การันตี!!! "อธิบดีกรมอุทยานฯ" ยันที่ดิน 7 หมื่นไร่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังปลอดภัย ไล่จับดำเนินคดีเพียบ!!!

ติดตามข่าวเพิ่มเติม www.tnews.co.th

จากกรณี นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉว่า มีกลุ่มนายทุน นักการเมือง และข้าราชการผู้มีอิทธิพลเข้าไปบุกรุกถือครองที่ดินในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ถึง 70,000 ไร่ และได้ยื่นขอเพิกถอนไปยังกรมที่ดิน แต่การเพิกถอนเป็นไปอย่างล่าช้า จนเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจนั้น
       
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าววันนี้ (25 ส.ค.) ว่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ได้รับการประกาศจัดตั้งตามกฎหมาย เมื่อปี พ.ศ.2518 ให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือแรมซาร์ไซด์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นลำดับที่ 948 ของโลก มีเนื้อที่ 285,625 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำนานาชนิด จึงถือได้ว่าเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งที่จะต้องอนุรักษ์ไว้เพื่อให้อำนวยประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างยั่งยืนตลอดไป

 

การันตี!!! "อธิบดีกรมอุทยานฯ" ยันที่ดิน 7 หมื่นไร่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังปลอดภัย ไล่จับดำเนินคดีเพียบ!!!

การขอออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย สามารถกระทำได้โดยวิธีเดียว คือ ผู้นั้นจะต้องมีหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น ส.ค.1, น.ส.3 และในการออกเอกสารสิทธิจะต้องดำเนินการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) โดยให้มีคณะกรรมการประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย อันได้แก่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่ดิน

แต่จากการตรวจสอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในเบื้องต้นพบว่า ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่ 2 ประเภท คือ มีการนำ ส.ค.1 จากที่อื่นมายื่นขอ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ส.ค.บิน และอีกประการ คือ การประกาศเดินสำรวจรังวัด ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ไม่สามารถดำเนินการเดินสำรวจได้

 

การันตี!!! "อธิบดีกรมอุทยานฯ" ยันที่ดิน 7 หมื่นไร่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังปลอดภัย ไล่จับดำเนินคดีเพียบ!!!
       
ด้วยเหตุผลข้างต้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงได้ประสานไปยังกรมที่ดิน เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิเหล่านั้น โดยในช่วงแรกเมื่อปี พ.ศ.2548 ได้ตรวจพบการออกเอกสารสิทธิที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนำไปสู่การเพิกถอนแล้ว โดยสรุปดังนี้
       

1.ได้ดำเนินคดี ส.ค.1 ปลอม จำนวน 33 ฉบับ เนื้อที่ 1,523-1-00 ไร่ ท้องที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และดำเนินคดี ส.ค.1 ผิดตำแหน่ง (ส.ค.1 บิน) จำนวน 10 ฉบับ เนื้อที่ 317-3-00 ไร่ ท้องที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
       
2.ได้เพิกถอน น.ส. 3 ก ที่ออกโดยมิชอบ จำนวน 30 ฉบับ เนื้อที่รวม 1,313-1-00 ไร่ ท้องที่ ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา จำนวน 15 ฉบับ เนื้อที่ 600-2-00 ไร่ ท้องที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จำนวน 15 ฉบับ เนื้อที่ 712-3-00ไร่ ตามคำสั่งกรมที่ดินที่ 3005/2547 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2557 ที่ 2932 /2548 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 ที่ 2175/2547 ลงวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2547 และที่ 1089 /2547 ลงวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2547 ซึ่งเป็นการออกโดยการใช้ ส.ค.1 ไม่ถูกต้องสอดคล้องต่อพื้นที่จริง (ส.ค.1 บิน) และไม่ดำเนินการตามกฎกระทรวงที่ 43 (พ.ศ.2537) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

     
ต่อมา ในปี พ.ศ.2553 ได้มีหนังสือแจ้งกรมที่ดิน เพื่อขอให้ดำเนินการเพิกถอนฯ อีกจำนวน 136 ฉบับ เนื้อที่ 4,500 ไร่ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า ยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินในส่วนนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังมีเอกสารสิทธิที่อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบอีกประมาณ 3,000 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 70,000 ไร่ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ มิได้นิ่งนอนใจ เร่งรัดการดำเนินงานมาโดยตลอด โดยออกคำสั่งให้มีการจัดตั้งสำนักงานตรวจสอบ พิสูจน์การถือครองหนังสือแสดงสิทธิที่ดิน ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศขึ้นเป็นการเฉพาะ

 

การันตี!!! "อธิบดีกรมอุทยานฯ" ยันที่ดิน 7 หมื่นไร่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังปลอดภัย ไล่จับดำเนินคดีเพียบ!!!


       
ส่วนการที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์เสนอให้มีการใช้ ม.44 เพื่อดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เข้าใจว่าคงเป็นความปรารถนาดีของนายนริศ ที่ต้องการให้รัฐบาลใช้มาตรการที่เข้มข้น เอาผิดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในครั้งนี้
       
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ขอน้อมรับความคิดเห็นนี้ จะสั่งการให้มีการเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะเร่งรัดการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ขั้นตอนการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที