อย่าหลงกลธรรมกายเบี่ยงประเด็นไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/

สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 7 มี.ค. 2560 เกิดกระแสที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็เกิดขึ้นจนได้ นั่นก็คือการเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคสช. เอามาตรา 44 ไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ออกมาจากเครือข่ายวัดพระธรรมกายที่สร้างกระแสนี้ขึ้นมา เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเหตุผลในการขยายความ เรียกร้องให้รัฐบาลคุ้มครองกลุ่มชาวพุทธและพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

อย่าหลงกลธรรมกายเบี่ยงประเด็นไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

 

 

สิ่งที่สังคมควรจะรับทราบคือ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นเยอะแยะนั้น วัดพระธรรมกายเป็นองค์กรที่ได้ประสานมหาเถรสมาคมและจับพระจำนวนหนึ่งไปประจำอยู่ที่วัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านหนึ่งคล้ายกับเป็นการเสียสละ แต่อีกด้านหนึ่งคือการประสานและเชื่อมโยงดูแลอยู่ภายใต้งานกำลังของวัดพระธรรมกาย จึงไม่รู้สึกแปลกที่ภาพของพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมาเคลื่อนไหวในกรณีของวัดพระธรรมกาย

อย่าหลงกลธรรมกายเบี่ยงประเด็นไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

 

 

ข้อเท็จจริงสำหรับการนำมาตรา 44 มาใช้ภายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่ายาที่ใช้นั้นเป็นยาที่อ่อนกว่ายาที่ใช้อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือได้มีการใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและพระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งก็คือพรก.ฉุกเฉิน หนักกว่ามาตรา 44 เสียด้วยซ้ำในการดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเข้มข้น ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้การตัดสินใจทางการเมืองเป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นมาตามลำดับภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะหลังจากที่ได้พยายามมีการเจรจาระหว่างกลุ่มก่อการร้ายกับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่เงื่อนไขการเรียกร้องเป็นไปได้ค่อนข้างสูงและกดดันรัฐบาลไทยอย่างหนักหน่วง เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ได้ดอดเข้าไปเจรจาเอง จึงมีความซ่อนเร้นในความต้องการทางการเมืองของตัวเองผ่านกลุ่มโจรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

 

 

อย่าหลงกลธรรมกายเบี่ยงประเด็นไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

 

 

ต่อมา ก็ได้เกิดกลุ่มใหม่ขึ้นมา คือกลุ่มมาราปาตานี ที่มาจาก 6 กลุ่มด้วยกัน โดย 6 กลุ่มนี้ ได้ทำการเจรจากับรัฐบาลมาตามลำดับ ประกอบไปด้วยกลุ่มบีไอพีพี กลุ่มจีเอ็มไอพี กลุ่มพูโล กลุ่มเอ็มเคพี และกลุ่มบีอาร์เอ็น เรียกได้ว่ารวมกลุ่มหัวเหาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เอาไว้ทั้งหมด สถานการณ์ล่าสุดที่ได้มีการพูดคุยกัน ถือว่าดีมากก็คือ กลุ่มมาราปาตานีกับรัฐบาลไทย ที่ได้เจรจากันเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ณ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีข้อสรุปร่วมกันว่า จะกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซนขึ้นใน 5 อำเภอของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ 1.อำเภอของจ.ปัตตานี 2.อำเภอในจ.ยะลา 3.อำเภอของจ.นราธิวาส และหลังจากนั้นจะทดลองพื้นที่นำร่องขึ้นมาก่อน ในพื้นที่นำร่องจะทำการสำรวจข้อมูล วิเคราะห์ ตั้งคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายในภาคปฏิบัติเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง

 

 

อย่าหลงกลธรรมกายเบี่ยงประเด็นไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

 

 

เพราะฉะนั้น การเคลื่อนไหวของวัดพระธรรมกายที่พยายามโยงไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยในขณะนี้ ล้วนแต่จะไปกระทบกระเทือนงานทางการเมือง การพูดคุยอย่างสันติที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดีเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น เครือข่ายวัดพระธรรมกายจึงควรหยุดเคลื่อนไหว และควรตระหนักว่านอกเหนือจากการต่อต้านการจับกุมของหมายศาลแล้ว ตอนนี้ได้ขยายลุกลามไปยังปัญหาความมั่นคงที่มีความละเอียดอ่อนและเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง.

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ แฟนข่าวสนธิญาณ