- 07 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
กรณีเกิดเหตุพระสำนักปฏิบัติธรรมพุทธยันตี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ประกอบพิธีเผาศพไร้ญาติ ทราบชื่อคือนางอ้วน พัฒนะประเสริฐ อายุ 81 ปี แบบเชิงตะกอน แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจ เพราะอยู่ในเขตชุมชน จึงเข้าไปห้าม ทำให้มีปากเสียงกับเจ้าสำนักฯ ซ้ำยังโดนเอาน้ำมันก๊าดสำหรับเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟเผาศพสาดไปที่ชาวบ้านแล้วสั่งให้พระในสำนักฯ กว่า 20 รูป จุดไฟเผาทั้งเป็น ขณะที่ตำรวจสน.ธรรมศาลาสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ล่าสุดวานนี้ (6 ก.ค.) พระเมตตาสุพจน์สุวจโน สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เผยว่า สำนักฯ ได้ประกอบพิธีทางศาสนาและฌาปนกิจศพนางอ้วน ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในสำนักฯ มานานกว่า 5 ปี ด้วยวิธีเผาแบบเชิงตะตอน เนื่องจากสำนักไม่มีเมรุ หรือเตาเผา และมีใบมรณบัตรที่สามารถให้ดำเนินการตามหลักศาสนาได้ โดยวันเกิดเหตุ กลุ่มชาวบ้านที่ไม่พอใจได้มาห้ามปรามไม่ให้เผา แต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ทำให้มีเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย
ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เจ้าสำนักฯ ได้ราดน้ำมันใส่ชาวบ้าน 2 คนที่เข้ามาห้าม และสั่งให้เผาทั้งเป็นนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งเหตุการณ์ชุลมุนขณะนั้นทำให้น้ำมันก๊าดหกไปโดนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าสำนักฯ
ด้าน นายโก๊ะ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นหลานของชายที่อ้างว่าถูกเจ้าสำนักฯ ราดน้ำมันก๊าดใส่ เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวได้เข้าไปห้ามพิธีการดังกล่าว เพราะการฌาปนกิจศพแบบเชิงตะกอนนั้นผิดกฏหมาย ซึ่งมองว่าศพดังกล่าวสามารถนำไปฌาปณกิจในวัดใกล้เคียงที่มีเมรุได้
ส่วนเหตุการณ์ขณะเจ้าสำนักราดน้ำมันก๊าดใส่ลุงของตนนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่จังหวะชุลมุน แต่เป็นเพราะพระจะจุดไฟเผาศพตอนแรก และเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกตนว่าให้ไปเอาถังดับเพลิงมาช่วยฉีด แต่พอเมื่อนำมาฉีด เจ้าสำนักก็นำน้ำมันมาราดใส่ทันที และสั่งให้พระรูปอื่นจุดไฟเผา ตนจึงบันดาลโทสะ ด้วยการเข้าไปต่อยพระ และเกิดเหตุการณ์ชุลมุน
นายโก๊ะยอมรับว่า ตนไม่เคยนับถือสำนักสงฆ์นี้ จึงไม่เคยเข้ามาทำบุญที่นี่ ที่ผ่านมาเรียกว่าต่างคนต่างอยู่มากกว่า เพราะรู้พฤติกรรมของพระส่วนใหญ่ในสำนักฯ นี้ดี เช่น บางครั้งมีหมูกระทะมาส่งตอน 4-5 โมงเย็น บางทีก็เล่นไฮโลกันหลังกุฏิ รวมถึงพฤติกรรมชอบดื่มสุรา ซึ่งตนเห็นด้วยตาตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาล เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว คู่กรณีทั้งสองฝ่ายสามารถพูดคุยตกลงกันได้ลงตัว โดยวันเกิดเหตุตำรวจได้อยู่ในเหตุการณ์ และควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ส่วนกรณีมีชาวบ้านอ้างว่าถูกเจ้าสำนักฯ ราดน้ำมันนั้น จำเป็นต้องมีผู้เสียหายมาแจ้งความว่าพยายามฆ่าก่อน ตำรวจจึงจะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม สามารถเอาผิดสำนักสงฆ์ดังกล่าวฐานเผาเชิงตะกอน ตามพ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถานได้ ซึ่งมีโทษปรับ 2,000 บาท
ส่วนศพนางอ้วน ขณะนี้เจ้าหน้าที่นำไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อตามหาญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้ถูกต้องต่อไป
สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวได้ใช้วิธีการการเผาศพแบบดั้งเดิม เนื่องจากทางวัดไม่มีเมรุเผาศพนั้น นางสมรรัตน์ อรรถนิตย์ ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา เปิดเผยว่า สำนักสงฆ์จะต้องขออนุญาตเพื่อตั้งเมรุก่อน จึงเผาศพได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เตรียมที่จะรวบรวมหลักฐานว่าที่ดินที่สำนักปฏิบัติธรรมตั้งอยู่เป็นของใคร และเช่าแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนเรื่องพระเขมรภายในสำนักฯ เมื่อเข้ามาตรวจสอบในวันนี้ ปรากฏว่าไม่มีพระอยู่แล้ว คาดว่าได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
กรุณารอคลิปสักครู่...
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี