรัฐฯ ไม่ต้อนรับ" ห้ามเข้าประเทศ!  ตอนนี้ก็ยังไม่ต้อนรับ แต่สำหรับคุณเบสท์ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ต้อนรับ ยิ่งไปในฐานะ ผู้ประกาศพระเกียรติคุณ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ" ให้คนไทยในสหรัฐฯ ได้รับรู้  เขายิ่งควรต้องต้อนรับด้วยซ้ำ!

 

       ก็ขนาดคน "ล้มชาติ-ล้มสถาบัน" แท้ๆ สหรัฐฯ ยังต้อนรับ เอาไปอุ้มชู-ดูเลี้ยง อยู่เป็นสิบ แล้วนี่ คนกตัญญูต่อชาติ-ต่อสถาบัน สหรัฐฯ จะเลวหมาไม่แดก ถึงขนาดแยกแยะ "ผิด-ถูก, ชั่ว-ดี" ไม่ได้เชียวหรือ?

 

       คุณเบสท์ลองยื่นขอใหม่นะ ที่คุณยกใจสูง แสดงทัศนคติบวกกับการที่เขาไม่ออกวีซ่าให้เมื่อวาน เป็นท่าทีที่ผมขอชมเชย คือต้องช่วยกันระวัง "พวกหวังดีแต่ประสงค์ร้าย" มันจ้องฉวยโอกาสรักชาติ-รักสถาบันบังหน้า แล้วยกประเด็นที่จะไปพูดเรื่องพระราชกรณียกิจ แต่สหรัฐฯ ไม่ออกวีซ่า โยงไปสู่ประเด็นเปราะบาง และอ่อนไหวด้านจิตใจ ด้วยเจตนาปลุกปั่นให้ "ไทย-สหรัฐฯ" บาดหมาง เกลียดชังกัน จนเป็นการเมืองระหว่างประเทศ พวกจ้องเสี้ยมให้ประเทศเข้าสู่วังวนปัญหามันมีอยู่ และพวกนี้ เขาทำให้บ้านเมืองลำบาก-ทุกข์ร้อนได้มากเท่าไหร่ จะเป็น "ความสุข" ของพวกเขา มากกกกเท่านั้น!

 

       จะได้ไป-ไม่ได้ไป ไม่เห็นเป็นปัญหาหรอกครับ...คุณเบสท์ อยู่และพูดอย่างที่พูดจนคนฟังน้ำตาไหลทุกครั้ง ให้คนไทยในเมืองไทยเรานี่แหละ ได้ฟังกันจนครบ ๗๗ จังหวัด นั่นมีค่าและเป็นเป้าหมายสำคัญกว่า

 

ส่วน "แอลเอ-บอสตัน" รอเขาแยกเป็นประเทศได้เมื่อไหร่ ค่อยไปตอนนั้นก็ได้...วีซ่าไม่ต้อง

 

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์