ไหนว่าจำนำข้าวไม่มีโกง?!?“ปปท.”เชือดอีก139จนท.รัฐทุจริตเก็บรักษาข้าวทำปท.สูญกว่า1.4 แสนล้านสั่งย้ายด่วนแล้ว!!ส่งอัยการฟ้องศาล-สอบฟอกเงิน???

       จากจากกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อนัดสืบพยานจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามมาตรา157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท และได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกไปเผชิญสืบโรงสีข้าวและคลังข้าวจังหวัดอ่างทอง 16 แห่งด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบความเสียหายและการทุจริต จึงน่าจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวของตนเองไม่ได้ทุจริตและเน่าเสียอย่างที่ถูกกล่าวหา

       ล่าสุดนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ท.ได้มีมติให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้าที่ส่งมาจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่ต่างๆ รวม 36 จังหวัด 990 คดี โดยมีผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 139 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 147,259 ล้านบาท รวมปริมาณข้าวได้รับความเสียหาย 41.5 ล้านตัน

 

       “แบ่งเป็นองค์การคลังสินค้า (อคส.) 720 คดี รวมเสียหายกว่า 119,985 ล้านบาท โดยมีปริมาณข้าวได้รับความเสียหาย 39.1 ล้านตัน และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) 270 คดีมูลค่าความเสียหายกว่า 27,273 ล้านบาท ปริมาณข้าวได้รับความเสียหาย 2.4 ล้านตัน ส่วนการดำเนินคดีตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. 2560 เป็นต้นมา มีความคืบหน้าของการดำเนินคดีในแต่ละคดีประมาณ 70% ขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา 211 คดี”

       นอกจากนี้เลขาปปท. ยังเปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจะเริ่มเสนอรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ดำเนินการเสร็จสิ้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อพิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป ซึ่งเมื่อคณะกรรมการป.ป.ท.ชี้มูลความผิดแล้ว เมื่อมีมูลความผิดทางอาญาจะส่งพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหรือภาคต่างๆ ต่อไป และกรณีที่เป็นความผิดทางวินัยก็จะส่งเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัยด้วย

 

       อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินการมาตรการทางวินัยและมาตรการทางปกครองตามคำสั่ง คสช.นั้น สำนักงาน ป.ป.ท.ได้แจ้งเรื่องไปยัง อคส.และ อกต.ให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว ซึ่งทาง อคส.ได้ดำเนินการทางปกครองปรับย้ายเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ประจำ อคส.ด้วยแล้วรวมถึงได้มีการส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินการด้วย