ทุบประวัติศาสตร์!!! “สนช.”ลงมติถอด“สุรพงษ์”ท่วมท้น231เสียง ไม่ถอดแค่4เสียง โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามยิ่งลักษณ์อีก5ปี???

       ทั้งนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุมในเวลา 10.00 น. โดยที่ประชุมเตรียมดำเนินกระบวนการถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกจากตำแหน่ง กรณีการออกหนังสือเดินทางชนิดธรรมดาให้พันตำรวจทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยศในขณะนั้นโดยมิชอบ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด โดยขั้นตอนในวันนี้ จะเป็นการลงมติของสมาชิกว่าจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ด้วยการลงมติแบบลับ เข้าคูหา ซึ่งจำนวนมติที่จะถอดถอนสำเร็จได้นั้น สมาชิกจะต้องมีมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือมากกว่า 150 เสียงขึ้นไปจาก จากสมาชิกทั้งหมด 250 คน

       ทั้งนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุมในเวลา 10.00 น. โดยที่ประชุมเตรียมดำเนินกระบวนการถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกจากตำแหน่ง กรณีการออกหนังสือเดินทางชนิดธรรมดาให้พันตำรวจทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยศในขณะนั้นโดยมิชอบ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด โดยขั้นตอนในวันนี้ จะเป็นการลงมติของสมาชิกว่าจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ด้วยการลงมติแบบลับ เข้าคูหา ซึ่งจำนวนมติที่จะถอดถอนสำเร็จได้นั้น สมาชิกจะต้องมีมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือมากกว่า 150 เสียงขึ้นไปจาก จากสมาชิกทั้งหมด 250 คน

 

       อย่างไรก็ตามล่าสุดผลการลงมติของสนช.ปรากฏว่าให้ถอดถอนนายสุรพงษ์231 เสียง ไม่ถอดถอนแค่4 เสียง  ซึ่งก่อนหน้านี้สนช.ได้ดำเนินการแถลงปิดคดีถอดถอนนายสุรพงษ์  ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาทันทีที่ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหาแถลงปิดคดีจบ นายสุรพงษ์ ได้ลุกขึ้น ร้องขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อสนช.จะต้องลงมติ ทำหน้าที่เหมือนศาล โดยระบุว่า มาตรา 13 รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ระบุว่า การประชุมต้องมีสมาชิกมีไม่น้อยกว่ากึ่ง แต่สมาชิกสนช.เข้ามาฟังแค่ประมาณ 50 คน จึงอยากให้ประธานนับองค์ประชุม

 

       จากนั้นนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1ได้กดออดนับองค์ประชุมเพื่อจะลงมติ ทำให้ สมาชิกสนช.หลายคน อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เป็นต้น ได้ลุกขึ้นอภิปรายทักท้วงคัดค้านการทำหน้าที่ของนายสุรชัยที่ปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาขอมติให้นับองค์ประชุม และยังปล่อยให้พูดจากล่าวร้ายเสียดสี ทำให้รัฐสภาอันทรงเกียรติเสื่อมเสียเหมือนสภาในอดีต