- 18 มี.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
สืบเนื่องจากการที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ปทุมธานี บุกเข้าตรวจค้น บริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 1/1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100 ตร.ว. ก่อนพบมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก โดยเบื้องต้นจาการตรวจสอบพบอาวุธปืนสงคราม หลายชนิดจำนวนมาก, เครื่องกระสุนปืน บรรจุใส่กล่องลังบรรจุ, สมุดบัญชีธนาคาร, พาสปอร์ต และเอกสารสำคัญต่างๆ อีกหลายรายการ พร้อมจับกุมผู้ดูแลบ้านได้ 1 คน ตามรายละเอียดที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ถึงเวลาชำระบัญชีดำ!!! "โกตี๋ แกนนำแดงปทุม" หลักฐาน-พยาน ถูกซัดเต็มๆ โยงปมขู่ฆ่าบิ๊กตู่-บิ๊กป้อม งานนี้โดนหนัก!!??
ล่าสุดพบข้อมูลจากการสืบค้นกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า บริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเป็นบริษัทนิติบุคคล เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา โดยมียอดทุนจดทะเบียนจำนวน 1 ล้านบาท แสดงสถานะทางธุรกิจยังประกอบกิจการอยู่ จดแจ้งว่าประกอบธุรกิจ รับเหมา การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย แ ต่มีการแจ้งกรรมการบริษัทเพียงบุคคลเดียว คือ นายธีรชัย อุตรวิเชียร
ขณะเดียวกันพบว่าเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2555 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เคยกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกัน ข่มขู่ คุกคาม การปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยการแถลงข่าวโจมตี หรือการกล่าวปราศรัยตลอดจนวิธีการต่าง ๆ เพื่อบีบบังคับข่มขืนใจ ให้วินิจฉัยคดีให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตน โดยมีการกระทำเป็นกระบวนการร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อดำเนินคดีมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอันเป็นภัยร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
โดยคณะบุคคลดังกล่าวที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับศาลรัฐธรรมนูญ พบว่านอกจากจะมีชื่อแกนนำคนสำคัญของแดงนปช.อย่าง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ถูกแจ้งความในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 และมาตรา 198 และข้อหาที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวและความตกใจโดยการขู่เข็ญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 จากการกล่าวปราศรัยที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2555
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ข้อหาข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 มาตรา 140 และ มาตรา 198 และข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว และความตกใจโดยการขู่เข็ญตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 จากการกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองเวทีมีนบุรี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2555 และจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2555
จสต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และดูหมิ่นศาลศาลในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 และ มาตรา 198 จากการแถลงข่าวผ่านทางทีวีเอเชียอัพเดต เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2555
ยังมีกลุ่มแนวร่วมคนเสื้อแดงปทุมธานี อย่างนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋กับพวกรวม 26 คน ถูกแจ้งความในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่เจ้าพนักงานสอบสวน และโดยรู้อยู่ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่ได้แจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำความผิดเพื่อให้คณะตุลาการรับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 มาตรา 173 และมาตรา 174 เหตุเกิดที่สถานีตำรวจภูธรคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2555
และหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่พฤติกรรมกระทำคุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีร่วมกับนายวุฒิพงศ์ หรือ โกตี๋ ก็คือ นายธีรชัย อุตรวิเชียร ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบริษัท บริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นและพบอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดกรณีข้อขัดแย้งทางการเมืองเมื่อ ผู้ร้อง 5 ราย ประกอบด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์, นายวันธงชัย ชำนาญกิจ, นายวิรัตน์ กัลยาศิริ, นายวรินทร์ เทียมจรัส และนายบวร ยสินทรและคณะ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาวินิจฉัยตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า คณะรัฐมนตรี รัฐสภา พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ,นายสุนัย จุลพงศธร และคณะ และนายภราดร ปริศนานันทกุล และคณะ ได้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมีผลทำให้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 อันเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่