สุดยอด...ขอกราบหัวใจ!!! ตร.เมืองคอนมือ-ขาพิการจากการปฏิบัติหน้าที่จ.ชายแดนใต้ แต่ใช้คอมฯได้สุดยอดทำหน้าที่สำคัญล่าคนร้ายอีกด้วย?? (ภาพ)

ที่ห้องสืบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบ ด.ต.สุรีย์ ฮามีดี อายุ 50 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจสู้ชีวิตพิการมือขาด 2 ข้าง โดยมือทั้งสองข้างตั้งแต่ข้อศอกลงมา รวมทั้งที่เท้าข้างขวาตั้งแต่หัวเข่าลงมา แต่สามารถใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสารและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งตำรวจท่านนี้มีหน้าที่รับผิดชอบงานเอกสาร งานธุรการและไอทีงานสืบสวน อีกทั้งยังเป็นมือสเก็ตซ์ภาพคนร้าย โดยใช้โปรมแกรมคอมพิวเตอร์อีกด้วย 

 

 

 

 

 

 

 

ด.ต.สุรีย์ ตำรวจพิการสู้ชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงปี 2537 ขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และได้รับคำสั่งให้ประจำป้อมยามหน้าโรงงานกระเบื้อง แต่ขณะปฏิบัติหน้าที่วิทยุสื่อสารไม่สามารถติดต่อกับ สภ.ต้นสังกัด และ สภ.ข้างเคียงได้ เนื่องจากมีลมพัดกระโชกและฝนทำท่าจะตก ตนจึงปีนขึ้นไปหมุนเสาอากาศวิทยุสื่อสารและเกิดอุบัติเหตุเสาล้มไปพาดกับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ตนโดนกระแสไฟฟ้าช็อตจนหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานีและส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ต้องตัดแขนทั้งสองข้างและขาด้านขวา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  ชัดกว่านี้ไม่มีแล้ว!! ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปหนุ่มโดนตร.ทางหลวงโบกเรียก ขอแบ่ง "ฟักทอง" แต่โฟกัสภาพไปอยู่ตรงวิธีการไถเงินสุดเนียน (มีคลิป)

 

 

 

 

 

หลังเกิดเหตุ ได้รับการช่วยเหลือจากสมาคมแม่บ้านตำรวจเป็นเงิน 20,000 บาท, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 10,000 บาท และตนได้สนับสนุนเข้ารับการฝึกอบรมด้านคอมพิวเตอร์จนมีความชำนาญและขอย้ายกลับภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันประจำที่ธุรการสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

 

 

 

 

ทั้งนี้ แม้ ด.ต.สุรีย์ จะเป็นพิการมือขาดทั้งสองข้าง รวมทั้งขาด้วนอีกหนึ่งข้าง แต่ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้านงานธุรการและงานไอทีได้เป็นอย่างดี จนได้รับความไว้วางใจของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานและเคยได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทั้งระดับโรงพักและระดับจังหวัดมาแล้วหลายครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  อย่าไปกลัวมัน กลัวมันทำไม กลัวก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจไทย!!!"ผบช.ปส."ไม่สน"โซเชียลลาว"ให้ปล่อยตัว"ไซซะนะ"ลั่นหนัก...ใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์