รับงานหรือแกล้งโง่!!!กต.เหลืออดฝรั่งสวมหัว UN แทรกแซง ม.112 โต้ชุดใหญ่ทำไมกม.ไทยต้องปกป้องเบื้องสูง -"ไผ่ ดาวดิน" ทำผิดไม่สำนึก !!?!!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ภายหลังจาก  นายเดวิด เคย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของสหประชาชาติด้านการส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงออก  ได้แสดงความเห็นเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยหยุดใช้กฎหมายอาญามาตรา 112   หรือ  กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์

 

รับงานหรือแกล้งโง่!!!กต.เหลืออดฝรั่งสวมหัว UN แทรกแซง ม.112 โต้ชุดใหญ่ทำไมกม.ไทยต้องปกป้องเบื้องสูง -"ไผ่ ดาวดิน" ทำผิดไม่สำนึก !!?!!

ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศของไทย  ได้ออกแถลงการณ์   ชี้แจงกรณี สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) มีความเห็นต่อการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  มีใจความสำคัญ ว่า

 

ตามที่ ผู้เสนอรายงานพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ได้แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจง ดังนี้

         

1. สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักของชาติที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ประชาชนชาวไทยเคารพเทิดทูนและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนานกว่า ๗๐๐ ปี ถึงปัจจุบัน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์คงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเป็นศูนย์รวมที่หล่อหลอมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนในชาติ การที่ไทยหรือชาติใด ๆ จะตรากฎหมายที่เหมาะสมเพื่อการปกป้องคุ้มครองสถาบันฯ ที่มีคุณูปการยิ่งต่อชาติบ้านเมืองจึงเป็นเรื่องปกติสามัญที่ชนในชาติพึงเคารพยึดปฏิบัติ

         

2. กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายอาญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากการกระทำฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้าย ในลักษณะเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทที่ให้ความคุ้มครองบุคคลทั่วไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการริดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด นอกจากนั้น ไทยยังมีความเป็นสากลในการให้ความคุ้มครองลักษณะคล้ายคลึงกันต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทของชาติอื่น รวมถึงผู้แทนของรัฐต่างประเทศประจำประเทศไทย ดังปรากฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 133 และมาตรา 134 ทั้งนี้ การดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มิได้มีแรงจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

        

 3. ประเทศไทยเคารพและให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ดี การใช้สิทธิดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่กระทบความสงบเรียบร้อยและสันติสุขในสังคม และต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือชื่อเสียงของผู้อื่นตามที่ได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 19 (3) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ดังนั้น การบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 จึงไม่ได้ขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

         

4. การดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีกระบวนการพิจารณาคดีอันควรแห่งกฎหมาย (due legal process) เหมือนกับคดีอาญาโดยทั่วไป ผู้ที่ถูกพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายดังกล่าวมีสิทธิเฉกเช่นเดียวกับความผิดอื่น ๆ รวมถึง สิทธิในการอุทธรณ์และขอพระราชทานอภัยโทษ

        

 5. สำหรับกรณีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ซึ่งถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นั้น คดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลซึ่งเป็นกระบวนการอิสระที่รัฐบาลไม่อาจแทรกแซงได้ ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ฯ เคยได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 แต่ต่อมาถูกถอนประกันเนื่องจากนายจตุภัทร์ฯ ได้กระทำผิดซ้ำ ซึ่งขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัว

 

ก่อนหน้านั้น นายดอน ปรมัถต์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว   ว่า  ตนยังไม่เห็นข้อเรียกร้องดังกล่าว  แต่โดยหลักการดังกล่าวเราทุกคนรู้กันอยู่ว่ามาตรา 112   ก็เหมือนกฎหมายอาญาต่างๆ  และแต่ละประเทศก็มีสำหรับเรื่องภายในของเขา เช่น สหรัฐอเมริกา มีกฎหมายห้าม จะไปละเมิดไม่ได้ ประเทศเขาก็มีกฎหมายของเขาในระดับเดียวกัน ฉะนั้น อย่าไปคิดว่ากฎหมายเราจะไปกระทบคนอื่น

 

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีความพยายามพูดกันมานานแล้ว แต่ลองคิดดูว่าคนไทย 67 ล้านคนมีใครบ่นเรื่องนี้บ้าง ถ้าบ่นกัน 2-3 คน แสดงว่า เขามีวาระซ่อนเร้น เราอย่าไปเดินตามคนไม่กี่คน ต้องถามคนทั้งประเทศ ไม่มีใครเดือดร้อน  เรื่องนี้เป็นประเด็นของคนบางคน คนส่วนใหญ่ของประเทศมีความชื่นชมและเชิดชู ขอให้ช่วยมองในมุมที่ถูกต้อง”

 

เรียบเรียง  :  กำพลาภร    สำนักข่าวทีนิวส์