เหตุผลเป็นอื่นไม่มี!!"ประสาร"กระทุ้งทีมทนายธรรมกายนำพระธัมมชโยมอบตัวสู้คดี  ลั่นDSIต้องทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์ไม่งั้นจะกลายเป็นองค์กรเป็ดง่อย??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ถือเป็นกระแสร้อน ๆ  สำหรับคำสั่งฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  ,  น.ส.ศรัญญา มานหมัด อดีตคณะบริหารสหกรณ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 3 นางทองพิน กันล้อม อดีตคณะบริหารสหกรณ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยพนักงานอัยการได้นัด น.ส.ศรัญญา ผู้ต้องหาที่ 3 นางทองพิน ผู้ต้องหาที่ 4 มารายงานตัวเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ส่วนนายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกคุมขังในคดีอื่นอยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว

 

เหตุผลเป็นอื่นไม่มี!!"ประสาร"กระทุ้งทีมทนายธรรมกายนำพระธัมมชโยมอบตัวสู้คดี  ลั่นDSIต้องทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์ไม่งั้นจะกลายเป็นองค์กรเป็ดง่อย??

 

นอกจากนี้ยังมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาที่ 5 ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359, 83 และแจ้งให้ดีเอสไอดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 และ 5 มาส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการต่อไปภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันที่กระทำผิด คือเดือน ม.ค. 2552             

ล่าสุดนายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึง กรณีอัยการสูงสุด มีความเห็นควรสั่งฟ้อง พระธัมมชโย และพวก ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร  จึงมีผลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องนำตัวพระธัมมชโย และพวก มาฟังคำสั่งคดี ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้นั้น ตนเห็นว่า ทนายของพระธัมมชโย ควรแนะนำให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวต่อทางการ เพื่อเข้าสู่การต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

         

“พระธัมมชโย ไม่เหลือเหตุผลใดๆ ที่จะแข็งขืนอีกแล้ว หลักฐานเอกสารและพยานบุคคลหนักแน่นเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ทางดีเอสไอและอัยการมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ที่จะต้องนำตัวผู้ต้องหามาให้ได้ หาไม่แล้วทั้งอัยการและดีเอสไอ จะกลายเป็นองค์กรเป็ดง่อยที่เชื่อถือไม่ได้”

นายประสาร กล่าวต่อว่า การเข้าจับกุมพระธัมมชโย ที่วัดธรรมกาย ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนนั้น บรรดาผู้ขัดขวางกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ ต้องเข้าใจว่าทางการมีคำสั่ง คสช.ที่13/2559 ข้อ 3(4) ที่จะนำมาใช้ได้กับกรณีนี้ เป็นคำสั่งที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ “เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใดๆ เพื่อตรวจค้นบุคคลหรือยานพาหนะใดๆ เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยโดยมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลซึ่งกระทำความผิดหลบซ่อนอยู่และใครที่ขัดขวาง ย่อมมีความผิดด้วย”

         

นายประสาร กล่าวต่อว่า ในยุคที่นายกรัฐมนตรีย้ำหนักแน่นว่าต้องการทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ทุกฝ่ายจึงต้องขานรับ ไม่ควรมีข้ออ้างเรื่อง “ความละเอียดอ่อน” หรือประเด็นที่ว่า “มีอายุความ 15 ปี” อีกต่อไป เพื่อดำรงความถูกต้องและทำให้กระบวนการยุติธรรมมีความศักดิ์สิทธิ์จริง ดีเอสไอต้องปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโยอย่างจริงจัง ถ้ายุคนี้ไม่สามารถทำได้ ก็อย่าหวังว่ารัฐบาลยุคเลือกตั้งจะทำได้

 

เหตุผลเป็นอื่นไม่มี!!"ประสาร"กระทุ้งทีมทนายธรรมกายนำพระธัมมชโยมอบตัวสู้คดี  ลั่นDSIต้องทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์ไม่งั้นจะกลายเป็นองค์กรเป็ดง่อย??

ส่วนกระแสข่าวลือพระธัมมชโยเดินนทางออกนอกประเทศไปก่อนหน้า  ทางด้าน  นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า พระธัมมชโยยังพักรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัด ประกอบกับพระธัมมชโยไม่มีหนังสือเดินทาง เนื่องจากไม่ได้ไปต่ออายุ จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และหากออกนอกประเทศจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดสายตาของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ดีจากนี้คณะศิษย์จะขอหารือก่อนถึงคดีที่พระธัมมชโย ถูกฟ้อง แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

 

เรียบเรียงข่าว  :  ชัชรินทร์  สุรพัฒน์