เฉลยแล้ว!!! เปิดตัวตน "ทนายคารม" คนแจ้งความ "เบส อรพิมพ์" ที่แท้เป็นอดีตทนายนปช. แถมพ่วงผลงานชิ้นโบว์ดำไว้อีกเพียบ!!!

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://deeps.tnews.co.th/

กรณีเมื่อ วันที่ 19 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา นายคารม พลพรกลาง อายุ 53 ปี  ทนายความชื่อดัง ได้เดินทางพร้อมนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง สิตานัน โฉมกันดี ร้อยเวร สภ.รัตนาธิเบศร์  จ.นนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ  นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล อายุ 26 ปี อาชีพนักพูด ภายหลังมีการพูดในลักษณะหมิ่นประมาทคนอีสาน วันนี้ทีมข่าว DEEPS TNEWS ได้หยิบยกบทความในข่าว จากเว็บไซต์ www.manager.co.th ที่ได้ลงไว้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา

เฉลยแล้ว!!! เปิดตัวตน "ทนายคารม" คนแจ้งความ "เบส อรพิมพ์" ที่แท้เป็นอดีตทนายนปช. แถมพ่วงผลงานชิ้นโบว์ดำไว้อีกเพียบ!!!

ย้อนไปที่ตัวตนที่แท้จริงของ"คารม พลทะกลาง"ที่ยังไม่มีใครทราบว่าเขาเป็นใครมาจากไหน มีหัวนอนปลายเท้า และประวัติความเป็นมาอย่างไร เพียงแต่ทราบกันว่า "คารม" เป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านกฏหมายของพรรคเพื่อไทย ที่มักออกมาแถลงข่าวพร้อมกับนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า นายคารม ยังเป็นถึงประธานชมรมนักกฏหมายเพื่อประชาชน
      
ครั้งหนึ่ง นายคารม ในฐานะทนายความ นปช. ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ที่สั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวกรรมไปจนถึงสะพาน มัฆวานรังสรรค์ และให้เปิดประตูที่ 5 และประตูที่ 8 ให้ข้าราชการ ผู้ไปติดต่อ และคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าออกได้สะดวก โดย คารม อุทธรณ์แย้งประเด็นหนึ่งว่า "ศาลแพ่งไม่มีอำนาจพิจารณาคำร้องของ สปน. เนื่องจากก่อนหน้านี้ในคดีที่ สปน.ยื่นฟ้องกลุ่มพันธมิตรฯ เคยมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อกฎหมาย เรื่องอำนาจของศาลแพ่งในการสั่งคดีเกี่ยวกับสิทธิในการชุมนุม และจนถึงขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่มีคำวินิจฉัยลงมา"
      
ทางกลับกันก่อนหน้านั้น 30 ก.ค. 2551 นายคารม ในฐานะทนายความของ นายสุรินทร์ หิรัญ,นายอนุวัฒน์ รัตนกุล, นายเปี่ยม ไชยมูล, นายวรวิทย์ สุระโครต, นายดำรงค์ มั่นการ และ นายวุฒิ เกตุสิน ซึ่งเป็นกลุ่มข้าราชการ และลูกจ้างประจำกระทรวงศึกษาธิการ ที่ฟ้องขับไล่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตยนั้น นายคารม ระบุไว้ชัดเจนในครั้งนั้นว่า "คดี นี้โจทก์ฟ้องฐานละเมิดซึ่งใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลแพ่ง ไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแต่อย่างใด"

เฉลยแล้ว!!! เปิดตัวตน "ทนายคารม" คนแจ้งความ "เบส อรพิมพ์" ที่แท้เป็นอดีตทนายนปช. แถมพ่วงผลงานชิ้นโบว์ดำไว้อีกเพียบ!!!
      

โดยผลสรุปครั้งนั้น ทนายความอย่างนายคารม เขาคือบุคคล 2 มาตรฐาน สับสนในตัวบทกฎหมาย คือ เมื่อคราวฟ้องพันธมิตรฯ ก็บอกว่า ศาลแพ่งมีอำนาจ แต่เมื่อคราวถูกฟ้อง กลับแก้ต่างว่า ศาลแพ่งไม่มีอำนาจ
      
บทบาทของ นายคารม ยังเคยนำสมาชิกทนายความราว 30 คน เข้ายื่นหนังสือกับนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พลังประชาชน(ขณะนั้น) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ทำการถอดถอน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ที่เขาเชื่อไปเองว่า น่าจะมีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดวัตถุประสงค์พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ในมาตรา 7 ฐานเรียกร้องให้สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ทำการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชิ้นของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร (นักโทษชายหนีคดีจำคุก) พร้อมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการถอดยศ พ.ต.ท.คืนอีกหากศาลมีการตัดคดีจนถึงที่สุด ซึ่งนายคารม เห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่ใช่หน้าที่ของทนายความ เป็นการชี้แนะแนวทางที่ไม่สมควร นอกจากนี้ ที่ผ่านมาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรรมการสภาทนายความบางคนที่ไปร่วม ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อยู่หลายครั้ง

เฉลยแล้ว!!! เปิดตัวตน "ทนายคารม" คนแจ้งความ "เบส อรพิมพ์" ที่แท้เป็นอดีตทนายนปช. แถมพ่วงผลงานชิ้นโบว์ดำไว้อีกเพียบ!!!
      

 

นายคารม เขาเคยร่วมกับ นายพร้อมพงศ์ ไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อกล่าวหากรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะส.ส.พรรคภูมิใจไทย กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีแจกเงินและสิ่งของให้ชาวบ้านพร้อมกับแนบนามบัตร
      
ต่อมาคู่หูทั้งสอง ยังได้ยื่นคำร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อให้วินิจฉัยกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ร่วมกันแถลงนโยบายรัฐบาล ณ กระทรวงการต่างประเทศ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
      
นายคารม เขายังเป็นทนายความให้ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพื่อดำเนินการฟ้องร้อง นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีการเสียชีวิตของชิปปิ้งหมู
      
จากนั้นผลงานอีกชิ้นของนายคารม คือการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายกษิต ภิรมญ์ รมว.ต่างประเทศ ฐานเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ เพียงแต่นายคารม ไปแจ้งความเอาผิดนายกษิต เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2551 ซึ่งเป็นวันหลังจากที่คณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้ว
      
ท้ายสุด บทบาทการเป็นทนายความของ นายคารม ถือว่าเขาดีใจสุดๆครั้ง ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว"ไอ้ตู่"จตุพร พรหมพันธ์ และ"ไอ้เก่ง"การุณ โหสกุล 2 ส.ส.ผู้ทรงถ่อย โดยวันนั้น เขามั่นใจว่า จะใช้มาตรฐานเดียวกัน ขอยื่นประกันตัว แกนนำ นปช.คนอื่นๆ แต่เมื่อศาลอาญาไม่อนุญาตประกันตัว คารม เขาพูดชัดว่า จะยื่นอุทธรณ์ในวันต่อมา ในทันที แต่พอถึงวันกำหนด เขากลับพูดว่า แกนนำ นปช.ขอให้รอแผนปรองดอง ของรัฐบาลก่อน และจะยื่นประกันตัวในการฝากขังผลัดต่อไป แต่หากศาลไม่ให้ประกันตัว เขาก็จะยื่นอุทธรณ์แน่นอน

 

เรียบเรียง : ทีมข่าว DEEPS TNEWS สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล :  www.manager.co.th