25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

ศุกร์ 13 วันที่ใครหลายคนเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ แม้ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับแต่ก็ต้องมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในวันนี้ ซึ่งมันอาจเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญที่ประจวบเหมาะเกิดขึ้นในวันอาถรรพ์ อย่างเหตุการณ์เมื่อ 25 ปีที่แล้ว สร้างความตกใจไปทั่วโลกเมื่อโรงแรมดังใจกลางเมืองโคราชเกิดถล่มลงมาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

 

ศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 เวลา 10.12 น. โรงแรมรอยัลพลาซ่าซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังในสมัยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมครบวงจรที่มีสถานบันเทิงครบครัน เกิดถล่มลงมากลายเป็นเหตุการณ์อีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ หายนะช็อกโลกที่ชาวโคราชต้องจดจำถึงทุกวันนี้ โรงแรมรอยัลพลาซ่า ตั้งอยู่ระหว่างถนนจอมสุรางค์ และถนนโพธิ์กลาง เพราะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง กลางเมืองโคราช หายนะครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 137 คน บาดเจ็บ 227 คน กลายเป็นโศกนาฏกรรมช็อกโลก เพราะสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศต่างเดินทางเข้ามาทำข่าวและปักหลังอยู่แรมเดือน

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม
 

ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ขณะเกิดเหตุมีการอบรมสัมมนาทำให้มีผู้อยู่ในอาคารเป็นจำนวนมากกว่า 400 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 47 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไปที่พักอยู่ในโรงแรมและพนักงานโรงแรม ซึ่งอย่างที่บอกว่าโรงแรมนี้เป็นโรงแรมชื่อดังและมีแผนการต่อเติมเพื่อขยายโซนต่างๆ แต่เดิมโรงแรมรอยัลพลาซ่ามีชื่อว่า “โรงแรมเมืองใหม่เจ้าพระยา” เป็นโรงแรมที่มีสถานบันเทิงครบครันอาทิ อาบอบนวด คาเฟ่ เอ็กเซ็คคิวทีฟผับ เลเซอร์เธค บาร์เบอร์ เป็นโรงแรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

หลังจากเปลี่ยนชื่อได้ปรับปรุงใหม่และมีการต่อเติมอาคารจาก 3 ชั้นเป็นอาคาร 6 ชั้น พร้อมห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่อยู่ชั้น 6 นอกจากโปรเจ็กต์ขยายตึกโรงแรมเป็น 6 ชั้นแล้ว ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทำอีกคือ ปรับปรุงคาเฟ่ ซึ่งเป็นแม่เหล็กสถานบันเทิงที่ทำรายได้ดีใหม่ทั้งหมด และจะสร้างอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ใช้งบสูงถึง 30 ล้านบาท สามารถจอดรถได้ 400 คัน และหวังจะจัดงานใหญ่ ฉลองครบรอบ 10 ปีโรงแรมในเดือนพฤศจิกายน 2536 แต่มาเกิดเหตุโรงแรมถล่มในวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ก่อน

 

โรงแรมเมืองใหม่เจ้าพระยา (ชื่อเดิม) ถูกมองว่าเป็นโรงแรมที่มีอาบนวดใหญ่ที่สุดในโคราช และมีการดำเนินธุรกิจล้มเหลวจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ยึดทรัพย์ ก่อนที่ผู้ถือหุ้นชุดใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์ และได้ฟื้นฟูกิจการ โดยมี นายเลอพงษ์ พัฒนจิตวิไล เป็นประธานบริษัทฯ นายชาตรี ล้อเลิศรัตน, นายสัญชัย สุรโชติมงคล, นายซิม แตมสำราญ, นายเลิศ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล เป็นกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารโรงแรมคือ นายวิทยา วงศวัชรกาญจน์ เป็นผู้จัดการทั่วไป แต่ปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว

 

เหตุการณ์โรงแรมถล่มที่โคราชครั้งนั้นน่าจะเป็นอุทาหรณ์และเป็นคดีตัวอย่างให้กับผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ถึงการดำเนินการก่อสร้างอาคารและการอนุญาตแบบแปลนก่อสร้างอาคารที่ไม่ถูกต้องตามหลัก พรบ.ควบคุมอาคาร จากการต่อเติมโรงแรมเพิ่มอีก 3 ชั้น ทำให้เสารับน้ำหนักตัวอาคารไม่ไหว และโครงสร้างเสายังไม่ได้เชื่อมยึดติดกัน เมื่อเสาที่ตั้งอยู่บนคานแบกรับน้ำหนักมากเกินไป จึงทำให้คานหลุดออกจากหัวเสาที่ชั้น 2 ทำให้โครงสร้างอาคารบนหัวเสายุบตามและส่งแรงดึงรั้งกระทบเสาต้นข้างเคียงให้หักล้มตามมาในที่สุด เพราะความมักง่ายในครั้งนั้นสุดท้ายต้องสังเวยด้วย 137 ชีวิต และเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันลืมของ 227 คน โดยเหตุการณ์ตึกกำลังถล่มลงมาเป็นเวลาเดียวกันที่ นายวิทยา วงศ์วัชรกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเดินทางมาถึงโรงแรมพอดีและเห็นภาพอาคารถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

ในตอนนั้นกู้ภัยของไทยได้รับการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตในซากตึกโรงแรมรอยัลพลาซ่าแต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีผู้ประสบเหตุจำนวนมากและไม่มีเครื่องมือหนักในการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ต้องคลานเข้าไปใต้ซากอาคารที่อาจถล่มซ้ำลงมาได้ทุกเมื่อ ซึ่งต้องมีการระดมความช่วยเหลือกันตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับการฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ได้สิ้นสุดไปเมื่อปลายปี 2543 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายบำเพ็ญ พันธ์รัตนอิสระ วิศวกรควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ส่วนผู้บริหารโรงแรมทั้งหมดพิพากษายกฟ้อง ด้วยเหตุผลจากคำพิพากษา เพราะผู้บริหารโรงแรมไม่มีความรู้เรื่องโครงสร้างโดยได้ว่าจ้างวิศวกรคือ นายบำเพ็ญ ซึ่งมีความรู้มารับผิดชอบในการต่อเติมอาคารโรงแรม ดังนั้นผู้บริหารจึงไม่มีความผิด ศาลจึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทางคดีแพ่งนั้นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิต ศาลได้พิพากษาให้ บริษัท รอยัลพลาซ่าโฮเตล จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด ทางโรงแรมได้ชดใช้เงินให้กับผู้เสียชีวิตรวม 5 ล้านบาท และเงินที่รับบริจาคอีก 5 แสนบาท เฉลี่ยแล้วผู้เสียชีวิต ญาติได้รับเงินรายละ 80,000 บาท และผู้พิการได้รับรายละ 50,000 บาท

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้น ทุกๆ วันที่ 13 สิงหาคม ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต นำโดย นายชวลิต ตันฑเศรณีวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่เสียขาทั้งสองข้างจากตึกถล่ม ได้รวมตัวกัน ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เคราะห์ร้ายเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มอีกทางหนึ่ง และยังเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในครั้งนั้นอย่างที่ไม่มีใครลืมได้

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

25 ปี ย้อนอาถรรพ์ ศุกร์ 13 โรงแรมดังในโคราช ถล่ม

 

ปัจจุบันที่ดินของอดีตโรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มกลางเมืองโคราช เป็นกรรมสิทธิ์ของ “ศิลาปาร์ค” เจ้าของโรงแรมดิไอยรา

 

ขอบคุณ : executivekorat.com