เคลียร์ชัดประเด็นฉาวสีกากี!!! ผบ.ตร.ทนไม่ไหวออกมายอมรับแล้วว่า“โจ๊กหวานเจี๊ยบ”คือ“ผบก.สปพ.191”สั่งดำเนินคดีคนที่ออกมาปูดซื้อขายเก้าอี้(คลิป)

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงชี้แจงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รองผบก.) วาระประจำปี 2559 โดยเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และระบุด้วยว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซื้อขายตำแหน่งด้วยตัวเลขสูงกว่ากองบัญชาการอื่นเป็น 2 เท่า และตัวการใหญ่นั่งอยู่ในกทม. ยศพลตำรวจตรี เป็นใคร พวกตำรวจรู้กันดี คนๆนี้ใหญ่กว่า พลตำรวจเอกเสียอีก ขณะเดียวกันนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้วิเคราะห์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

"สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ครับ วันนี้วันที่ 14 มิถุนายน 2560 ครับ บอกแล้วว่าเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสส.และรมต.หลายสมัคร ของพรรคประชาธิปัตย์ อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส. ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลมีการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8ว่า และโยนระเบิดต่อว่าในนครบาลมีมากกว่านี้เพราะแพงกว่า2เท่า และก็ตอกย้ำว่าในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีพล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ไม่ได้หรอกครับต้องออกมาพูดตอบโต้ แน่นแนครับวันนี้ได้ออกมาแจกแจง และได้เคลียร์หลายประเด็นให้ชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นของ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. พล.ต.อ. นั้น

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่า ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมใหญ่ที่สุด มันชัดเจนอยู่แล้ว มีเพียง นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ใหญ่กว่าผม และที่มีการกล่าวหาว่า คนนั้นคนนี้อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้ง ไม่มีอยู่แล้ว และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ว่า เข้ามามีอิทธิพลให้การทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ยืนยันด้วยตัวเองว่า โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ก็คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.(191) ลูกน้องของตนเอง ไม่มีอะไร ยอมรับว่า บางครั้งตนก็ใช้งานให้ไปตรวจสอบข้อมูลบุคคลบ้าง ให้ไปเช็คทางลับ จึงอาจถูกเข้าใจผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องในการทำบัญชี โยกย้ายไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อีกประเด็นหนึ่งถามว่าเพราะ โจ๊ก หวานเจี๊ยบ สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร (วงษ์สุวรรณ) รองนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ จึงถูกพาดพิง เอาละครับถึงวันนี้ไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่าโจ๊ก หวานเจี๊ยบ คือใคร ส่วนกรณีของ นายวิทยา แก้วภราดัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็บอกว่า ไม่รู้คะนองปาก หรือมีเหตุผลอะไร ที่ออกมาพูดแบบนั้น คงต้องให้ นครบาล และฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่า เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือเปล่า หากหมิ่นองค์กร หรือบุคคลใด ทำให้เสียหาย ก็ต้องดำเนินคดี ล่าสุดละครับ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการกองกฎหมายและคดี จะเป็นผู้รับไปดำเนินการพิจารณาว่าที่สุดแล้ว นายวิทยา เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ กรณีของนายวิทยา แก้วภราดัย ไม่ได้เป็นกรณีแรกหรอกครับ

ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เคยดำเนินคดีกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ ก็ในเรื่องที่ไปพาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของการโยกย้ายซื้อขายตำแหน่ง ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ อาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณะบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ไปเสวนาในหัวข้อเรื่อง ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร ก็ทำเอาพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา รักษาราชการแทนผู้กำกับฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพบ พ.ต.ท.ยุต ทองอยู่ รองผู้กำกับการสอบสวนตำรวจนครบาลลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ให้แจ้งความดำเนินคดี กับอาจารย์สังศิต เพราะฉะนั้นกรณีของนายวิทยา แก้วภราดัย ไม่ได้เป็นกรณีแรก นี่เป็นวิธีการตอบโต้ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้เมื่อมีการกล่าวหาว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง แน่นอนละครับข้อกล่าวหานี้ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียแน่นอน แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไม ข้อกล่าวหาทุกมีมาทุกๆปี และประชาชนเชื่อถือซะด้วยซ้ำ