ผบ.ตร.กลัวรึเปล่า?? "เหวง" ขู่ดำเนินคดี "ณัฐวุฒิ" คดีแดงบุกล้มประชุมอาเซียนรุนแรงแน่!?!

สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 4 พ.ค. 2560 เป็นไปตามการนัดหมายครับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. และนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยขอความชัดเจนกรณีที่ถูกพนักงานสอบสวนสภ.พัทยา จ.ชลบุรี ออกหมายเรียกดำเนินคดีข้อหาสร้างความปั่นป่วนก่อความวุ่นวายให้บ้านเมือง ในงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนพัทยา เมื่อปีพ.ศ.2552 โดยมีพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับหนังสือ

ประเด็นของการร้องขอความเป็นธรรม แกนนำนปช.ได้กล่าวว่า ตนเองนั้นได้ถูกดำเนินคดีที่สน.ดุสิตแล้ว ได้เข้ามอบตัวและสู้คดี ดังนั้นเมื่้อมอบตัวและสู้คดีที่สน.ดุสิต คดีก็อยู่ในความรับผิดชอบของสน.ดุสิตมาตั้งแต่ต้น แต่พนักงานสอบสวนที่ตั้งโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้แจ้งข้อหากับพวกตน เพราะเห็นว่าการกระทำของพวกตนอยู่ในท้องถิ่นสน.ดุสิต และแจ้งข้อหาเฉพาะบุคคลที่ไปในพื้นที่สภ.พัทยา นี่เป็นเหตุผลที่หยิบยกมาอ้างครับ

 

 

แต่ที่ร้ายกว่านั้น นายแพทย์เหวงมาแรง บอกว่า ถ้าหากใช้กฎหมายดำเนินการกับคุณณัฐวุฒิอาจจะมีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้นได้ กราบเรียนไปยังผบ.ตร. อย่าทิ้งเรื่องนี้ให้ดำเนินช้า สามารถจะตัดสินใจได้เลยว่าเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของสภ.พัทยาหรือสน.ดุสิต หากปรากฏชัดแล้วให้มีหนังสือแจ้งไปยังสภ.พัทยา ให้ยืดเวลาออกไปเสียก่อน เพราะมันไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

 

 

 

ก็ต้องกลับมาทำความเข้าใจกันล่ะครับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยานั้น ได้เป็นประเด็นเพราะมีการเปิดเผยคลิปที่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง บอกว่านายณัฐวุฒิเป็นคนสั่งการและให้เงินในการดำเนินการ ดังนั้น เมื่อมีการเปิดเผยคลิปดังกล่าวออกมา ก็มีแกนนำกปปส.ของจังหวัดชลบุรี และเป็นอดีตผู้รับสมัครการเลือกตั้งสภาเทศบาลเมืองชลบุรีของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าแจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายเพิ่มเติมไปอีก 5 คน ประกอบไปด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นาแยพทย์เหวง โตจิรการ, นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

 

 

 

 

แต่การชุมนุมที่จังหวัดกรุงเทพ มีความผิดที่สน.ดุสิต นั่นก็เป็นเหตุการณ์หนึ่ง ส่วนเหตุการณ์ที่พัทยา ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นคนละเหตุการณ์ คนละวาระกัน ซึ่งแน่นอนว่าแกนนำนปช.มีโอกาสที่จะกลัวและหวั่นไหวคดีนี้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 13 คนของคดีนี้ ที่สำคัญ เมื่อศาลพิพากษาให้จำคุกในชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว ยังไม่ได้ให้มีการประกันตัวอีกด้วย ต้องติดตามกันต่อไปล่ะครับว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะกลัวคำขู่ของนายแพทย์เหวงหรือไม่ หรือว่าจะดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป.

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณ แฟนข่าวสนธิญาณ