“ถ้าให้ผมไปยกมือให้คนของพวกนั้น เอาผมไปยิงทิ้งดีกว่า” วัฒนาปลุกนักการเมืองต้องมีศักดิ์ศรี บอกอย่าทน-ต้องสู้ ไล่รบ.ออกไปได้แล้ว???

จากกรณีกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้จัดงาน START UP PEOPLE : START Talk & Music ครบรอบ 85 ปี 24 มิถุนายน ที่ลานชั้นใต้ดินอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ถนนราชดำเนิน ซึ่งภายในงานมีคนมาร่วมงาน อย่าง นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว พันตรีพุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ทายาทพระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.

       ทั้งนี้นายวัฒนา ได้กล่าวช่วงหนึ่งของงานด้วยว่า ประเทศที่ปกครองด้วยประชาธิปไตยนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ มักเปลี่ยนแปลงด้วยสันติ แต่ประเทศที่ตัดสินใจด้วยคนคนเดียว เมื่อเกิดปัญหามักมีความวุ่นวายไม่รู้จบ สังคมไทยเป็นสังคมดัดจริต ไม่มีจุดยืน ไม่มีระบบคิดที่มีเหตุผล พยายามหาพระอรหันต์ในการเมืองจากการเลือกตั้งหรือจากยุคเผด็จการ ทั้งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องสร้างระบบที่ให้ความมั่นใจ เพราะถ้าไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่น่าเชื่อถือ ก็ไม่อยากมีใครมาลงทุน ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจขั้นรุนแรง

 

       “ตอนนี้รัฐบาลทำทุกมาตรการหมดแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น ดังนั้นรัฐบาลปัจจุบันต้องออกไปได้แล้ว ถ้าออกไปได้เมื่อไหร่ ประเทศชาติจะดีขึ้น นักการเมืองต้องมีศักดิ์ศรี ถ้าให้ผมไปยกมือในสภาฯให้คนของพวกนั้น เอาผมไปยิงทิ้งเสียดีกว่า เรากำลังจะอภิวัฒน์สยามอีกครั้ง จะทำได้โดยทุกคนต้องตั้งใจ ผมเชื่อมั่นว่าปี 2561 มีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะคนที่มีอำนาจตอนนี้ดื้อไม่ได้แล้ว ขอให้เราทุกคนมั่นใจว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงได้ ตั้งแต่มีโลกใบนี้ ผมไม่เห็นว่าเผด็จการที่ไหนชนะประชาชน อย่าทนยอมรับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องสู้กับมัน แล้วมันจะถอย” นายวัฒนา กล่าว

 

 

       นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า แม้ประชาธิปไตยของไทยมีอายุมาก 85 ปีแล้ว แต่เนื้อในสาระของความเป็นประชาธิปไตยยังเยาว์วัยอยู่ ต้องการต่อสู้การเติบโตอีกมาก เส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่มีใครจ้างใครได้ การปกครองประชาธิปไตยเปิดโอกาสให้คนคิด ให้ตัดสินใจได้ และเคารพความเป็นมนุษย์ แต่การปกครองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยใครคนหนึ่งจะตั้งกรอบความคิดเดียว อย่างเช่น สิ่งที่เรียกว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การเรียกร้องประชาธิปไตย เราอย่าไปกดดันตัวเอง ตอนนี้เรายังไม่แพ้ ตนเชื่อว่า คณะผู้มีอำนาจปัจจุบันกำลังประเมินสถานการณ์เช่นกัน อำนาจหอมหวานอย่างนี้ใครอยากอยู่สั้น แต่มันไม่หมู  อำนาจนั้นมีเวลาร่วงโรยและอ่อนแอ แต่สำคัญที่ประชาชนในสังคมประชาธิปไตยอย่าเพิ่งอ่อนแอไปก่อน อย่างไรก็ตามในขณะที่นายสิรวิชญ์ เปิดเผยว่าจะจัดกิจกรรมแบบเดียวกันนี้ไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยแก่ประชาชนทั่วประเทศด้วย