- 14 มี.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th
จากกรณี นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือน้องคิว อายุ 18 ปี เด็กที่สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน 36,700 บาท เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นเสาหลักได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ส่วนพ่อแท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่น้องคิว 4 ขวบ ขณะพ่อเลี้ยงหลังแม่เสียชีวิตแล้วก็ไม่เหลียวแลและไม่ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย จนนายอธิวัฒน์ หรือน้องคิว ต้องไปขออาศัยอยู่กับนางจันทร์จิรา เกียรตินอก อายุ 43 ปี ผู้เป็นป้า และหลังจากมีการแชร์เรื่องราวผ่านโลกโซเชียล ต่างมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือน้องคิวอย่างต่อเนื่องจนต้องขอปิดรับบริจาคนั้น
โดยในเวลาต่อมา เกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลอีกจนได้ หลังจากมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กแฉมีข้อความกล่าวหาว่า ทั้งป้า และหลานหลอกลวงให้ผู้คนมาบริจาคเงินช่วยค่าเทอม ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ยากจนจริง ทั้งกล่าวหาว่าหลังจากได้เงินบริจาคแล้ว ก็นำไปเข้าร้านอาหาร ซื้อโทรศัพท์มือถือ และนาฬิกา ราคาแพง
จากกรณีดังกล่าวนางจันทร์จิรา ป้าของน้องคิวกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังด้วยว่า พ่อแท้ๆ ของน้องคิว ได้ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก ก็ไม่เคยติดต่อกับแม่น้องคิวอีกเลย กระทั่งแม่น้องคิว ซึ่งก็เป็นน้องสาวของตนเอง ได้มีสามีใหม่คือพ่อเลี้ยงของน้องคิว คนปัจจุบัน ซึ่งสามีใหม่คนดังกล่าวมีลูกติด 3 คน ส่วนน้องคิวเป็นลูกติดน้องสาว และมีลูกด้วยกันเพิ่มอีก 1 คนรวมเป็น 5 คน ช่วงที่น้องสาวยังมีเสียชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร เพราะน้องสาวมีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดไนท์มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูน้องคิวและคนในครอบครัวถือเป็นเสาหลักของบ้าน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
กระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา น้องสาวได้นอนเสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไร และจู่ๆ ร้านขายอาหาตามสั่งที่น้องสาวเคยขายและน้องคิว ก็ไปช่วยขายนั้น พ่อเลี้ยงก็สั่งห้ามเข้าไปยุ่งเขาจะดูแลจัดการเอง ทั้งห้ามเข้าบ้านที่เคยอาศัยอยู่กับแม่โดยบอกให้ต่างคนต่างอยู่
ทำให้น้องคิว ขาดที่พึ่งต้องมาอาศัยอยู่กับตนซึ่งเป็นป้า ต้องคอยอุปการะดูแลมาจนทุกวันนี้ ส่วนกรณีที่ผู้โพสต์กล่าวหาว่าไม่ได้ยากจนจริงแต่ไปโพสต์โซเชียลขอความช่วยเหลือนั้น ก็ชี้แจงว่าไม่เคยบอกว่าตนเองยากจนหรือร่ำรวยแต่ก็มีอาชีพพอเลี้ยงตัวเองและลูกได้ เพียงแค่ช่วงนั้นน้องคิว ซึ่งเป็นหลานที่มาขอที่พึ่งอาศัยหลังแม่เสียชีวิต มาบอกว่าสอบติด ม.เกษตรฯ แล้ว
ทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่าให้จ่ายค่าเทอมงวดแรกเพื่อยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาซึ่งขณะนั้นก็ไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายให้หลาน ส่วนตัวหลานก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตามมา จึงโทรไปปรึกษาแฟนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แฟนก็เลยโพสต์เฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาว่าหากมีผู้ใจบุญให้ยืมเงินเพื่อนำไปเป็นค่าเทอมให้กับน้องคิวที่สอบติดม.เกษตรฯ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หากกู้เงิน กยศ.ได้ก็จะผ่อนจ่ายคืนให้ แต่เมื่อโพส์ตเรื่องราวแล้วก็มีสื่อมาทำข่าว และก็มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยค่าเทอมและค่าเล่าเรียนให้กับน้องคิวจำนวนมาก
สำหรับกรณีที่กล่าวว่าน้องคิวนำเงินที่ได้รับบริจาคไปเข้าร้านอาหาร ซื้อมือถือ และนาฬิการาคาแพงนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ปัจจุบันน้องมีเพียงรถจักรยานยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์ มือถือ และนาฬิกาที่แม่ของน้องเป็นคนซื้อให้ก่อนเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นน้องไม่มีอะไรติดตัวมา
ไม่รู้ว่าคนที่โพสต์กล่าวหามีจุดประสงค์อะไร แต่การที่ทำแบบนี้ทำให้สังคมเข้าใจผิด จนตอนนี้ทั้งตนเองและน้องคิว เครียดมาก โดยเฉพาะน้องสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะนอกจากจะสูญเสียแม่แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้นางจันทร์จิรา ยังยืนยันว่า ข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้ ตนก็จะปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมายเพื่อแจ้งความฟ้องร้องเอาผิดกับผู้โพสต์ข้อความกล่าวหาตนและหลาน และจะปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อไม่ให้เกิดกระแสกระทบจิตใจหลาน อีกทั้งเงินที่ได้รับบริจาคก็เพียงพอกับค่าเล่าเรียนแล้ว พร้อมขอบคุณผู้ใจบุญที่มีเมตตาช่วยเหลือหลาน
เรียบเรียง : นิตติยา บุญตาวัน สำนักข่าวทีนิวส์