เซ็งจริงๆ !! “พล.ท.นันทเดช” ถึงขั้นบ่นหัวเสีย !! DSI +รมว.ยุติธรรม หมดท่ายอมให้ฤทธิ์เดช “ธัมมชโย-ธรรมกาย”รุมทำลายเครดิตจนหมดสิ้น??

ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th

จากกรณีที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกแถลงข่าว ระบุว่า หลังจากนี้ทางวัดและศิษย์วัดพระธรรมกาย จะยุติการชุมนุม ทั้งพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง และพื้นที่วัดพระธรรมกาย ในวันพรุ่งนี้จะไม่เห็นภาพศิษย์นั่งสวดมนต์กีดกันเจ้าหน้าที่ตามประตูต่างๆ และจะเปิดให้พระสงฆ์ที่เป็นพระของวัดพระธรรมกายและพระวัดอื่นๆ รวมทั้งศิษย์เข้ามาประกอบศาสนกิจได้ตามปกติ และจะเคลียร์พื้นที่ต่างๆ ให้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารไว้อยู่ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุ เรื่องจากทางการข่าวพบการแทรกซึมของบุคคลไม่ประสงค์ดี

ล่าสุด พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยระบุว่า...

 

ในทีสุด "ธรรมกาย" ก็ประสบความสำเร็จในการทำลายความเชื่อถือของประชาชน 
ที่มีต่อ ดีเอสไอ. และ รมว.ยธ ลงหมดอย่างสิ้นเชิง และ อาจลามมาถึงรัฐบาลได้ ไม่ยากนัก 

 

ดังนั้น ดีเอสไอ. ต้องอธิบายต่อประชาชนให้เข้าใจให้ได้ว่าทำไม "พระเสพยาบ้า จับสึกทันที" 
แต่ทำไม คนทำผิดตั้ง 200 กว่าคดี ต้องไปพึ่งมาตรการทางสงฆ์  ไม่งั้น เดียวโจรก็ไปบวชเป็นพระกันหมด 

 

ไปเที่ยวมาเก๊าดีกว่า เซ็งจริงๆ เพราะ ผมเริ่มจะเชื่อแล้วว่า ธัมมชโยมีฤทธิ์จริงๆ 

ไม่งั้นจะรอดไปได้อย่างไร ต้องไปปรับทัศนคติตัวเองก่อน ให้จิตเข้มแข็งขึ้น เดี๋ยวจะบ้าตามไปด้วย ครับ??

 

 

เซ็งจริงๆ !! “พล.ท.นันทเดช” ถึงขั้นบ่นหัวเสีย !! DSI +รมว.ยุติธรรม หมดท่ายอมให้ฤทธิ์เดช “ธัมมชโย-ธรรมกาย”รุมทำลายเครดิตจนหมดสิ้น??

ก่อนหน้านั้น มีรายงานการแถลงผลการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นไม่พบตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย หลังจากนี้จะยุติการเข้าตรวจค้น และจัดให้พระธัมมชโยเป็นผู้หลบหนีตามหมายจับ ทางเจ้าหน้าชุดสืบสวนดีเอสไอ ตำรวจ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นตม. ยังไม่พบข้อมูลการออกนอกประเทศของพระธัมมชโย โดยการยุติการเข้าตรวจค้น เนื่องเจ้าหน้าที่คลายข้อสงสัยในเรื่องการที่พระธัมมชโยอาพาธ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งจากการเข้าตรวจ ก็คลายข้อสงสัยและสรุปได้ว่าพระธัมมชโยไม่ได้อาพาธและสามารถเคลื่อนย้ายหลบหนีได้

 

พ.ต.อ. ไพสิฐ ระบุว่า หลังจากนี้ทางวัดและศิษย์วัดพระธรรมกาย จะยุติการชุมนุม ทั้งพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง และพื้นที่วัดพระธรรมกาย ในวันพรุ่งนี้จะไม่เห็นภาพศิษย์นั่งสวดมนต์กีดกันเจ้าหน้าที่ตามประตูต่างๆ และจะเปิดให้พระสงฆ์ที่เป็นพระของวัดพระธรรมกายและพระวัดอื่นๆ รวมทั้งศิษย์เข้ามาประกอบศาสนกิจได้ตามปกติ และจะเคลียร์พื้นที่ต่างๆ ให้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารไว้อยู่ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุ เรื่องจากทางการข่าวพบการแทรกซึมของบุคคลไม่ประสงค์ดี

 

ในส่วนของวัดพระธรรมกาย จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เข้ามาดูแลวัดพระธรรมกายต่อไป ซึ่งวัดก็ไม่ได้คัดค้าน สำหรับคดีที่เกิดขึ้นช่วงบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคดีอาญา 43 คดี มีหมายเรียกบุคคลมารายงานตัว 316 ราย และหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีการขักชวนมาชุมนุม หรือต่อต้าน จะเสนอเรื่องขอยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อส่งเรื่องต่อไปยังคสช. ยืนยันว่ายังไม่ยกเลิกตัดสัญญาณโทรศัพท์ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 

พ.ต.อ. ไพสิฐ ขอวิงวอนให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เนื่องจากคดีฟอกเงิน มีผู้เสียหายกว่า 5 หมื่นคน มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับทางวัด และการทำงานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ใช่อาวุธ เป็นไปอย่างละมุนละม่อม เพื่อป้องกันการสูญเสีย

 

ด้านเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ยืนยันว่าที่ผ่านมาสนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ ตามคำสั่งของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และตามที่กฎหมายบังคับ และถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้พระวินยาธิการหรือตำรวจพระในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ และขอย้ำว่าแม้จะเป็นพระ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ย้ำให้ผู้ที่ทำผิด หันกลับมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยหลังจากนี้จะปรึกษาทนายความให้การปฏิบัติของวัดพระธรรมกายเป็นไปอย่างถูกกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : FB พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์