จี้ตรงๆ!! "วัชระ"เตือน คสช. "โอ๊ค"หนีไปอยู่กับพ่อกับอาแน่ หากโดนคดีฟอกเงินกรุงไทย พร้อมระบุ"ทหารแตงโม-ตร.มะเขือเทศ" ยังมีอยู่อย่าชะล่าใจ 

 

แรงส์!! "วัชระ" เตือน คสช. "โอ๊ค" หนีแน่ หากโดนคดีฟอกเงินกรุงไทย เพราะคงรีบติดตามอาสาวไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศอย่างแน่นอน พร้อมระบุ "ทหารแตงโม-ตร.มะเขือเทศ" ยังมีอยู่อย่าชะล่าใจ 

วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ซึ่งล่าสุดวานนี้ ที่ประชุมคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ , นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีมติสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหา "นายพานทองแท้" ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยมีกรอบกำหนดระยะเวลาการทำคดีให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อนออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาเข้ามาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานต่อไป

ล่าสุดต่อกรณีนี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า หากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ นายพานทองแท้ คงรีบติดตามอาคือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไปอยู่กับพ่อคือนายทักษิณ ชินวัตรที่ต่างประเทศอย่างแน่นอน ไม่กล้าอยู่ประเทศไทยในยุคที่กฎหมายบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแน่

"ถ้านายพานทองแท้หนีไปต่างประเทศได้อีกคน คสช.คงเสียเครดิตมากกว่าคำพูดของนายชัยเกษมและคุณหญิงสุดารัตน์เสียอีกเพราะฉะนั้น คสช.จึงควรสั่งการให้เจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการหลบหนีของนายพานทองแท้ ชินวัตร เสียแต่เนิ่นๆ อย่าคิดว่าทหารแตงโม หรือตำรวจมะเขือเทศจะหมดพันธุ์ไปแล้ว" นายวัชระ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายชัยเกษม นิติสิริ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมาโจมตี DSI กรณีนี้นั้น นายวัชระให้ความเห็นว่า เพราะต้องการจะลดความน่าเชื่อถือของ DSI และกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ "ซึ่งที่จริงคนทั้ง 2 ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนแทนนายพานทองแท้" นายวัชระ ย้ำ

 

ทั้งนี้ สำหรับคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่จะดำเนินคดีกับนายพานทองแท้นั้น ที่ประชุมคดีฟอกเงินจากคดีดังกล่าว ซึ่งประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ , นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีมติสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหา "นายพานทองแท้" ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินแล้วตั้งแต่วานนี้ โดยมีกรอบกำหนดระยะเวลาการทำคดีให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อนออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาเข้ามาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานจ่อไป