ด่วน !!! DSI ยอมรับ "อาคารบุญรักษา" ตอนนี้น่าสงสัยที่สุด! อาจมี "สิ่งสำคัญ" อยู่ในนั้น ???

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ทางวัดชี้แจงประเด็นการขุดคูคลอง บริเวณอาคารบุญรักษาและอ้างว่าถังน้ำมันที่นำมาตั้งไว้เป็นถังเปล่าใช้เพื่อขึงเต้นท์นอนนั้น เป็นคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีทหารเข้าไป การอ้างว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกรุกเข้าไปก็ไม่เป็นความจริง เพราะชัดเจนแล้วว่าเป็นทหาร ส่วนถังน้ำมันที่อ้างว่านำมาขึงเชือกผูกสแลนกันแดดนั้นก็รับฟังไม่ได้ เพราะถังน้ำมันมีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร หากนำมาขึงจริงคาดว่าผู้ที่อยู่ภายในจะต้องนั่งตลอดเวลาหรืออาจตัวเตี้ยมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดบริเวณอาคารบุญรักษา จึงมีมวลชนและพระจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีสิ่งสำคัญก็คงไม่มีระบบป้องกันเข้มงวด

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า พื้นที่บริเวณอาคารบุญรักษาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของเอกชน วันนี้ที่ประชุมจึงมีมติทำหนังสือเรียกเข้ารายงานตัวเพื่อชี้แจงเหตุผลการให้บุคคลเข้าใช้พื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่หวงห้ามแต่กลับยังมีการฝ่าฝืนคำสั่งสร้างสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงออกหนังสือเรียกผู้มีชื่อครอบครองรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในวัด เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีคำสั่งชัดเจนให้ออกนอกพื้นที่แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการจึงต้องเรียกชี้แจงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดหรือไม่

ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และตำรวจ ตชด. ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่มุมสูงบริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อประเมินสถานการณ์หลังการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมพื้นที่พิเศษตามมาตรา 44 เป็นเวลา 20 วันแล้ว และเมื่อวานที่ผ่านมามีความพยายามปฏิบัติการเข้าไปตรวจค้นพื้นที่โซนดี แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะพระและศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ไม่ให้ความร่วมมือและทำการขัดขวาง โดยหลังจากการบินสำรวจแล้วจะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อสรุปและกำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อไป
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีการเรียกรวมกำลังชุดอารักขาและควบคุมฝูงชนอีกไม่ต่ำกว่า 5 กองร้อย เพื่อสับเปลี่ยนกำลังโดยมีการรวมกำลังไว้ที่ ตชด.ภ.1 และ สภ.คลองหลวง และในพื้นที่ ตชด. ยังพบว่ามีการนำรถควบคุมผู้ต้องขังมาจอดไว้จำนวนหลายหลัง
          ด้าน นายอัยย์ เพชรทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายศิษย์วัดพระธรรมกาย นำ นายวุฒิสาร พนารี ผู้ประสานงานมวลชนวัดพระธรรมกายเดินทางมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมกล่าวว่า นำ นายวุฒิสาร มาพบตามหมายเรียกขัดมาตรา 44 ส่วนตนเองซึ่งได้เข้าพบไปก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่กรณีห้ามเคลื่อนไหวในพื้นที่และยุยงปลุกปั่น แต่ยอมรับยังคงเดินสายออกรายการทีวี แต่ก็จะระมัดระวังการให้สัมภาษณ์ และในวันที่ 22 มีนาคม นี้ เตรียมไปให้การในชั้นศาลและจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เรียบเรียง บุญชัย ธนะไพรินทร์